บทความทั้งหมด

06/11/2565

Functional Jewelry เครื่องประดับที่ทำหน้าที่มากกว่าเครื่องประดับ


ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจเครื่องประดับที่มีบทบาทมากกว่าเรื่องความงาม แต่มีฟังก์ชั่นการใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆด้วย เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ในยุควิถีชีวิตใหม่ เช่นการสร้างเครื่องประดับหน้ากากดีไซน์ทันสมัยขึ้นมา ขณะเดียวกันหลายแบรนด์เครื่องประดับหันมานำเสนอสายคล้องหน้ากากกันโควิด-19 กันมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับแว่นกันแดดหรือใส่เป็นสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือได้ด้วย เราเรียกเครืองประดับแบบนี้ว่า Functional Jewelryเครื่องประดับชุบทอง 18 กะรัตสวมครอบบนหูฟัง AirPod เพื่อเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจ ของดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์ก เป็นตัวอย่างของแนวคิดออกแบบ Functional Jewelry ที่เน้นรูปลักษณ์ความสวยงามร่วมกับประโยชน์ใช้สอยเครื่องประดับที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายหรือ Functional Jewelry นี้มี 2 แนวคิดในการออกแบบ คือ การใส่ความเป็นเครื่องประดับลงไปในอุปกรณ์เพื่อการใช้งานซึ่งยังคงมีประโยชน์ใช้สอยเช่นเดิม และการออกแบบโดยอาศัยพื้นฐานจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่เดิมอีกต่อไปแล้วและนำมาใช้เป็นเครื่องประดับเพื่อการตกแต่งร่างกาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตประจำวันทั้งในแง่สุขภาพ การสื่อสาร และประสิทธิภาพการทำงานนอกจากนี้ Functional Jewelry ยังรวมถึงชิ้นงานที่ปรับรูปแบบได้และนำมาใส่ได้หลายวิธี ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำเครื่องประดับไปสวมใส่ได้อย่างสร้างสรรค์มากขึ้น เช่น พาดลำตัวหรือติดไว้กับเข็มขัดและโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ที่หู ข้อมือ หรือคอเท่านั้น เช่น เครื่องประดับเพชร ที่นำมาใช้เป็นสร้อยข้อมือ เข็มขัด หรือสร้อยคอก็ได้ กระแสนี้กำลังมาแรงในธุรกิจเครื่องประดับ และจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของแฟชั่นเครื่องประดับอย่างแน่นอน

Read More

06/11/2565

รหัสลับ อัตรส่วนทองคำ


'The Golden Ratio' หรือ 'อัตราส่วนทองคำ'ถูกค้นพบโดยชาวกรีกโบราณ เชื่อว่าเป็นอัตราส่วนแห่งความงามสมบูรณ์ของธรรมชาติ เป็นอัตราส่วนทางคณิตศาสตร์ที่แปลก พิสดารและน่าอัศจรรย์ที่สุด มีตัวอักษรกรีกที่เรียกว่า “ฟี(Phi)” มีค่าเท่ากับ 1.618 ซึ่งถูกนำมาใช้ในการสร้าสรรค์งานศิลปะ สถาปัตยกรรม และสิ่งก่อสร้างที่คัญมากมายตัวเลขอัตราส่วนทองคำหรือค่าฟี (Phi) ได้มาจากการนำตัวเลขของลําดับเลขฟีโบนัชชี ซึ่งเป็นเลขจำนวนเต็มที่เริ่มจาก0,1, 2, 3, 5,8,13,21,34,55,89,…โดยจำนวนถัดไปจะมี่ค่าเท่ากับผลบวกของจำนวน 2 ตัวหน้าเสมอและถ้านำเลขออกมาหนึ่งตัวแล้วหารด้วยตัวเลขลำดับที่อยู่ด้านหน้า จะมีค่าใกล้เคียง 1.618และยิ่งตัวเลขเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งใกล้เคียง 1.618 มากขึ้น เป็นค่าฟีที่เป็นเลขทศนิยมไม่ซ้ำและไม่รู้จบ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์คำนวณไปถึงทศนิยม 15 หลักแล้ว คือ1.618033988749894...อัตราส่วนทองคำถูกค้นพบมากว่า 2,000 ปีมาแล้ว เราสามารถพบอัตราส่วนทองคำได้ทั่วไปในธรรมชาติและในร่างกายมนุษย์ เช่น ในสังคมผึ้ง ผึ้งตัวเมียจะมีจำนวนมากกว่าผึ้งตัวผู้เสมอ จำนวนทั้งหมดของผึ้งตัวเมียหารด้วยจำนวนทั้งหมดของผึ้งตัวผู้ไม่ว่ารังใดก็ตามในโลกนี้ ค่าที่ได้ก็คือ 1.618การเรียงตัวเป็นเกลียวของเมล็ดทานตะวัน ซึ่งแต่ละเกลี่ยวจะตรงกับลำดับของเลขฟีโนบักซี โดยอัตราส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางของวงขดเกลียวของเมล็ดทานตะวันแต่ละวงเทียบกับวงถัดไปจะเท่ากับอัตราส่วนทองคำจังหวะการเต้นของหัวใจคนเรา จังหวะยาวจะยาวกว่าจังหวะสั้น ประมาณ 1.618 เท่า อัตราส่วนระหว่างส่วนสูงของร่างกายมนุษย์ต่อส่วนของร่างกายตั้งแต่สะดือถึงเท้าจะมีค่า 1.618 เช่นเดียวกับอัตราส่วนระหว่างข้อศอกถึงปลายนิ้วอีกทั้งสิ่งก่อสร้างและงานศิลปะของมนุษย์ ทั้งวิหารพาเธนอนในกรีซ มหาวิหารนอนอเทรอดาม ในฝรั่งเศส และพิรามิดของอียิปต์ ล้วนมีอัตราส่วนทองและสี่เหลี่ยมผืนผ้าทองคำซ่อนอยู่ รวมถึงภาพว่าโมนาลิซา ของลีโอนาโด ดาวินชีด้วย

Read More

06/11/2565

WGC รายงานสถานการณ์ทองคำโลก-ไทย หลังผ่านครึ่งปีแรก


สภาทองคำโลก(World Gold Council)ชี้ ความต้องการของอัญมณีในประเทศไทยเพิ่มเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน สาเหตุมาจากราคาทองคำที่ลดลง และความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน ขณะที่การผลิตเครื่องประดับทั่วโลกมีปริมาณสูงกว่าความต้องการของผู้บริโภคWGC ระบุว่า ในไตรมาส2/2565 ความต้องการทองคำของผู้บริโภคในไทยเพิ่มขึ้น14% เมื่อเทียบเป็นรายปี กล่าวคือ จาก 7.5 ตัน ในไตรมาส2/2564 ไปเป็น 8.5 ตันในไตรมาส 2/2565ด้วยแรงหนุนจากความต้องการอัญมณีที่สูงขึ้น10%คือเพิ่มจาก1.7ตัน ในไตรมาส2/2564 เป็น 1.9 ตัน ในไตรมาส 2/2565 และความต้องการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำพุ่งขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก5.7ตัน ในไตรมาส 2/2564 มาเป็น 6.6 ตัน ในไตรมาส 2/2565 ทั้งนี้ ความต้องการเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การผ่อนคลายมาตรการด้านโควิด-19และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวรายงานGoldDemandTrendsฉบับล่าสุดจากสภาทองคำโลก(World Gold Council)ยังรายงานตัวเลขความต้องการของผู้บริโภคทองคำทั่วโลก ว่าในไตรมาส2ดิ่งลง 8% มาอยู่ที่948ตัน เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม กระแสเงินลงทุนจากETFที่แข็งแกร่งในไตรมาส1กลับเป็นแรงผลักให้ความต้องการทองคำในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 12% หรือที่ 2,189 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ 2564ขณะที่Gold Demand Trends รายงานข้อมูลการทำเหมืองในช่วงครึ่งปีแรกว่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการที่ 1,764 ตัน เพิ่มขึ้น 3% จากในครึ่งปีแรกของปี 2564 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากบางโครงการของการขุดแร่ทองคำมีคุณภาพสูงขึ้น อีกทั้ง อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของจีนกลับมาสร้างผลผลิตได้ในระดับปกติอีกครั้ง หลังจากการหยุดเดินเครื่องเพื่อความปลอดภัยจากโรคระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา

Read More

03/11/2565

ทำความรู้จัก โลหะผสมสำหรับสร้างพระเครื่องพระบูชา


ในการสร้างเหรียญพระเครื่อง และพระบูชา มีโลหะหลายชนิดที่นำมาผสมกันเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหรือมวลสารในการสร้าง ซึ่งแต่ละชนิดมีชื่อเรียก มีคุณสมบัติ และราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของโลหะชนิดนั้นๆ ที่เราได้ยินป่วยๆเช่น ทองคำ ทองเหลือง ทองฝาบาตร นวโลหะ เป็นต้น นวโลหะ หมายถึงโลหะ ๙ ชนิดที่หลอมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ประกอบด้วยโลหะ ๕ ชนิด เรียนว่าเบญจโลหะ ได้แก่ เหล็ก ปรอท ทองแดง เงิน ทองคำ (ทองเป็นเกล็ดหรือเป็นก้อนซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ) รวมกับอีก ๒ ชนิด คือ เจ้าน้ำเงิน (แร่ผสมชนิดหนึ่งมีพลวงเป็นส่วนผสมหลักสีเขียวเป็นสีน้ำเงิน) และสังกะสี รวมเป็น ๗ ชนิด เรียกว่า สัตตโลหะ เพิ่มอีก๒ ชนิด คือ ชิน (โลหะผสมชนิดหนึ่งประกอบด้วยตะกั่วและดีบุก นิยมใช้ทำพระเครื่อง) และทองแดงบริสุทธิ์ รวมเป็น ๙ ชนิด เรียกว่า นวโลหะ พระเครื่องที่สร้างด้วย เนื้อนวโลหะ แบบโบราณนั้นสร้างได้ยากมาก เพราะส่วนมากผู้สร้างพระมักจะหาโลหะสำคัญบางชนิดไม่ได้ เช่น ชิน (ดีบุกผสมกับตะกั่ว)และ เจ้าน้ำเงิน ซึ่งคนส่วนมากไม่ทราบว่าเป็นโลหะอะไร จึงทำให้ยุคหลังๆ การสร้างพระเนื้อนวโลหะ มักจะไม่เต็มสูตร นอกจากนี้ส่วนผสมหลักอย่าง ทองคำ ก็มีราคาแพงมากเวลาทำเหรียญเนื้อนวโลหะโดยทั่วไปจึงไม่มีใครใส่ทองคำลงไป เหรียญเนื้อนวโลหะ ที่เรียกกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบันจึงไม่ได้ผสมด้วยโลหะ๙ ชนิดแบบสมัยก่อนแล้ว ปัจจุบันเหรียญเนื้อนวโลหะจะมีส่วนผสมเพียง๓ อย่างเท่านั้น คือ ทองแดง ๘๕ เปอร์เซ็นต์ เงิน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ และสังกะสี ๕ เปอร์เซ็นต์ทองเหลือง เป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงกับสังกะสี โดยมีสัดส่วนทองแดง ๗๕ เปอร์เซ็นต์ สังกะสี ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ทองฝาบาตร คือทองเหลืองที่ผ่านการปั๊ม เป็นทองเหลืองล้วนๆแต่เรียกให้แปลกออกไปเพื่อหวังจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น อัลปาก้า คือโลหะผสมระหว่างทองแดงกับนิกเกิลโดยยึดสัดส่วนเหมือนทองเหลืองคือ ทองแดง๗๕ เปอร์เซ็นต์ นิเกิล ๒๕ เปอร์เซ็นต์ อัลปาก้าเปลือย หรือเนื้อช้อนส้อม คือ โลหะผสมระหว่างทองแดง๘๓ เปอร์เซ็นต์ กับนิกเกิล ๑๗ เปอร์เซ็นต์ การลดสัดส่วนของนิกเกิลลงเหลือ ๑๗ เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้โลหะผสมอัลปาก้านิ่มขึ้น เป็นการรักษาแม่พิมพ์ให้ทนทาน ซึ่งอัลปาก้าเปลือยนี้จะมีสีออกเหลืองมากกว่าอัลปาก้าเพราะมีทองแดงผสมมากกว่า

