แนวโน้มราคา และกลยุทธ์การลงทุนทองคำ วันที่ 18 พ.ค. 2561

18 / 05 / 2561 09:54


บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ประเมิน แนวโน้มวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลี กดดันสกุลเงินยูโรให้ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน จนสร้างแรงกดดันทองคำ เนื่องจากพรรค 5-Star Movent และพรรค League ของอิตาลี พยายามหาจุดยืนร่วมกัน เพื่อพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ ประกอบกับพรรคการเมือง 2 พรรคอาจจะเรียกร้องให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยกหนี้จากตราสารหนี้อิตาลีมูลค่า 2.50 แสนล้านยูโร (2.96 แสนล้านดอลลาร์) ที่ซื้อภายใต้โครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของ ECB ให้กับอิตาลี

ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นจนลดความน่าสนใจทองคำลง จากแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างรองนายกรัฐมนตรีจีนและรัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ เมื่อนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว คาดการณ์ว่า สัมพันธ์อันดีระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้า อย่างไรก็ตามแรงขายในตลาดทองคำชะลอลง เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.063% หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากวิกฤติกรณีที่กองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์บริเวณพรมแดนฉนวนกาซาหลายสิบคน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นภัยคุกคามต่อข้อตกลงในการปรองดองระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์  เมื่อทางการตุรกีเชิญทูตอิสราเอลประจำตุรกีเดินทางออกจากตุรกี โดยไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน

ขณะที่อิสราเอลก็ได้สั่งให้กงสุลตุรกีในนครเยรูซาเล็มออกจากประเทศโดยไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนเช่นกัน ระยะสั้นแนะนำนักลงทุนติดตามประเด็นความตึงเครียดระหว่างประเทศ เพื่อประเมินแนวโน้มราคาทองคำต่อไป โดยซื้อขายทองคำในระยะนี้ด้วยความระมัดระวัง วายแอลจีอยากชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะประเด็นข่าวเหล่านี้มักจะชี้นำราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวผันผวนลดลง โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ            1,280 (19,400บาท)          1,271 (19,250บาท)                  1,263 (19,100บาท)

แนวต้าน          1,297 (19,700บาท)            1,306 (19,850บาท)              1,315 (19,950บาท)           

GOLD FUTURES (GFM18)

แนวรับ            1,280 (19,560บาท)          1,271 (19,420บาท)                  1,263 (19,300บาท)

แนวต้าน          1,297 (19,820บาท)            1,306 (19,960บาท)              1,315 (20,100บาท)    


Cr. https://goo.gl/fUdNKn