Read More

02/11/2565

ทองคำ..สุดยอดมวลสารสร้างพระเครื่อง


พระเครื่องถือเป็นสิ่งมงคลที่มักมอบให้กันในวาระพิเศษต่างๆและชาวพุทธทุกคนมีพระเครื่องติดตัว ส่วนจะให้ความสนใจถึงที่มาที่ไปของพระองค์นั้นๆก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบศรัทธาซึ่งในการสร้างพระเครื่องทั้งพระผลและเหรียญจะสร้างด้วยวัตถุหรือมวลสารที่ต่างกัน แต่พระเครื่องที่สร้างจากทองคำถือเป็นสุดยอดของพระเครื่องทั้งในแง่ของความศักดิ์สิทธิ์และมูลค่าสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยให้ความรู้ในเรื่องพระเครื่องไว้ว่า“ทองคำ” เป็นหนึ่งในมวลสารที่ถือเป็นสุดยอดมวลสารเพราะมีความเป็นสิริมงคล เป็นโลหะชั้นสูง มีความศักดิ์สิทธิในตัว มีสีสันสวยงาม เหลืองอร่ามไม่มีการด่างดำ ที่สำคัญคุณค่าและราคาของทองคำนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี แม้จะมีการสร้างพระเครื่องเนื้อทองคำจำนวนมากจากหลายวัด แต่ก็ใช่ว่าพระเครื่องเนื้อทองคำจะได้รับความนิยมทุกรุ่น ทุกองค์ เพราะต้องขึ้นอยู่กับเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกว่าปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความรอบรู้ มีลูกศิษย์เคารพศรัทธาหรือไม่ รวมถึงพิธีกรรมในการสร้างพระองค์นั้นๆด้วยจากการศึกษาพบว่าได้มีการนำทองคำมาทำเป็นเหรียญตั้งแต่สมัยกรีกเข้าปกครองอินเดีย ส่วนประเทศไทยน่าจะเริ่มตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นสุวรรณภูมิปกครองโดยชาวมอญ แต่เหรียญทองคำก็มีไม่มาก จนกระทั่งสมัยสุโขทัยได้มีการนำทองคำมาสร้างพระพุทธรูป แต่จะเป็นองค์เล็กๆ โดยพระพุทธรูปสมัสุโขทัยที่ขุดพบส่วนใหญ่จะเป็นปางลีลาและจะสร้างโดยวิธีการบุ ซึ่งพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่พบ คือ พระพุทธรูปทองคำไตรมิตร หรือหลวงพ่อทองคำ หรือพระพุทธมหาสุวรณปฏิมากรร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ หารแห่งวัดไตรมิตร กรุงเทพมหานครการสร้างพระทองคำยังมีต่อมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ถือเป็นยุคทองหรือโกลเด้นซิตี้ เป็นยุคที่มีความรุ่งเรืองมากเพราะมีการค้าขายกับต่างชาติสร้างรายได้กับประเทศชาติมหาศาล มีการใช้ทองคำมาสร้างพระและเครื่องใช้ต่างๆมากที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องเสียทองคำไปมากที่สุดในช่วงที่พม่าเข้ามายึดเมือง มีหลักฐานการขุดเพื่อบูรณะวัดราชบูรณะของกรมศิลปากร ได้พบวัตถุโบราณที่ทำจากทองคำจำนวนมาก ทั้งพระพุทธรูปขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และเหรียญที่ระลึกสมัยโรมันอายุกว่า 2000 ปี แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้ติดต่อค้าขายกับตะวันตกมานานแล้ว ปัจจุบันเหรียญทองที่พบจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยาสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยได้รวบรวม 10 สุดยอดเหรียญพระเครื่องเนื้อทองคำที่ปัจจุบันถือว่ามีราคาสูงมากและเป็นที่ต้องการของผู้นิยมพระเครื่องได้แก่ เหรียญหลวงพ่อโสธร เหรียญหลวงพ่อพระธรรมจักร เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เหรียญพระแก้ว เหรียญหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เหรียญรีพินาศ เหรียญ 25 พุทธศตวรรษ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ เหรียญหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และเหรียญหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่

Read More

01/11/2565

10 อันดับสุดยอดเหรียญพระเครื่องเนื้อทองคำ (ตอนที่2)


อันดับที่ 6 เหรียญไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างปี 2495 สมเด็จพระวชิญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังขปรินายก ฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา มีการจัดสร้างพระบูชาพระเครื่องต่างๆในพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมา ฑีฆายุมหามงคล นามว่า “พระไพรีพินาศ” มีทั้งเนื้อทองแดงลงยา เนื้อเงินลงยา และเนื้อทองแดง แต่ที่นิยมคือ เนื้อทองคำลงยา ด้านหน้าเป็นรูปพระไพรีพินาศ ด้านหลังเป็นยันต์ เขียนเลขไทย ๒๔๙๕ ปัจจุบันราคาเช่าบูชาอยู่ที่หลักล้านและหายากมากอันดับ 7 เหรียญฉลองพุทธศตวรรษ ปี 2550 ทางราชการจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแจกจ่ายแก่ข้าราชการทั่วประเทศ รวมถึงพ่อค้า ประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการจัดสร้าง “พุทธมณฑล” ในโอกาสฉลอง 25 พุทธศตวรรษ หรือ กึ่งพุทธกาล โดยมีการจัดสร้างทั้งหมด 3 เนื้อ คือเนื้อชิน เนื้อดิน และเนื้อทองคำ ทุกเนื้อมีขนดเดียวกัน โดยเนื้อทองมีน้ำหนัก 6 สลึง จำนวนสร้าง 2,500 องค์ มีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง ที่อุโบสถวัดสุทัศน์และวัดพระแก้ว โดยพระราชาคณะและพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ทำให้เป็นที่นิยมในแวดวงนักสะสม ราคาเช่าบูชาในปัจจุบันสูงถึง 1 ล้าน 5 แสนบาทเลยทีเดียวอันดับ 8 เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นสมณศักดิ์ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี สร้างเมื่อปี 2508 ในโอกาสที่พระอาจารย์ทิม ได้เลื่อนสมณศักดิ์พัดยศพื้นขาวฝ่ายวิปัสสนา โดยสร้างขึ้นทั้งหมด 4 เนื้อ คือเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง และเนื้ออัลปาก้า โดยเนื้อทองคำสร้างไม่เกิน 20 เหรียญเท่านั้น(แต่ในวงการพระเครื่องบอกว่ามีมากกว่า 20 เหรียญ) ราคาบูชามากกวา 10 ล้านบาทอันดับ 9 เหรียญหลวงพ่อโต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี สร้างเมื่อปี 2510 หลวงป่โต๊ะมีชี่อเสียงเกียรติคุณทางวิทยาคม เป็นเหรียญเนื้อทองคำที่สร้างไม่เกิน 20 เหรียญและสร้างครั้งเดียวทำให้เป็นเหรียญหายาก ซึ่งปัจจุบันเช่าบูชากันอยู่ที่ราคาประมาณ 10 ล้านบาทอันดับ 10 เหรียญเจริญพระ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ จัดสร้างขึ้นในปี 2517 เพื่อระดมทุนสร้างศาลาการเปรียญ จักสร้างทั้งหมก 17,820 เหรียญ แต่เป็นเหรียญเนื้อทองคำเพียง 16 เหรียญเท่านั้น และทุกเหรียญมีตัวเลข 1-16 กำกับไว้ มีการตอดโค้ดตัว “ท.”ไว้ที่ซอกแขนขวาทุกเหรียญ โดยหลวงปู่ทิมลงเหล็กจารไว้ทุกเหรียญ ปัจจุบันเช่าบูชากันเกิน 10 ล้านบาททั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ 10 สุดยอดเหรียญพระเครื่องทองคำที่มีความเก่าแก่และเป็นที่นิยมในเมืองไทย

Read More

31/10/2565

10 อันดับสุดยอดเหรียญพระเครื่องเนื้อทองคำ (ตอนที่1)


10 สุดยอดพระเครื่องเนื้อทองคำในมุมมองของ อาจารย์ต้อย เมืองนนท์ หรือคุณพิศาล เตชะวิภาค รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยคืออันดับ 1 เหรียญทองคำหลวงพ่อโสธร รุ่นสร้างปี 2460 ของวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเหรียญทองคำที่มีความเก่าแก่ที่สุด มีมูลค่าอยู่ที่ 15-20 ล้านบาท มีไม่เกิน 20 เหรียญอันดับ 2 เหรียญหลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูล จ.ชัยนาท รุ่นสร้างปี 2461 ซึ่งเป็นเหรียญที่มีพิธีการสร้างใหญ่โตมากได้รับการปลุกเสกและลงอัครเลขยันต์จากเกจิอาจารย์ 3 รูปคือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ และหลวงพ่ออยู่ วัดคักคะนน ซึ่งมีชื่อเรื่องการอยู่ยงคงกะพัน ร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง คาดว่ามีการสร้างไม่เกิน 20 เหรียญอันดับ 3 เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังวรวิหาร บางขุนเทียน เป็นเหรียญสุดท้ายที่สร้างขึ้นในปี 2467 โดยหลวงปู่เอี่ยมหรือเจ้าคุณเฒ่า เพื่อแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชนที่มีจิศรัทธาบริจาคบูรณะศาลาการเปรียญ เป็นเหรียญทองคำลงยาราชาวดี เป็นยันต์สี่ ซื้อขายอยู่ที่ราคา 32 ล้านบาท อันดับ 4 เหรียญพะแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างปี 2475(บล็อกนอก) “รุ่นฉลองพระนคร 150 ปี พ.ศ.2475” สร้างในวโรกาสสมโภชพระนคร 150 ปีเพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคทรัพย์ร่วมในการปฏิสังขรณ์วัดพระแก้ ซึ่งมีการสร้างเหรียญจำนวนมากนับหมื่นองค์ทั้งเนื้อเงิน เนื้อทองแดง แต่เหรียญทองคำสร้างประมาณ 400-500 องค์เท่านั้น โดยส่งไปปั๊มที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จึงไม่มีบล็อกไทย ปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ทั่วประเทศอันดับ 5 หลวงปู่ศุข รุ่น2 วัดโตนดหลวง .เพชรบุรี สร้างโดยหลวงปู่ทองศุข พระเกจิชื่อดังด้านวิทยาคม และเป็นหมอรักษาโรค เป็นพระปฏิบัติที่เคร่งในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน วัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างมีหลายรุ่น แต่ที่นิยมและค่อนข้างหายากคือรุ่นแรก 2492 และรุ่น2 ปี 2498 ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าเพราะรุ่นแรกหน้าไม่เหมือน ซึ่งเหรียญเนื้อทองคำนั้นมีไม่มากจึงเป็นที่ต้องการ อีกทั้งยังมีครั่ง และสมุนไพรไทติดอยู่ด้านหลัง ว่ากันว่าหลวงปู่ผสมไว้เพื่อให้มีพุทธคุณด้านถอนพิษต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมาก

Read More

31/10/2565

ผลกระทบเชิงบวกต่อไทยหลังยูเออียกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องประดับทองจากอินเดีย


ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ระหว่างอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ทำให้อินเดียส่งออกเครื่องประดับทองไปยังยูเออีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 72% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าด้วยมูลค่า1,048 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1,451 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายนหรือเพิ่มขึ้น 68% การลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอินเดียและยูเออีนี้ ทำให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากอินเดียได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าไปยังตลาดยูเออี ในขณะที่ประเทศอื่นๆรวมถึงไทยจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 5 ส่งผลให้อินเดียส่งออกเครื่องประดับทองไปยังยูเออีได้เพิ่มขึ้น เพราะต้นทุนที่ถูกลง อย่างไรก็ดีการที่อินเดียสามารถส่งออกเครื่องประดับทองไปยังยูเออีเพิ่มขึ้นก็เป็นผลดีต่อไทยด้วย เพราะ อินเดียก็เป็นคู่ค้าหลักของไทย จึงทำให้ไทยสามารถส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับโดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบไปยังอินเดียเพื่อนำไปแปรรูปหรือเพิ่มมูลค่าเพื่อส่งออกต่อไปยังยูเออีและตลาดต่างๆ ในตะวันออกกลางได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันยูเออี เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของอินเดีย รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน ก่อนการแพร่ระบาดโควิดในปี 2562 การค้าระหว่างอินเดียและยูเออีมีมูลค่า 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากพิจารณาเฉพาะสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ พบว่ายูเออีเป็นตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอันดับ 2 ของอินเดียรองจากฮ่องกง ด้วยมูลค่าส่งออก 10,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 26 ของมูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอินเดียโดยรวมโดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 67 เป็นเครื่องประดับทอง ที่มา : สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Read More

31/10/2565

5 ตลาดใหญ่ส่งออกเครื่องประดับไทย


มูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพราะการกลับมาใช้ชีวิตปรกติหลังวิกฤติโควิด โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เป็นกำลังซื้อหลัก ประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องช่วยสนับสนุนให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยสามารถแข่งขันได้ ไม่วาจะเป็นทองคำ เพชร พลอย และเครื่องประดับเทียม โดยมีการส่งออกไปใน 5 ตลาดใหญ่ได้แก่ อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา คิดเป็น 25.58% ของมูลค่าการส่งออกรวม เพิ่มสูงขึ้นทั้งเครื่องประดับทอง พลอยเนื้อแข็งและเนื้ออ่อนเจียระไน เพชรเจียระไน ที่ร้อยละ 47.25, ร้อยละ 193.81, ร้อยละ 260.97 และร้อยละ 128.86 ตามลำดับ มีเพียง เครื่องประดับเงินที่ปรับตัวลงร้อยละ 3.36 อันดับ 2 อินเดีย มูลค่าการส่งออกคิดเป็น 15.24% ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าหลักอย่างเพชรเจียระไนมีสัดส่วนสูงขึ้นถึงร้อยละ 73 รวม อีกทั้งสินค้าสำคัญรองลงมาอย่าง เครื่องประดับเงิน โลหะเงิน และอัญมณีสังเคราะห์ ล้วนแต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากด้วยอันดับ 3ฮ่องกง มีมูลค่าการส่งออก 10.07% การส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการอย่าง เครื่องประดับทอง พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เครื่องประดับเทียม และเครื่องประดับเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.53, ร้อยละ 32.57, ร้อยละ 23.18 และร้อยละ 5.48 ตามลำดับ แม้การส่งออกเพชรเจียระไน และ พลอยเนื้อแข็งเจียระไนจะหดตัวลงก็ตามอันดับ 4 เยอรมนี มูลค่าการส่งออก 7.59% เพิ่มขึ้นจากมีก่อนเป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับเงิน เศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่า เครื่องประดับทอง รวมทั้งพลอยเนื้อแข็งและเนื้ออ่อนเจียระไน ต่างขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ

Read More

28/10/2565

ผ่านครึ่งปีแรก ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยคึกคัก ทองคำครองอันดับ1


การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องหลังวิกฤติโควิดคลี่คลาย โดย 6 เดือนแรกของปี 2565 การส่งออกเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 93.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อน มูลค่าการส่งออกกว่า 8,713.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกมากเป็นอันดับ 3 ของ โดยทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูปหรือทองคำกึ่งสำเร็จรูป เป็นสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าราคาทองคำ โดยเฉลี่ยในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงแต่ความต้องการทองคำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงทำให้การส่งออกทองคำของไทยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 55.80 ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยโดยรวม เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงของสหรัฐฯและประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งความผันผวนอย่างหนักของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้มีการโยกย้ายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มมากขึ้น นอกจากทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปหรือทองคำกึ่งสำเร็จรูปแล้ว เครื่องประดับทองของไทยก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 54.17 จากการ ส่งออกไปยัง 5 ตลาดหลักได้แก่สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 47.25, ร้อยละ 26.53, ร้อยละ 50.18, ร้อยละ 33.51 และร้อยละ 309.51 ตามลำดับในส่วนของอัญมณีและเครื่องประดับอื่นๆของไทยก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันได้แก่ เครื่องประดับแท้เป็นสินค้าส่งออกในอันดับ 2 เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.21 เครื่องประดับแพลทินัม แม้จะปรับตัวลดลงในบางตลาดแต่ก็มีบางตลาดที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เพชร สินค้าส่งออกรายการสำคัญในอันดับ 3เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.56 โดยเพชรเจียระไน เป็นสินค้าส่งออกหลัก พลอยสีส่งออกมาก

Read More

27/10/2565

ซื้อแพง-ขายถูก ทำคนไทยไม่นิยมทองเค


คนไทยผูกพันกับทองคำมาช้านาน โดยทองคำ 96.5% ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีสีสันสดใส แข็งแรงเหมาะกับการนำไปทำเครื่องประดับ ขณะที่ทอง 99.99 ไม่ได้รับความนิยมเท่าแม้จะเป็นเนื้อทองบริสุทธ์เพราะเนื้อทองอ่อน นำมาทำเครื่องประดับได้จำกัดจึงนิยมใช้ในการลงทุนมากกว่า ส่วนทองเคแม้จะมีความสวยงามและมีความแข็งแรง แต่ก็มีราคาสูงและนำไปขายต่อได้ราคาไม่ดีนัก จึงทำให้ได้รับความนิยมเฉพาะผู้บริโภคที่ชื่นชอบในสไตล์และสีสันของทองเคเท่านั้นทองเคไทยมีส่วนผสมของทองคำ 75% อีก 25% เป็นส่วนผสมของโลหะอื่นๆ ขึ้นอยู่แต่ละผู้ผลิตว่าจะผสมอะไร จึงทำให้ทองเคมีสีสันและชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น โรสโกลด์ พิงค์โกลด์ แชมเปญโกลด์ ไวส์โกลด์ เยลโลโกลด์ และแบล็คโกลด์ นอกจากนี้ยังมีสีแปลกๆอีกเช่น ออเร้นโกลด์ สีทองเขียว และทองสีม่วงซึ่งมีส่วนผสมของอะลูมิเนียมซึ่งมีสีสันสวยงามแต่นำไปใช้งานไม่ได้เนื่องจากมีความเปราะทองเคเป็นสินค้าที่เวลาซื้อจะแพงกว่าทองทั่วไป แต่เวลานำมาขายคืนกับทางร้านราคาจะต่ำกว่าทอง 96.5% เนื่องจากในการบวนการผลิตมีค่าความสึกหรอสูง ต้นทุนการผลิตแพงโดยเฉพาะค่าแรง เพราะมีการผลิตหลายขั้นตอน ซึ่งทองเคที่จำหน่ายในประเทศไทยมีตั้งแต่ 20เค,18เค,14เค ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน อย่างในยุโรปนิยมนำทอง 18 เคมาทำนาฬิกา ตัวเรือนแหวน เพราะมีความแข็งแรงทั้งนี้มาตรฐานของทองเคกับทองคำวัดจากเนื้อทองคำ โดย 1 เค เนื้อทองคำเท่ากับ 4.1666 เช่นหากเป็นทอง 18เค ก็จะเท่ากับ 18 คูณ 4.1666 เท่ากับ 750 ดังนั้นจึงเรียกทองคำ 99.99% ว่าทอง 24เค หรือ 24 กะรัต ทอง 96.5% คือทอง 23เคกว่าๆ ทอง 22เค เท่ากับ91.66% แต่ถ้าต่ำกว่า 10เค จะไม่เรียกว่าทอง

Read More

26/10/2565

ทำไมธนาคารอังกฤษไม่ให้ เวเนซุเอลาเบิกทองคำที่ฝากไว้


ความวุ่ยวายและยากลำบากของประชาชนชาวเวเนซุเอลาดูท่าจะไม่จบง่ายๆ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง สาธารณสุข และความสับสนทางการเมือง ล่าสุดศาลสูงกรุงลอนดอนปฏิเสธคำร้องของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ที่ขอเบิกทองคำสำรองมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ฝากไว้ในอุโมงค์ใต้ดินของแบงก์ชาติอังกฤษ โดยชี้ว่ามาดูโรไม่ใช่ผู้นำตัวจริงเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโรล้มเหลว หลังจากพยามยามมาแล้วหลายครั้งในช่วง หลายปีที่ผ่านมา แม้จะบอกว่าต้องการใช้ทองคำที่ฝากไว้ที่อังกฤษมาช่วยพยุงสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ย่ำแย่อย่างหนักเพราะขาดกระแสเงินสดและการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหากได้ทองคำที่ฝากไว้ที่ธนาคารกลางอังกฤษมารัฐบาลจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศและแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังมานานหลายปีทั้งนี้ธนาคารแห่งชาติอังกฤษ และรัฐบาลอังกฤษต่างมีจุดยืนเดียวกันคือยอมรับสถานะของนาย ฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เป็นผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับ รัฐบาลยุโรปอเมริกาและอีกหลายประเทศในอเมริกาใต้ ที่ยืนยันว่าต้องการเก็บทองคำสำรองของเวเนซุเอลาไว้ให้พ้นมือของรัฐบาลมาดูโร เนื่องจากหวั่นว่ามาดูโร อาจนำทองคำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าความเดือดร้อนของประชาชนอนึ่งนายมาดูโรเคยอ้างว่า เวเนซุเอลามีแหล่งเหมืองทองขนาดใหญ่ถึง 32 แห่ง และมีโรงงานถลุงทองคำมากถึง 54 แห่ง ซึ่งส่งผลให้เวเนซุเอลา เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกทองคำมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ที่ผ่านมารัฐบาลเวเนซุเอลาพยายามหลีกการพึ่งพิ่งสถาบันการเงินของสหรัฐ และหันไปพึ่งพิงการใช้เงินสกุลหยวน และเงินสกุลอื่นๆที่ไม่ถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดการคว่ำบาตรของสหรัฐ

Read More

25/10/2565

ได้เวลาอัญเชิญยอดองค์พระธาตุทองคำ ประดิษฐานบนพระธาตุช่อแฮ


เมื่อปลายปี 2564 ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงความเห็นร่วมกันว่าองค์พระธาตุช่อแฮ โบราณสถานคู่บ้านคูเมืองของชาวแพร่นั้น มีการชำรุดแตกกะเทาะ มีรอยปริตามแนวตะเข็บของแผ่นทองจังโก และทองคำเปลวแท้ที่หุ้มองค์พระธาตุบวมพอง บางจุดเกิดร่องรอยเป็นรูเสียหายทำให้น้ำฝนสาดซึมเข้าถึงเนื้อในองค์พระธาตุหากปล่อยทิ้งไว้จะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างองค์พระเจดีย์ในอนาคตจึงควรมีการบูรณะองค์พระธาตุให้กลับมาสวยงามคงทนเหมือนเดิมด้วยพลังความศรัทธาและความร่วมแรงร่วมใจของพุทธศาสนิกชน ใช้เวลาเพียง 7 เดือนองค์พระธาตุช่อแฮก็ได้รับการบูรณะจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยการรื้อทองจังโก และทองคำเปลวแท้ออก แล้วทำการบูรณะหุ้มทองจังโกและทองคำเปลวแท้ใหม่ รวมถึงการเพิ่มทองคำบนยอดฉัตรที่เรียกว่าปลีบัว และเพิ่มทองคำแท้หนัก 8.88 กิโลกรัม ที่ฐานวัชรก้านฉัตรพระธาตุช่อแฮ โดยมีพิธีอัญเชิญยอดองค์พระธาตุไปประดิษฐานเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2565ทั้งนี้รูปยอดพระธาตุทำด้วยทองคำแท้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนล่าง เรียกว่า วัชระมงคล ฐานเชิงบัว มีส่วนเดียว ส่วนปลียอดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ศิลปะล้านนา ผสมพม่า ซึ่งส่วนล่างใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดับด้วยลายฉลุรูปเสือ ที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์พระธาตุช่อแฮ พร้อมพระพุทธรูปทองคำประทับนั่งบนเสืออีก 8 องค์ ส่วนด้านบน ที่เป็นส่วนบัวหงาย ประดับด้วยอัญมณีต่างๆทั้ง เพชร พลอย เพทาย ทับทิมที่ผ่านมามีการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุช่อแฮมาแล้วหลายครั้ง ครั้งใหญ่มี 2 ครั้งคือในปี พ.ศ. 2467 โดยพระครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย และในครั้งนี้เริ่มบูรณะเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2564 โดยพระโกศัยเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ คณะสยามบวรและพุทธศาสนิกชน บูรณะองค์พระธาตุ ด้วยงบประมาณ 36 ล้านบาท พระธาตุช่อแฮ โบราณสถานอายุกว่าพันปี เจดีย์สีทองอร่ามทรงแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง บุด้วยทองดอกบวบ ศิลปะแบบเชียงแสน ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ และพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า

Read More

25/10/2565

ขุมทรัพย์ 2000 ปี ใต้ปฐพีเมียนมาร์


ประชาชนหลายหมื่นคนจากทั่วสารทิศ หลั่งไหลไปยังหมู่บ้านทานจีเหนือ ในอำเภอแวตแลต จังหวัดชเวโบ ภาคสะกายของเมียนมาร์ ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 113 กิโลเมตร เพื่อขุดหากรุสมบัติที่เชื่อกันว่าถูกฝังไว้เป็นจำนวนมาก เพราะมีชาวบ้านขุดเจอข้าวของเครื่องใช้ เครื่องบูชาของคนโบราณจำนวนมากฝังอยู่ใต้ดินไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปแกะสลัก ตลับทองคำ อัญมณี ลูกปัดโบราณ และหินสี โดยมีพ่อค้า นักสะสมของเก่ามาตั้งเต็นท์คอยรับซื้อหลายรายผู้สื่อข่ารายงานว่ามีผู้ขุดพบพระพุทธรูปหยกเนื้อดีที่แกะสลักอย่างประณีตงดงามองค์หนึ่ง นักสะสมของเก่าได้เสนอซื้อในราคาหลายสิบล้านจั๊ต หรือมากกว่า 200,000 บาท(อัตราแลกเปลี่ยน 1 ล้านจั๊ตประมาณ 20,000 บาท) แต่เจ้าของไม่ยอมขาย โดยให้เหตุผลว่าจะเก็บไว้บูชาเอง นอกจากนี้ ยังมีการขุดพบพานที่ทำจากทองคำ มีผู้เสนอซื้อที่ราคา 4 ล้านจั๊ต แต่ผู้ที่ขุดพบก็ไม่ยอมขายให้อีกเช่นกัน พื้นที่ซึ่งชาวเมียนมาร์พากันมาปักหลักขุดค้นหาวัตถุโบราณนี้อยู่ไม่ห่างจากเมืองเก่าหะลิน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กลุ่มเมืองโบราณของอาณาจักรปยู อาณาจักรเก่าแก่ที่เฟื่องฟูขึ้นในพุทธศตวรรตที่ 4 หรือประมาณ 200 ปีก่อนคริสตกาลต่อเนื่องมาจนถึงคริสศตวรรษที่ 11 ซึ่งนอกจากอาณาจักรหะลินแล้ว กลุ่มเมืองโบราณอีก 2 แห่ง ของอาณาจักรปยู ได้แก่ อาณาจักรศรีเกษตร และอาณาจักรเปียะทะโนกลุ่มเมืองโบราณทั้ง 3 อยู่บริเวณตอนกลางค่อนขึ้นไปทางเหนือของพม่า ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคสะกายในปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อ พ.ศ.2557.อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าคนเหล่านี้จะสามารถขุดค้นพบวัตถุมีค่าได้ทั้งหมด เพราะหลายคนที่ปักหลักอยู่ที่นี่มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว และขุดหลุมลึกลงไปแล้วหลายหลุม แต่ก็ยังไม่พบกับวัตถุที่มีค่าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

Read More

25/10/2565

เปิดตัวแหวนแชมป์NFL ของพลพรรคแกะทองคำ


แอลเอ แรมส์ แชมป์ ซููเปอร์โบว์ล ปีล่าสุดเปิดตัวแหวน ซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดของศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แหวนแชมป์ของพลพรรคกะทอคำนี้ทำจากเพชรน้ำหนักประมาณ 20 กะรัต สื่อความหมายถึงกำหนดเปิดสนาม โซไฟ สเตเดียมสนามเหย้าแห่งใหม่ของทีมอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2020หัวแหวนเป็นโลโก้ของ แรมส์ ทำจากอัญมณีสีน้ำเงิน และ เหลือง พร้อมโทรฟี "วินซ์ ลอมบาร์ดี" อยู่ตรงกลางต้นปาล์ม 2 ต้น มีการซ่อนลูกเล่นไว้ตรงหัวแหวนให้สามารถถอดออกจากกันได้ และเมื่อถอดออกก็จะพบวิวสนาม โซไฟ สเตเดียม จากมุมสูงซึ่งทำได้ละเอียดเหมือนสนามที่ลงแข่งขันจริงนอกจากนี้ลวดลายบนแหวนที่ถูกสลักลงไปก็ล้วนแต่มีความหมายกับทีมแรมส์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข 12 ที่ทำด้วยน้ำหนักเพชร 1.12 กะรัต สื่อถึงวันที่เกี่ยวข้องกับสโมสรได้แก่ วันที่ 12 ม.ค. 2016 คือวันที่ได้รับอนุมัติให้ย้ายกลับมหานคร ลอส แองเจลิสได้ วันที่ 12 ม.ค. 2017 คือันที่แต่งตั้ง ชอน แม็คเวย์ ทำหน้าที่เฮดโค้ช และวันที่ 12 ม.ค. 2019 คือวันที่เอาชนะ ดัลลัส คาวบอยส์ ในเกมเพลย์ออฟได้เป็นครั้งแรก หลังย้ายกลับมายังลอสแอนเจลิสนอกจากนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวของผลการแข่งขันเพลย์ออฟ 4 เกมในฤดูกาล 2021 โดยจารึกอยู่ด้านในของแหวน ได้แก่ ชัยชนะเหนือ อริโซนา คาร์ดินัลส์ 34-11, ชนะ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส 30-27, ชนะ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 20-17 และ ชนะ ซินซินเนติ เบงกอลส์ 23-20ดีไซน์ของแหวนวงนี้มาจากไอเดียของผู้เล่นทีมแรมส์ และถูกถ่ายทอดออกมาโดย เจสัน ออฟ เบเวอร์ลี ฮิลล์ส ผู้ผลิตเครื่องประดับชื่อดังที่อยู่ในลอสแองเจลิสนั่นเอง ลอสแอนเจลิส แรมส์ ถือเป็นทีมอเมริกันฟุตบอลดั้งเดิมของเมืองดังจากรัฐแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าจุดเริ่มต้นของทีมจะอยู่ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ แต่แฟรนไชส์นี้ก็ได้ย้ายมาตั้งที่แอลเอตั้งแต่ปี 1946 จากนั้นย้ายไปอยู่เซนต์หลุยส์กลายเป็นเซนต์หลุยส์ แรมส์ ในปี 1995ปี 2010 สแตน โครเอนเก้ นักธุรกิจกีฬาทุ่มเงิน 929 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทไทย ซื้อซื้อทีมแรมส์และนำทีมย้ายกลับมาอยู่ลอสแอนเจลิส เปลี่ยนชื่อเซนต์หลุยส์ แรมส์ ลับมาเป็นลอสแอนเจลิส แรส์ (แอลเอ แรมส์) ในปี 2016 และคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ได้ในอีก 5 ปีต่อ

Read More

25/10/2565

หน้ากากทองคำ แห่งเนินสามดาว


ซานชิงตุย หรือ เนินสามดาว เป็นแหล่งโบราณคดีและวัฒนธรรมยุคสำริดขนาดใหญ่เขตกว่างฮั่น มณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีการค้นพบโบราณวัตถุมากมาย เช่น หน้ากากทองคำ ประติมากรรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ เครื่องหยก งานแกะสลักงาช้างขนาดเล็ก และผ้าไหม แต่ที่น่าประหลาดใจคือการค้นพบหุ่นหน้ากากท่ทำจากทองและสำริด อายุมากกว่า 3,000 ปีที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ต่างดาวและอุตราแมนในโลกการ์ตูนนักโบราณคดีจีนได้ขุดค้นพบหลุมบวงสรวงใหญ่ 2 หลุมบริเวณ ‘ซานซิงตุย’ ในปี พ.ศ.2529 ที่ภายในเต็มไปด้วยโบราณวัตถุล้ำค่ากว่าพันชิ้น การค้นพบนี้ถือถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจเพราะ เรื่องราวของอารยธรรมทซานซิงตุยไม่เคยมีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของจีนมาก่อน และยิ่งต้องตกใจเข้าไปอีกเมื่อมีการขุดค้นพบหน้ากากที่ทำจากสัมฤทธิ์และทองคำเป็นจำนวนมาก หน้ากากเหล่านั้นมีคิ้วใหญ่ ตาโปน จมูกโต ใบหูกาง ปากแบน-กว้าง และทุกคนเกือบไม่มีขากรรไกรล่าง ซึ่งไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่คล้ายรูปปั้นของชนเผ่าโบราณในแถบอเมริกาใต้ หรือบางคนก็ว่าคล้ายคลึงกับมนุษย์ต่างดาวนักวิชาการบางส่วนที่ไม่เชื่อเรื่องลึกลับวิเคราะห์ว่า หน้ากากเหล่านี้ สร้างขึ้นโดยเลียนแบบพระพักตร์ของกษัตริย์ โดยทำให้อวัยวะบนใบหน้าใหญ่โตเกินควาเป็นจริงเพื่อเป็นการยกย่องกษัตริย์ผู้นั้น ตาที่โปนขึ้นเพื่อบ่งบอกว่ากษัตริย์มีสายตายาวไกล สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลได้นับพันนับหมื่นลี้ได้ หูที่กางขึ้น ก็เพื่อบอกถึงความสามารถของกษัตริย์ในการรับฟังเสียงต่างๆ ที่ลอยมาตามสายลมได้ นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ระบ่า วัตถุโบราณจำนวนมากที่ขุดค้นพบในซานซิงตุยนั้น ไม่เพียงบ่งบอกถึงลักษณะพิเศษของวัฒนธรรมของรัฐสู่ ในสมัยโบราณเท่านั้น แต่ยังบ่งชี้ให้พวกเราเห็นด้วยว่ารัฐสู่นี้ มีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างก้าวหน้า ทั้งยังมีการแลกเปลี่ยน-ค้าขายกับดินแดนในแถบเอเชียตะวันตก เอเชียตะวันออก รวมถึงอาจจะได้รับอิทธิพลจากดินแดนวัฒนธรรมของชนเผ่าในทวีปอื่นๆ อีกด้วยนักวิชาการแห่งพิพิธภัณฑ์บริติช ประเทศอังกฤษตื่นเต้นกับ ซานซิงตุยมาก จนถึงกับยกให้ว่าการค้นพบครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าการค้นพบหุ่นกองทัพทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ที่มณฑลส่านซีเสียอีก. ชื่อ ซานซิงตุย หรือ Three Star Mound หรือแปลเป็นไทยว่า ‘ดอยสามดาว’ มาจากตั้งอยู่บนที่ราบเฉิงตู ที่มีเนินดินสีเหลืองผุดขึ้นมาสามเนินใหญ่นั่นเอง

Read More

21/10/2565

อัฟกานิสถาน แหล่งแร่หากยากที่อาจมีค่ามากกว่าทอง


ปัจจุบันหากพุดถึงแหล่งแร่ทองคำก็ต้องนึกถึงจีน รัสเซีย ถ้าพูดถึงน้ำมันก็ต้องซาอุดิอาระเบียและกลุ่มประเทศเอเปก แต่ถ้าพูดถึงแร่หายากอาจยังชี้ชัดๆไม่ได้ว่าประเทศไหน แต่หลายข้อมูลยืนยันตรงกันว่า อัฟกานิสถาน คือประเทศที่มีแร่หายากมากที่สุดในโลกแร่หายากมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกในอนาคตเพราะมันคือวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิป ผลิตคอมพิวเตอร์ และผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีไฮเทคจำนวนมากที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เช่น ลิเธียม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการผลิตเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน กระทรวงเหมืองและปิโตรเลียม ของอัฟกานิสถาน เปิดเผยข้อมูลว่า ลึกลงไปใต้ดินของหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกแห่งนี้ น่าจะมีแร่ธาตุต่างๆ ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 36.71 ล้านล้านบาท เพียงแต่อัฟกานิสถานยังขาดศักยภาพในการนำทรัพยากรที่มีค่าเหล่านั้นขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้สำนักงานธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (The United States Geological Survey หรือ USGS) เคยทำการสำรวจแร่ในอัฟกานิสถาน พบว่า มีแร่เหล็กสูงถึง 2 พันล้านตัน มีแร่ทองแดงไม่น้อยกว่า 60 ล้านตัน และมีแร่หายากไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านตัน มีการคาดการณ์ในปี 2020 ว่า แร่หายากในอัฟกานิสถานอาจมีมูลค่าสูงถึง 1-3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบได้กับงบประมาณแผ่นดินไทย 10-30 ปีรวมกันเลยทีเดียว โดยสหรัฐอเมริกาขนานนามอัฟกานิสถานว่า “ซาอุดีอาระเบียแห่งลิเธียม” เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยลิเธียม เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำมันนั่นเอง อย่างไรก็ดีนักธรณีวิทยาประเมินว่า อัฟกานิสถานจำเป็นต้องใช้เวลาราว 7-10 ปีในการพัฒนาการขุดเหมืองขนาดใหญ่ เพื่อนำแร่ธาตุใต้ดินเหล่านี้ขึ้นมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้ให้ประเทศ

Read More

20/10/2565

การนำเข้า-ส่งออก ทองคำของสวิตฯหลังวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน


ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางการสกัดและขนส่งทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นที่ตั้งของโรงสกัดทองคำรายใหญ่ 4 แห่ง ที่มีกำลังการผลิตรวมกันกว่า 2ใน 3 ของทองคำทั้งโลก แต่ในช่วงวิกฤติการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ทำผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ไประยะหนึ่ง อันเนื่องมาจากการประกาศคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตกนั่นเองสวิสเซอร์แลนด์เคยนำเข้าทองคำจากรัสเซียในช่วงเวลา 12 เดือนก่อนถึงเดือนกุมภาพันธ์เฉลี่ยเดือนละ 2 ตันและหลังจากนั้นได้ระงับการนำทองคำจากรัสเซียอย่างสิ้นเชิงจนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สวิสเซอร์แลนด์ได้กลับมานำเข้าทองคำจากรัสเซียอีกครั้งหนึ่งสำนักงานศุลกากรระบุว่า สวิตเซอร์แลนด์กลับมานำเข้าทองคำจากรัสเซียในปริมาณ 3.1 ตัน มูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นสัดส่วน 2.3% ของการนำเข้าทองคำทั้งหมด การนำเข้าครั้งนี้มากกว่าการนำเข้าทองคำเฉลี่ยรายเดือนก่อนหน้านั้นอยู่ถึง 1.1 ล้านตัน ซึ่งการกลับมานำเข้าทองคำจากรัสเซียเป็นครั้งแรกนี้อาจบ่งบอกถึงการรับรู้และยอมรับต่อทองคำจากรัสเซียที่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนหน้านี้ก่อนหน้านี้สมาคมตลาดทองคำแท่งแห่งลอนดอนได้ลบชื่อรัสเซียออกจากประเทศผู้ค้าทองคำที่ได้รับการรับรองของสมาคม แต่ก็ถูกตีความว่ามีผลเฉพาะทองคำใหม่เท่านั้นโดยกฎนี้ไม่ได้รวมถึงโลหะอื่นๆ จากโรงสกัดแต่อย่างใด นอกจากนี้การที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียนั้นไม่ได้มีเป้าหมายปิดกั้นการขนส่งทองคำเชิงพาณิชย์โดยตรง แต่ธนาคาร,ผู้ขนส่ง และผู้สกัดทองคำ ส่วนใหญ่ตัดสินใจหยุดดำเนินธุรกิจกับรัสเซียเองด้านการส่งออก สวิตเซอร์แลนด์ส่งออกทองคำไปยังประเทศจีนลดลงในเดือนพฤษภาคม แต่ส่งออกไปยังอินเดียเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยทั้งจีนและอินเดียเป็นตลาดทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในขณะที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตทองคำแท่งรายใหญ่ที่สุดของโลก

Read More

19/10/2565

เครื่องประดับทอง ยังคงครองตลาดในเมืองรองของจีน


ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การบริโภคเครื่องประดับภายในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาโควิด 19และทำให้มูลค่าการบริโภคเครื่องประดับลดลงในปี 2020 แม่เมือสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายมูลค่าการบริโภคเครื่องประดับก็กลับมาสูงขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคทองคำ เพชร และหยก ในเมืองรองที่มีอัตรการเติบโตสูงขึ้นเมืองรองของจีนมีทั้งหมด 30 เมือง แต่ที่มีการพัฒนาสูงสุดมี 9 เมือง คือ เซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน /ฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน /อู๋ซี มณฑลเจียงซู /คุนหมิง มณฑลยูนนาน /ฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง /ฉางชุน มณฑลจี๋หลิน /เวินโจว มณฑลเจ้อเจียง /ฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย์ และหนานหนิง เป็นเมืองรองที่รัฐบาลเร่งพัฒนาทุกด้าน ส่งผลให้อัตราขยายตัวของประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีกำลังซื้อสูง มีศักยภาพในการบริโภคสินค้านำเข้าจากต่างประเทศได้มากขึ้น รวมไปถึงสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอัญมณีและเครื่องประดับด้วยทองคำ : คนจีนนิยมบริโภคเครื่องประดับทองมากที่สุด สัดส่วนการบริโภคเครื่องประดับทองของชาวจีนคิดเป็นร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับเครื่องประดับชนิดอื่นๆ สำหรับเมืองรองและเมืองที่ต่ำกว่าเมืองรอง ให้ความสำคัญกับการบริโภคเครื่องประดับทองมากขึ้นแต่จะมีรูปแบบแตกต่างกันไป โดยผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูม และ Gen-X นิยมซื้อเครื่องประดับทองคำ 24 K จากร้านค้าทองชั้นนำ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและสะสมความมั่งคั่ง ส่วนกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen-Z นิยมบริโภคเครื่องประดับทองคำ 18 K เนื่องจากราคาไม่แพงและเป็นเครื่องประดับที่ทันสมัย นอกจากนี้คนจีนในเมืองรองยังนิยมซื้อทองคำแท่งไว้เก็งกำไรเหมือนกับในเมืองใหญ่ เพชร: เครื่องประดับทองได้รับความนิยมลดลงจากผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen-Z และหันมาบริโภคเครื่องประดับเพชรแทน โดยเฉพาะเครื่องประดับเพชรจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆเช่น Tiffany & Co. และ Cartier ผู้บริโภคชาวจีนร้อยละ 80 ซื้อเครื่องประดับเพชรที่มีแบบและลวดลายแบบยุค 80,90 เพราะมีความหรูหราหยก : ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลบริโภคหยกร้อยละ 44 ในเมืองรองร้อยละ 39.4 ของผู้บริโภคช่วงอายุ 25 – 35 ปี รับชมการขายหยกผ่านการไลฟ์สตรีม แต่กลุ่มที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ไม่นิยมซื้อหยกผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ แต่ให้ความสำคัญกับการซื้อหยกผ่านหน้าร้าน

Read More

31/07/2565

ร้านขายทองในสปป.ลาว


สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ค้าขายทองคำมาเป็นเวลากว่า 100 แล้วและมีการจัดตั้งเป็นสมาคมค้าทองคำเมื่อปี 2550 เริ่มแรกมีสมาชิก 20-30 ร้านค้า และเพิ่มเป็นกว่า 100 ร้านค้าในปัจจุบัน แหล่งค้าทองหลักของสปป,ลาวอยู่ที่เวียงจันทร์ จำปาศักดิ์ สะวันเขต หลวงพระบาง และแขวงเมืองใหญ่ๆรวมแล้ว 600 ร้านค้า ส่วนที่แขวงอื่นๆมีบ้างประปรายในช่วงทียังไม่มีการตั้งสมาคม การค้าทองในประเทศลาวเป็นลักษณะต่างคนต่างขาย จนกระทั่งได้เห็นว่าเมืองไทยมีสมาคมค้าทองคำ จึงได้มีการจัดตั้งสมาคมค้าทองคำขึ้นในลาวและเริ่มมีร้านค้าเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเป้าหมายสูงสุดของสมาคมค้าทองคำของลาวคือการทำให้การค้าทองคำได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล มีการส่งข้อมูลข่าวสารให้ร้านค้าสมาชิกเพื่อให้ก้าวทันโลก และให้การฝึกอบรมในด้านต่างๆแก่สมาชิกการค้าทองคำส่วนใหญ่ในประเทศลาวจะเป็นทองรูปพรรณความบริสุทธิ์ 99.99% มีบ้างที่ซื้อทองคำแท่งไปเก็บไว้เพื่อเป็นการออมและขายทำกำไร ปัจจุบันเริ่มมีการหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้นแต่ก็เพิ่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเพิ่มเติมทั้งทองคำแท่ง โกลด์ฟิวเจอร์สและหุ้นทองคำ ส่วนลวดลายที่ร้านค้านำมาวางขายในอดีตมีไม่มากนักแต่หลังจากมีการก่อตั้งสมาคมค้าทองคำทำให้ได้เรียนรู้รูปแบบและลวดลายที่หลากหลายขึ้นทั้งจากไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย แต่การทำทองรูปพรรณจากทอง99.99% ก็ทำให้ถูกจำกัดในเรื่องของลวดลายเพราะเป็นทองเนื้ออ่อน เสียหายง่ายจึงเหมาะกับลวดลายที่มีความทนทานเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยในการผลิตทำให้สินค้าดูมีความทันสมัยขึ้น โดยทองรูปพรรณที่ขายในลาวคิดค่ากำเหน็ดเส้นต่อเส้นปัจจุบัน ราคารับซื้อทองคำที่ประกาศเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 19,689,000 กีบ ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงสุดในประวัติการณ์ ทำให้มีคนที่มีทองอยู่ในมือพากันนำทองมาขายจำนวนมาก

Read More

30/07/2565

เมื่อทองคำรัสเซียโดนแบนจากกลุ่ม G7 ใครได้รับผลกระทบ


กลุ่ม G7 ประกาศแบนทองคำจากรัสเซียโดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการสกัดกั้นรายได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศรัสเซียที่ส่งออกทองคำมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับสองของรัสเซีย รองจากเชื้อเพลิง โดยรัสเซียครองสัดส่วนเกือบ 5% ของตลาดทองคำโลก กลุ่ม“G 7” หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น ร่วมด้วยสหภาพยุโรป(อียู) 90% ของทองคำที่ส่งออกจากรัสเซียมีประเทศกลุ่มจี 7 เป็นลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุด The London Bullion Market Association (LBMA) สมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอนถือเป็นผู้คุมตลาดทองคำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนอกจากทองคำแล้วยังคุมตลาดโลหะมีค่าชนิดอื่นๆอีกด้วยเช่น เงิน แพตินั่ม นิกเกิล ทองแดง อีกหลายรายการ ซึ่งถ้ามีการแบนทองคำจากรัสเซียนั่นหมายถึงทองประมาณ 9.5% จะหายไปจากตลาด Gold Futures ของอังกฤษ รวมถึงตลาดอันดับที่ 2 อย่าง CME ตลาดเก่าแก่ของสหรัฐด้วย การประกาศแบนทองคำจากรัสเซียของกลุ่มG7 ทำให้นักลงทุนหลายคนออกมาแสดงความเห็นคัดค้านเพราะมองว่า จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวอเมริกันและตลอดทองคำโดยรวม เพราะทองคำจะหายไปจากตลาดและจะทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประโยชน์ให้กับรัสเซียมากกว่าไม่ต่างอาหารและพลังงานที่ยิ่งแซงชั่นรัสเซียยิ่งรวยอย่างไรก็ดีการสั่งห้ามนำเข้าทองคำครั้งนี้จะมีผลกับเฉพาะทองคำที่ขุดได้ใหม่หรือสกัดใหม่ แต่จะไม่มีผลกระทบกับทองคำที่เป็นของรัสเซียที่ได้ส่งออกจากรัสเซียมาก่อนหน้านี้แล้ว

Read More

29/07/2565

ปรับค่าแรงงานช่างเครื่องประดับ..เพิ่มแรงจูงใจในตลาดแรงงาน


คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ใน 3 กลุ่มอาชีพ 16 สาขาแรงงานได้แก่กลุ่มสาขาอาชีพช่างก่อสร้าง กลุ่มสาขาอาชีพภาคบริการ และกลุ่มสาขาอาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ที่ประกอบด้วย ช่างฝีมือเครื่องประดับแนวอนุรักษ์ (เทคนิคโบราณ) และช่างเครื่องถมกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้แบ่งเกณฑ์วัดระดับฝีมือแรงงาน และมีเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา โดยใช้ความรู้ ความสามารถ และทัศนคติในการทำงานเป็นเกณฑ์วัดระดับฝีมือแรงงานซึ่งผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้ใบรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและได้รับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือโดยช่างเครื่องประดับ หากมีมาตรฐานฝีมือระดับ 1 จะได้รับค่าจ้าง 450 บาท/วัน ระดับ 2 ค่าจ้าง 550 บาท/วัน และระดับ 3 ค่าจ้างอยู่ที่ 650 บาท/วัน ช่างเทคนิคโบราณ ระดับ 1 จะได้ค่าจ้าง 525 บาท/วัน ส่วนช่างเครื่องถม มาตรฐานฝีมือระดับ 1 ค่าจ้างอยู่ที่ 625 บาท/วัน การปรับมาตรฐานอัตราค่าจ้างนี้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับได้ อนึ่งแรงงานช่างที่มีทักษะฝีมือสูงอย่างช่างเจียระไนพลอยสีและเพชรจะได้รับค่าจ้างสูงกว่ามาตรฐานอยู่แล้ว จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ในปี 2564 มีแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั้งสิ้น 664,325 คน โดยส่วนใหญ่เกือบ 80% เป็นแรงงานในอุตสาหกรรมปลายน้ำ รองลงมาอยู่ในในอุตสาหกรรมกลางน้ำ (สัดส่วน 18%) และอุตสาหกรรมต้นน้ำ (สัดส่วน 2%) ตามลำดับปัจจุบันอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกใน 3 อันดับแรกของสินค้าส่งออกโดยรวมของประเทศ สร้างงานสร้างรายได้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก โดยแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นแรงงานมีฝีมือที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้ เช่นช่างทำทอง ช่างพลอยสี เป็นต้น ข้อมูล : ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

Read More

28/07/2565

ตู้ขายเครื่องประดับอัตโนมัติ ทางเลือกสำหรับผู้บริโภค


ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่เข้ามาสร้างความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้าที่ต้องการโดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงร้าน โดยประเทศญี่ปุ่นถือเป็นต้นแบบของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นริมทางเดิน แหล่งท่องเที่ยว สถานีขนส่ง หรือแม้แต่บนรถไฟ ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นประมาณการณ์ว่า จำนวนตู้ขายสินค้านี้ในญี่ปุ่นมีจำนวนมากกว่า 5.5 ล้านตู้ โดยมีขายตั้งแต่สินค้าพื้นฐานอย่างเครื่องดื่ม อาหาร ไปจนถึงหนังสือ ร่ม ของเล่น รวมไปถึงของแปลกๆอย่างเครื่องรางจากวัดและศาลเจ้า ถุงน่อง แม้แต่สัตว์เลี้ยงที่มีชีวิต จนมาถึงตู้ขายเครื่องประดับอัตโนมัติMarla Aaron เจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ ต้องการสื่อสารการตลาดกับผู้บริโภคในแบบที่แตกต่างเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ได้นำแรงบันดาลใจจากตู้ขายสินค้าอัตโนมัติในการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเป็นไอเดียในการขยายช่องทางค้าปลีกเครื่องประดับ โดยหน้าจอแสดงวีดิโอแนะนำแบรนด์และรูปแบบการใช้งานให้ผู้สัญจรไปมาได้รับรู้ หากลูกค้าสนใจหรือชื่นชอบก็เพียงแค่กดปุ่มไม่กี่ปุ่มก็จะได้รับเครื่องประดับที่ต้องการไปสวมใส่ได้ทันที โดยสนนราคาอยู่ระหว่าง 100-1,600 ดอลลาร์สหรัฐนอกจากตู้ขายเครื่องประดับของแบรนด์ Marla Aaron แล้ว ที่ญี่ปุ่นยังมีตู้ขายเครื่องประดับมุกอะโกย่าของแบรนด์ Preno ที่มีหลากหลายแบบ ทั้งสร้อยคอ ต่างหู แหวน หรือสร้อยข้อมือ ที่มาพร้อมใบรับรองคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้ออีกด้วย ข้อมูล : ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครืองประดับ

Read More

27/07/2565

ความต้องการเครื่องประดับทองปี 2022 ยังไม่ฟื้น


สภาทองคำโลก (World Gold Council : WGC) รายงานใน Gold Demand Trends Q1 2022 ระบุว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 ความต้องการเครื่องประดับทองทั่วโลก ลดลงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2021มาอยู่ที่ 474 ตัน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาทองที่สูงและปัจจัยลบต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้เมื่อเทียบราคาทองเฉลี่ยของไตรมาสแรกของปีนี้เทียบกับปี 2021 จะสูงกว่าราวร้อยละ 5 อยู่ที่ 1,877.2 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่การชะลอตัวของตลาดจีนและอินเดียซึ่งเป็นตลาดหลักก็ส่งผลให้ความต้องการเครื่องประดับทองลดลงเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ความต้องการเครื่องประดัทองในจีนลดลงร้อยละ 8 มาอยู่ที่ 178 ตันอันเนื่องมาจากการปิดเมืองอย่างเข้มงวดของจีนตามนโยบายควบคุมการระบาดของโควิดให้เป็นศูนย์ ส่วนในอินเดียความต้องการเครื่องประดับทองก็ลดลงถึงร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2021 เหลือเพียง 94 ตัน เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้การจัดงานแต่งงานลดลง โดยทั้งจีนและอินเดียมีปริมาณการซื้อเครื่องประดับทองในไตรมาสแรกของปีนี้รวมกันยังคงมากถึงร้อยละ 57 ของปริมาณความต้องการเครื่องประดับทองทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความต้องการเครื่องประดับทองในตะวันออกกลางและยุโรปยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 18 และร้อยละ 14 ตามลำดับ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2021WGC ยังรายงานเพิ่มเติมว่าความต้องการเครื่องประดับทองในตลาดส่วนใหญ่ยังคงชะลอตัว เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการในช่วงปี 2019 และพบว่าความต้องการในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงต่ำกว่าไตรมาสแรกของปี 2019 โดยเฉพาะในอินเดีย จีน ฮ่องกง ตุรกี และหลายตลาดในเอเชีย อาทิเช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย ข้อมูล : ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

Read More

26/07/2565

ขุมสมบัติแห่งซัคคารา


นักโบราณคดีค้นพบรูปปั้นทองสัมฤทธิ์และโลงศพของมัมมี่อียิปต์โบราณอายุมากกว่า 2,500 ปี จำนวนมากจากสุสานแห่งซัคคาราใกล้กรุงไคโร ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยรัฐบาลอิยิปต์คาดหวังว่านี่จะกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกEgypt's Supreme Council of Antiquities หน่วยงานที่ดูแลด้ายโบราณวัตถุของอิปต์รายงานว่ามีการค้นพบรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของเทพเจ้าอียิปต์มากมายกว่า 150 ชิ้นและโลงศพของมัมมี่อียิปต์โบราณอีก 250 โลงจากสุสานแห่งซัคคาราใกล้กรุงไคโร โลงศพทั้งหมดทำด้วยไม้ยังคงปิดสนิทและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ลวดลายบนฝาโลงยังคงชัดเจน ภายในโลงพบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างที่ต้องนำไปศึกษาต่อในห้องปฏิบัติการของพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร เช่นต้นกกที่ยังมีความสมบูรณ์ ม้วนกระดาษปาปิรัสยาว 9 เมตรที่ทีมงานเชื่อว่าเป็นบทสวดเพื่อนำทางผู้เสียชีวิตไปยังดินแดนหลังความตาย เป็นต้นส่วนรูปปั้นกว่า 150 ชิ้นนั้นทำจากทองสัมฤทธิ์เป็นรูปเทพเจ้าอียิปต์ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าบาสท์ (Bastet) เทวีแห่งความรักผู้มีศีรษะเป็นแมว, เทพเจ้าอนูบิส (Anubis), เทพเจ้าโอซิริส (Osiris), เทพเจ้าไอซิส (Isis), เทพเจ้าแห่งความหอมเนเฟอร์เทม (Nefertum หรือ Nefertem), และเทพเจ้าฮาเธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรักการค้นพบทั้งหมดได้จากการขุดในพื้นที่เพียง 91 เมตรจากพื้นที่ทั้งหมดที่ยาวกว่า 402 เมตร จึงคาดว่ามีขุมทรัพย์อีกมากให้ค้นพบ ทั้งนี้ซัคคารา หรือ Saqqara เป็นสุสานขนาดใหญ่ของวัฒนธรรมอียิปต์โบราณ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกถือเป็นแหล่งโบราณคดีที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Read More

26/07/2565

ผ้าไทยลายทอง


ผ้าโบราณของไทย เป็นอาภรณ์ประดับกายที่มีคุณค่ามากกว่าแค่เครื่องนุ่งห่ม โดยเฉพาะผ้าไทยที่ใช้ในราขสำนักหรือชนชั้นสูง ล้วนแล้วแต่งดงาม ฝีมือการทอประณีต ผลิตจากฝ้ายหรือไหมชั้นดีและมีส่วนผสมของเส้นใยทองคำ เช่น ผ้ากรองทอง ผ้าเขียนทอง ผ้ายกดิ้นทอง เป็นต้น ผ้ากรองทอง เป็นผ้าที่ถักด้วยแล่งเงินหรือแล่งทอง ถักให้เป็นลวดลายต่อกันเป็นผืน ส่วนมากนำมาทำเป็นผ้าสไบ ใช้ห่มทับลงบนผ้าแถบและผ้าสไบอีกทีหนึ่ง มักใช้แต่เฉพาะเจ้านายผู้หญิงชั้นสูง มีขนาดกว้างยาวเท่ากับผ้าสไบ ชายผ้าด้านกว้างปล่อยเป็นชายครุย เมื่อต้องการให้ผ้ากรองทองมีความงดงามเพิ่มมากขึ้น นิยมนำปีกแมลงทับมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เหมือนรูปใบไม้ และปักลงไปบนผ้ากรองทอง ผ้าเขียนทอง เป็นผ้าพิมพ์ลายอย่างดี เน้นลวดลาย เพิ่มความสวยงาม ด้วยการเขียนเส้นทองตามขอบลาย ผ้านี้เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และใช้ได้เฉพาะพระมหากษัตริย์ลงมาถึงชั้นพระองค์เจ้าโดยกำเนิดเท่านั้นผ้าปักไหม เป็นผ้าที่ใช้กันในบรรดาเจ้านายชั้นสูง มีทั้งผ้านุ่ง ผ้าห่ม ใช้ห่มทับสไบ ผ้าปูลาด และผ้าห่อเครื่องทรง ส่วนมากใช้ผ้าไหมพื้นเนื้อดี ปักลวดลายด้วยไหมสีต่างๆ ทั้งผืน การปักไหมนี้ถ้าใช้ไหมสีทองมากก็เรียกว่า “ผ้าปักไหมทอง”ผ้ายกดิ้นทอง ปรากฏในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำพูน และในภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช และอำเภอพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี คำว่า “ยก” มาจากการเรียกกระบวนทอ เวลาทอเส้นด้ายหรือไหมที่เชิดขึ้น เรียกว่า “เส้นยก” เส้นด้ายหรือไหมที่จมลงเรียกว่า “เส้นข่ม” แล้วพุ่งกระสวยไปในระหว่างกลาง ถ้าจะให้เป็นลาย เลือกยกเส้นข่มขึ้นบางเส้น ก็เกิดลายยกขึ้น จึงเรียกว่า “ผ้ายก” ไทยเราผลิตผ้ายกได้ดี ทั้งยกไหม และยกดิ้นนอกจากนี้ยังมีผ้าพื้นเมืองที่ทำจากวัสดุพื้นถิ่น และมีชื่อเสียงในเวลาต่อมา เช่น ผ้ากาสาเป็นผ้าดิบเนื้อหยาบ ไม่ได้ย้อมฝาด มีสีหม่นไม่ขาวทีเดียว คำว่า กาสา (Kassar) เป็นคำมลายู แปลว่า หยาผ้าขาวม้าเดิมเรียก “ผ้ากำม้า” เป็นผ้าประจำตัวของผู้ชาย ใช้เป็นทั้งผ้านุ่ง ผ้าเช็ดตัว ผ้าเคียนพุง และผ้าพาดไหล่ เป็นผ้าฝ้ายผืนยาวทอเป็นลายตาตารางผ้าตามะกล่ำ/ผ้าตาเล็ดงา/ผ้าตาสมุก เป็นผ้าฝ้าย สีคล้ำมีลายเล็กๆ ใช้เป็นผ้านุ่ง ผ้าบังปอก ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ ชาวบ้านใช้ โดยเฉพาะผู้หญิงใช้เป็นผ้านุ่ง เป็นต้น

Read More

26/07/2565

เมื่อ “เพชรรัสเซีย”กำลังจะกลายเป็น “เพชรสีเลือด”


สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่เพียงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ตลาดเงิน ตลาดทุนและราคาน้ำมันเท่านั้น แต่มันกำลังส่งผลกระทบไปถึงเพชรรัสเซีย อัญมณีขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่งของรัสเซียที่กำลังถูกตีตราว่าเป็นเพชรสีเลือดสหภาพยุโรปหรืออียู กำลังมีความพยายามที่จะนิยามเพชรรัสเซีย ว่าเป็นเพชรสีเลือด อันหมายถึงเพชรที่มาจากแหล่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะชาติตะวันตกเห็นว่ารายได้จากการขายเพชรของรัสเซียนั้นถูกนำไปใช้เป็นท่อน้ำเลี้ยงในการทำสงคราม ซึ่งเรื่องนี้จะมีการพูดถึงการประชุมเพชรแห่งความขัดแย้งระหว่างประเทศในบอตสวานา รัสเซียคัดค้านแนวคิดนี้อย่างหนักโดยได้รับการสนับสนุนจากเบลารุส สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (CAR) คีร์กีซสถาน และมาลีกรอบความตกลงกระบวนการคิมเบอร์ลี (Kimberley Process)หรือKP ได้นิยามเพชรแห่งความขัดแย้งเอาไว้ว่า เป็นเพชรที่ใช้ในการสนับสนุนขบวนการก่อความไม่สงบที่ต้องการบ่อนทำลายรัฐบาลที่มีความชอบธรรม ซึ่งความเห็นที่ไม่เป็นเอกฉันท์ของKPนี้อาจทำให้ความพยายามของอียูเป็นหมัน เพราะโดยปกติแล้วต้องอาศัยการตัดสินใจที่เป็นเอกฉันท์ข้อตกลงจึงจะมีผลบังคับใช้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจดหมายจำนวนหนึ่งว่า เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับข้อเสนอของยูเครน สหภาพยุโรป (EU) ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐ ที่ต้องการให้หารือกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน และขยายคำจำกัดความของ KP เกี่ยวกับเพชรแห่งความขัดแย้ง (conflict diamond) หรือเพชรสีเลือด ให้ครอบคลุมผู้แสดงบทบาทที่เป็นรัฐ (state actor) ในที่ประชุมวันที่ 20-24 มิ.ย. ณ ประเทศบอตสวานาก่อนหน้านี้ สหรัฐและอังกฤษได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทอาโรซา สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพชรดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยสัดส่วนการผลิตเพชรคิดเป็นประมาณ 30% ของผลผลิตโลกในปีที่ผ่านมา และรัฐบาลรัสเซียมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร

Read More

25/07/2565

ไทยยืนหนึ่ง ซื้อทองคำมากที่สุดในโลก


สภาทองคำโลก (World Gold Council) ออกรายงายว่าปี 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ “แบงก์ชาติ” กลายเป็นนักลงทุนสถาบันผู้ซื้อทองคำมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกที่ 90 ตัน เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับปี 2563 พร้อมทั้งทำสถิติสำรองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยปริมาณ 244 ตันสภาทองคำโลก (World Gold Council) วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า การเข้าซื้อทองคำจำนวนมากของธนาคารแห่งประเทศไทยนี้ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามเงินเฟ้อ และเป็นการเตรียมพร้อมต่อการไหลออกของเงินทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากทิศทางนโยบายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐ เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ในปี 2565 นี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกดูจะเลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังสงคราม“รัสเซีย-ยูเครน” ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง และดันราคาน้ำมันถีบตัวขึ้นสูงกว่า 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซ้ำเติมระดับเงินเฟ้อทั่วโลกให้เข้าใกล้ระดับวิกฤติมากไปกว่าเดิม และส่งผลให้ “ราคาทองคำ” สินทรัพย์ที่นับว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ดีที่สุด ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากสถานการณ์นี้ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งถือเป็นนักลงทุนสถาบันจึงถูกคาดว่าจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากการสำรองทองคำไว้ในระดับสูงขณะที่แนวโน้มความต้องการทองคำในปี 2565 สภาทองคำโลกคาดว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะยังเห็นความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น โดยมีแรงหนุนทั้งจากการกลับมาซื้อทองคำของผู้บริโภคทั่วไป ภายหลังเชื่อมั่นเศรษฐกิจกลับมาเติบโต และอีกส่วนมาจากความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบันโดย 10 อันดับประเทศที่เข้าซื้อทองคำมากที่สุดในปี 2564 ได้แก่อันดับ1 ประเทศไทยอันดับ2 ประเทศอินเดียอันดับ3 ประเทศฮังการีอันดับ 4 ประเทศบราซิลอันดับ 5 ประเทศอุซเบกิสถานอันดับ 6 ประเทศสิงคโปร์อันดับ 7 คาซัคสถานอันดับ 8 มองโกเลียอันดับ 9 กัมพูชาอันดับ 10 เบลารุส

Read More

24/07/2565

“ครอบพระเศียรทองคำ” หายไปได้คืน


5 ปีเต็มของความพยายาม ในที่สุด “ครอบพระเศียรทองคำ” โบราณวัตถุล้ำค่าของไทยก็ได้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาหลังจากสูญหายไปหลายสิบปี“ครอบพระเศียรทองคำ” เป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านนา มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 20-21สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาใช้ประดับพระเศียรพระพุทธรูปพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหิน สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ตรวจสอบเนื้อวัสดุแล้วพบว่าทำจากทองคำ 95 % ด้วยเทคนิคการดุนทองและตีทอง ส่วนครอบพระเศียรมีขาดกว้าง 14 เซนติเมตร ยาว 17.6 เซนติเมตร. น้ำหนัก 12.7 กรัม และส่วนพระรัศมีสูง 12.7 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร หนัก 29.9 กรัมทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้น หรือ 5 ปีหลังการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ในการติดตามโบราณวัตถุในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ โดยวัตถุโบราณชิ้นสำคัญที่ได้รับคืนมาก่อนหน้านี้คือทับหลัง 2 รายการ จาก Asian Art Museum ได้แก่ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ที่ถูกขโมยไปนานเกือบ 60 ปี นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับประติมากรรมสำริด โบราณคดีประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเดนเวอร์ ซึ่งมีแนวโน้มอาจได้กลับคืนประเทศไทยในลำดับถัดไป ปัจจุบันยังมีโบราณวัตถุของไทยที่ถูกนำออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากทั้งที่จัดแสดงและเก็บรักษาภายในพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ อยู่ในความครอบครองของเอกชน หรือมูลนิธิเอกชน สถาบัน การศึกษา หรือซื้อขายผ่านสถาบันการประมูลโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลจะได้ติดตามโบราณวัตถุของไทยที่อยู่ในต่างประเทศให้กลับมาเป็นสมบัติและมรดกวัฒนธรรมของชาติต่อไปสำหรับ“ครอบพระเศียรทองคำ”ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดีล้านนา อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการทวงคืนโบราณวัตถุจากต่างประเทศ

Read More

22/07/2565

เปิดตัวเลขเหมืองทองคำในกัมพูชา


ทองคำล็อตแรกจากเหมืองทองคำแห่งแรกในกัมพูชาออกสู่ตลาดแล้วหลังการเปิดเหมืองปี 64 โดยทองคำทั้งหมด มาจากการถลุงในเหมืองทองคำเพียงหนึ่งแห่งจากหลายแห่งของประเทศเท่านั้นกัมพูชาเริ่มใช้ทรัพยากรธรรมชาติส่วนหนึ่งที่แสวงหามาได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศ การถลุงแร่ทองคำครั้งแรกนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่เหมืองทองคำในจังหวัดมณฑลคีรี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยบริษัท เรเนซองส์ มิเนอรัลส์ (กัมพูชา) จำกัด ในเครือเอมเมอรัลด์ รีซอร์ซิส เอ็นแอล (Emerald Resources NL) ซึ่งจดทะเบียนในออสเตรเลีย เป็นผู้พัฒนาเหมืองทองคำในพื้นที่โอกะวาว เขตแก้วสีมา ซึ่งคาดว่าบริษัทจะสามารถผลิตทองคำบริสุทธิ์ได้ประมาณ 3 ตันต่อปี ภายในระยะเวลา 8 ปีแรกกัมพูชาประมาณการว่า เหมืองแร่ทองคำของเรเนซองส์ มิเนอรัลส์ จะสร้างรายได้ประมาณ 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,180ล้านบาท ต่อปี โดยเงินประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,340 ล้านบาท จะถูกอัดฉีดเข้าคลังของรัฐบาลกัมพูชา ผ่านภาษีและสัมปทานรัฐบาลกัมพูชาเชื่อมั่นว่า รายได้จากการผลิตทองคำนี้จะสามารถชดเชยความสูญเสีย จากกรณีที่คริสเอเนอร์จี (KrisEnergy) บริษัทน้ำมันในสิงคโปร์ ยื่นขอชำระบัญชีและเลิกกิจการ เพราะการผลิตน้ำมันดิบแห่งแรกในอ่าวไทยที่อัปสรา แปลงA แหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งหนึ่งของกัมพูชา ไม่เป็นไปตามที่เป้าคาดการณ์ ไว้ส่งผลให้คริสเอเนอร์จีไม่สามารถชำระหนี้ได้เหมืองทองของบริษัท เรเนซองส์ มิเนอรัลส์ (กัมพูชา) จำกัดนี้ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าพนมพริก และเป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยพื้นเมืองจำนวนหนึ่ง และเกิดกรณีขัดแย้งมีการปะทะกับเจ้าหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่าโครงการเหมืองทองนี้ปกปิดการตัดไม้ทำลายป่าอันมีค่าแต่รัฐบาลยืนยันว่าโครงการเหมืองแร่ทองคำดำเนินการด้วย ‘ความรับผิดชอบอย่างสูงต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสังคม’

Read More

22/07/2565

เงิน-ทองคำสองรอง มูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ของรัสเซียถูกอายัด จากมาตรการคว่ำบาต


กระทรวงการคลังรัสเซียออกมาเปิดเผยว่าสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียถูกอายัดจากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกหลายระลอก เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครน ซึ่งขณะนี้ก้าวเข้าสู่เดือนที่สี่แล้ว โดยสินทรัพย์ที่ถูกอายัดส่วนหนึ่งคือเงินและทองคำสำรองของรัสเซียมูลค่าถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซียทั้งหมด 640,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาตรการคว่ำบาตรัสเซียจากสถานการณ์บุกยูเครนรัสเซียมีทองคำและเงินตราต่างประเทศฝากไว้ในรูปของเงินสกุลหยวน ซึ่งรัสเซียทราบดีกว่าจีนก็ถูกแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้จำกัดการค้ากับรัสเซีย รวมถึงถูกกดดันไม่ให้รัสเซียเข้าถึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ฝากอยู่กับจีน แต่รัสเซีย เชื่อว่าการเป็นหุ้นส่วนกับจีนจะช่วยให้จีนและรัสเซียยังคงรักษาความร่วมมือระหว่างกันได้ รวมถึงการเพิ่มการใช้เงินหยวนในสภาพแวดล้อมที่ถูกชาติตะวันตกปิดกั้นได้ โดยรัสเซียจะชำระหนี้ของรัฐบาลด้วยการจ่ายเป็นเงินสกุลรูเบิลให้เจ้าหนี้ จนกว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซียจะถูกยกเลิกการอายัดทองคำและทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่าราว 6.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 21.4 ล้านล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งถูกอายัดไว้ หลังรัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสงครามกับยูเครนซึ่งแม้ความขัดแย้งนี้จะสร้างความยุ่งยากให้กับสถาบันการเงินรัสเซีย แต่รัสเซียเชื่อว่าทุนสำรองของประเทศนี้จะช่วยให้ธนาคารต่างๆดำเนินการต่อไปได้ภายใต้ข้อจำกัด โดยรัสเซียมีเงินเพียงพอจะรับประกันการผลิตสินค้าสำคัญ และธนาคารกลางจะจัดสรรสภาพคล่องอันจำเป็นให้ระบบการเงินได้ทั้งนี้ รัสเซีย เป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่เป็นอันดับห้าของโลกและในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางรัสเซียก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ซื้อทองคำเป็นเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก

Read More

21/07/2565

การขุดบิตคอยน์ VS การขุดทองคำ


มีการเปรียบเทียบว่าบิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นทองคำดิจิตอล(Digital Gold) เพราะมันมีลักษณะหลายอย่างคล้ายกัน ทั้งปริมาณที่จำกัดเเละต้องมีต้นทุนในการผลิต ซึ่งเรียกว่าการขุดนั่นเอง คราวนี้เราตจะมาทำความเข้าใจกันว่าการขุดทองและการขุดบิตคอยน์นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไรกิจกรรมการขุดบิตคอยน์การขุดทองคำการทำเหมืองใช้กำลังไฟฟ้า/ใช้การ์ดจอหรือใช้เครื่องขุดโดยเฉพาะที่เรียกว่า Application-Specific Integrated Circuit หรือ ASICต้องมีการสำรวจ/ ลงทุนสร้างเหมือง /ขุดเจาะ /นำมาหลอมขึ้นรูปใหม่ต้นทุนการผลิตหลักๆมีอยู่ 2 ปัจจัยก็คือประสิทธิภาพ/กำลังเครื่องขุดและค่าไฟฟ้าของแต่ละประเทศ และสมมติให้เครื่องขุดใช้เวลาขุด 4 ปีเพื่อให้ได้ 1 Bitcoin คิดค่าไฟในประเทศสหรัฐฯที่ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงต้นทุนเฉลี่ยการขุดจะอยู่ที่ประมาณ 33,000 เหรียญต่อ 1 BTCในโลกมีบริษัททำเหมืองทองคำขนาดใหญ่อยู่ 5 แห่งคือ Newmont Barrick/ Gold Crop/ Kinross/ AngloGold/ Ashanti Gold Fields ต้นทุนราคาหน้าเหมืองที่แท้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,060 เหรียญ/ออนซ์ปริมาณที่ขุดได้/ปีถูก Fix ด้วย Code ทำให้ในเเต่ละปีจะมีกำลังการผลิตคงที่ไม่ว่าจะมีคนขุดมากน้อยแค่ไหนก็ตาม Bitcoin ก็จะมีปริมาณออกมาคงที่อยู่ดีรวมปริมาณการผลิตของ 5 เหมืองใหญ่อยู่ที่ 102 ตัน(Newmont 3 ตัน/Barrick Gold Crop 9 ตัน/Kinross 6 ตัน/AngloGold Ashanti 79 ตัน/Gold Fields 5 ตัน)ทั้งนี้ ปริมาณทองคำที่ขุดได้ต่อปีสามารถปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เล็กน้อย ในกรณีที่เหมืองต้องการเพิ่มหรือลดกำลังการขุดจะเห็นได้ว่าทั้งทองคำเเละบิตคอยน์ มีส่วนที่คล้ายและต่างกัน คือ ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่าการขุดเหมือนกัน เเต่มีรายละเอียดต่างกันมาก มีอยู่อย่างจำกัดเเละผลิตออกมาต่อปีได้อย่างจำกัดคล้ายกัน

Read More

18/07/2565

หุ้นเหมืองทอง...น่าลงทุนหรือไม่


การลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำนั้นต่างจากการลงทุนในทองคำแท่ง เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตหรือล้มละลายลงได้ ผู้สนใจลงทุนในหุ้นเหมืองทองจึงต้องศึกษารายละเอียดต่างๆของหุ้นแต่ละตัวในประเด็นที่มีผลต่อราคาหุ้นได้แก่อายุของสัมปทานและเหมืองสำรองที่รอการสำรวจและขุด ซึ่งจะสามารถดูความสม่ำเสมอของรายได้และความมั่นคงทางธุรกิจได้ต้นทุนการผลิต และสัดส่วนหนี้ต่อทุนของบริษัท ถ้าต้นทุนต่ำเวลาทองคำเพิ่มขึ้นกำไรก็จะเพิ่มในอัตราที่สูงกว่า ในขณะที่ถ้ามีการใช้เงินกู้สูงๆ เวลาราคาทองคำตก บริษัทอาจจะประสบปัญหาทางการเงินได้แนวโน้มการเติบโต ทิศทางราคาทองคำ และโครงการต่างๆ ที่ทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์ ความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เสถียรภาพทางการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกรทบที่อาจเกิดกับสัมปทาน หุ้นเหมืองทองนั้นมีความผันผวนสูงกว่าการลงทุนในทองคำหรือทองคำแท่ง ผู้ลงทุนจึงต้องรู้ข้อมูลของหุ้นแต่ละบริษัทว่าตัวไหนควรลงทุนหรือควรหลีกเลี่ยง โดยหุ้นเหมืองทองที่น่าสนใจเช่น1. Newmont Mining – บริษัทขุดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้เกือบ 12 พันล้านดอลลาร์ต่อปี บริษัทตั้งอยู่ในโคโลลาโด มีเหมืองทองคำในโคโลลาโด เนวาดา ควิกเบก อาเจนตินา เปรู ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆอีกหลายแห่ง2. Barrick Gold – บริษัทขุดทองและทองแดงที่มีไซต์ทั่วโลก 16 แห่ง เป็นบริษัทเหมืองแร่ทองคำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ผลิตทองคำได้ 4-5 ล้านออนซ์ใน2564 นับเป็นหุ้นพื้นฐานดีในสายหุ้นเหมืองทองคำอีกตัว 3. Freeport-McMoRan – เจ้าของเหมืองทองคำที่ใหญ่และทำกำไรได้มากที่สุดในโลก เป็นเจ้าของเหมือง Grasberg ในเมืองปาปัว ประเทศอินโดนีเซีย เป็นเหมืองทองคำที่ใหญ่และทำกำไรได้มากที่สุดในโลก จึงเป็นหุ้นเหมืองทองคำที่น่าสนใจมาก 4. Newcrest Mining – บริษัทขุดทองชั้นนำของออสเตรเลีย เป็นบริษัทย่อยของ Newmont Mining ก่อนที่จะถูกแยกออกเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก การทำเหมืองของพวกเขาตั้งอยู่ในออสเตรเลีย ปาปัวนิวกินี และโกติวัวร์ เป็นหุ้นเมืองค่อนข้างน่าสนใจมากอีกตัวหนึ่ง

Read More

16/07/2565

ต้นทุนหน้าเหมืองทอง คิดเป็น65% ของราคาทองในตลาด


เราได้ยินคำว่าต้นทุนหน้าเหมืองกันบ่อยๆ แต่อาจยังไม่รู้ว่าต้นทุนหน้าเหมืองคืออะไร ประกอบด้วยค่าจ่ายอะไรบ้าง และคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ของการกำหนดราคาทองในท้องตลาดต้นทุนหน้าเหมืองคือ AISC (All-In Sustaining Cost) คือต้นทุนทั้งหมดของการขุดทอง ที่เหมืองนั้นสามารถดำเนินธุรกิจได้ ประกอบไปด้วยต้นทุน Cash Cost /ต้นทุนสำนักงาน/ ต้นทุนธุรการ/ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายในการสำรวจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นทุนที่สะท้อนทุกค่าใช้จ่ายของการผลิตทองคำนั่นเองการจะได้ทองคำหนึ่งออนซ์ (31.167 gram) ต้องถลุงก้อนแร่ที่มีทองคำอยู่หลายตัน และต้องขุดเหมืองลึกลงไปหลายสิบเมตร ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีผลต่อราคาขายทองคำมากที่สุด ซึ่งต้นทุนการผลิตจากเหมืองทองคำคิดเป็นสัดส่วน 65% โดยประมาณส่วนอีก 35% ของราคาทองคำในตลาดโลกนั้นมาจากความต้องการในตลาดไม่ว่าจะแรงซื้อ-แรงขายในภาคเครื่องประดับ, การลงทุนทองคำในทุกประเภท, แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางและภาคเทคโนโลยี รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์ต้นทุนการผลิตจากเหมืองทองคำมีความสำคัญอย่างมากต่อการประเมินราคาขั้นต่ำที่เป็นไปได้ของทองคำ ข้อมูลของสภาทองคำโลกระบุว่า All-in Sustaining Costs (AISC) หรือต้นทุนหน้าเหมืองทองคำในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ 1,129 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยAISC เฉลี่ยในปี 2021 เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าสู่ระดับ 1,068 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 หรือสูงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากหลายปัจจัย ทั้งอัตราเงินเฟ้อของต้นทุนวัตถุดิบ การแข็งค่าของสกุลเงินผู้ผลิตในท้องถิ่นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19

Read More

15/07/2565

มาตรการโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน ทำตลาดทองรูปพรรณซบ


ตลาดทองรูปพรรณในประเทศจีนี่เริ่มกลับมาคึกคักในช่วงเทศกาลตรุษจีนเนื่องจากการผ่อนคลายจากวิกฤติโควิด-19 ต้องกลับมาอยู่ในภาวะซบเซาลงอีกครั้งภายหลังจากการระบาดของโควิดในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ที่นำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ภายใต้ข้อปฏิบัติตามนโยบายเฝ้าระวังโควิดที่เคร่งครัดของจีน การล็อกดาวน์ของจีนส่งผลให้ความต้องการทองรูปพรรณลดลง ความต้องการซื้อทองคำทั่วโลกจึงลดลงเหลือ 474 ตัน คิดเป็น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ที่ลดลงในจีน ในขณะที่ประเทศอินเดีย ก็มีการลดการจัดงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองในวันมงคลต่างๆลงในไตรมาสแรก จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการซื้อทองคำในประเทศ ประกอบกับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคชาวอินเดียจำนวนมากชะลอการซื้อทองคำลงอย่างมากสภาทองคำโลกประเมินว่า ผู้บริโภคทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตค่าครองชีพที่จะต้องระมัดระวังในการใช้เงิน แม้ว่าความต้องการของผู้บริโภคจะฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด แต่ความต้องการซื้อเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจหยุดชะงัก ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปอย่างไรก็ดีแม้ความต้องการทองรูปพรรณจะลดลง แต่ความต้องการทองคำในด้านเทคโนโลยีกลับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 82 ตัน คิดเป็น 1% ในไตรมาสแรกของปี 2564 แต่ถึงแม้ว่าภาคธุรกิจจะมีการเติบโตพอประมาณ แต่ก็พบว่ายังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญเนื่องจากศูนย์กลางทางการเงินและอุตสาหกรรมที่สำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยตรงต่อไปอีกระยะ

Read More

14/07/2565

ความต้องการทองคำในไทยลด สวนทางความต้องการทองคำโลก


สภาทองคำโลกรายงานสถานการณ์ความต้องการทองคำในประเทศไทยว่า ในขณะที่ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาสที 1/65 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,234 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี แต่ความต้องการซื้อทองคำของผู้บริโภคในประเทศไทยกลับลดลงจาก 8.3 ตันในไตรมาสแรกของปี 2564 ไปอยู่ที่ 3.8 ตันในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งนับว่าลดลงถึง 54% เลยทีเดียวผู้แทนสภาทองคำโลกประจำภูมิภาคสรุปว่า สาเหตุที่การบริโภคทองคำในประเทศไทยลดลงเนื่องจากผู้บริโภคทองคำในประเทศไทยมีแนวโน้มอ่อนไหวต่อราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะด้วยราคาขายภายในประเทศที่สูงนี้ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะขายทำกำไรเมื่อราคาถึงเป้าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทองคำในประเทศไทยยังคงเผชิญกับคู่แข่งสำคัญอย่างการลงทุนแบบไม่ต้องถือครองผลิตภัณฑ์หรือที่เรียกว่า Paper Gold นั่นเองดังนั้นภาพรวมการบริโภคทองคำของไทยจึงลดลง ทั้งการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญที่ลดลงถึง 74​% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จาก 6.2 ตันในไตรมาส 1/64 ไปอยู่ที่ 1.6 ตันในไตรมาส 1/65 แต่ความต้องการซื้อเครื่องประดับในกลุ่มผู้บริโภคขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแม้จะยังไม่กลับไปเท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดแต่การกลับมาเปิดประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวก็ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จาก 2.0 ตันในไตรมาส 1/64 ไปเป็น 2.2 ตัน ในไตรมาส 1/65 อนึ่ง การที่ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น ไปอยู่ที่ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ในเดือนมีนาคม ทำให้ผู้บริโภคยังคงชะลอการซื้อทองคำไว้ก่อนและเลือกที่จะขายทำกำไรจากราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นแต่โดยภาพรวมสภาทองคำโลก ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2565 ทองคำยังมีสถานะที่แข็งแกร่งเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความปลอดภัยสำหรับนักลงทุนและผู้บริโภครายย่อย

Read More

13/07/2565

สงครามรัสเซีย-ยูเครนและเงินเฟ้อ ผลักความต้องการทองคำโลกพุ่งในไตรมาส1/65


สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) รายงานตัวเลขความต้องการทองคำทั่วโลกหลังผ่านไตรมาส 1/65 ว่ายังคงเพิ่มสูงขึ้นถึง 34% แตะระดับ 1,234 ตัน ซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากวิกฤตสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ผู้บริหารประจำภูมิภาคแห่งสภาทองคำโลก กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ความต้องการและการลงทุนในทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้บริโภคบางส่วนจะหลีกเลี่ยงการซื้อทอง เนื่องจากถูกกดดันจากราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/65 ความต้องการทองคำอาจจะลดลง จากการที่ประเทศจีนขยายพื้นที่การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด โดยเฉพาะฝั่งนักลงทุนสถาบันที่จะเข้าลงทุนในทองคำผ่าน Gold ETF มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ Fed เร่งดำเนินนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน โดยข้อมูลจากรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ (Gold Demand Trends Report) ฉบับล่าสุดของสภาทองคำโลก ระบุว่า การลงทุนในกองทุนรวมทองคำ (Gold ETF) มีเงินทุนไหลเข้ารายไตรมาสสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ที่ 269 ตัน มากกว่าเงินทุนไหลออกสุทธิรายปีซึ่งอยู่ที่ 173 ตันในปี 2564 โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากราคาทองคำที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันความต้องการซื้อทองคำแท่งและเหรียญทองคำปรับสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี อยู่ที่ 11% หรือ 282 ตัน แต่การที่จีนประกาศปิดประเทศอีกครั้ง และราคาทองที่สูงในตุรกีล้วนมีส่วนทำให้ความต้องการซื้อทองลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบกับความต้องการซื้อที่สูงมากในไตรมาส 1/64

Read More

13/07/2565

SCS-007 มาตรฐานเหมืองทองยั่งยืน


ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความยั่งยืนมีจริยธรรม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยเฉพาะทองคำ ที่บริโภคจะคำนึงถึงกระบวนการได้มาตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางว่าได้มาตรฐาน SCS-007 หรือไม่มาตรฐาน SCS-007 นั้น ประกอบไปด้วย 5 เสาหลัก คือ แหล่งที่มาโปร่งใสตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบที่มีจริยธรรม การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ กระบวนการผลิตที่เน้นความยั่งยืน และการลงทุนเพื่อความยั่งยืน มาตรฐาน SCS-007 เป็นความร่วมมือของ 2 องค์กรเพื่อกำหนดมาตรฐานการดำเนินธุรกิจทองคำอย่างยั่งยืน ได้แก่ SCS Global Services (SCS) องค์กรชั้นนำระดับโลกด้านการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมทั้งทำหน้าที่ในการตรวจสอบ การทดสอบ และการพัฒนามาตรฐาน และ Alliance for Responsible Mining (ARM) องค์กรระดับโลกที่ให้การสนับสนุนการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิมและขนาดเล็กในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของคนงานเหมืองและชุมชน ซึ่งทั้งสององค์กรได้ประกาศข้อตกลงในการขยายมาตรฐาน SCS-007 ที่ใช้เพื่อจัดอันดับความยั่งยืนสำหรับเครื่องประดับ ทั้งที่ได้จากการทำเหมืองทองคำขนาดใหญ่และทองคำที่ได้จากเหมืองแร่แบบดั้งเดิมและเหมืองขนาดเล็ก (ASM) เข้าไปด้วย ปัจจุบันผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับในถึง 75% ให้ความสำคัญต่อประเด็นการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน การใช้แรงงานเด็ก และการทำลายสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นการกำหนดมาตรฐาน SCS-007 จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่า เครื่องประดับทองคำที่ลูกค้าเลือกซื้อมานั้น มาจากแหล่งที่มีความรับผิดชอบและเชื่อถือได้ การร่วมมือกันของ SCS กับ ASM นั้น จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการเหมืองแร่เพื่อความยั่งยืนของ ARM ได้รับการประเมินว่าทองคำที่นำมาผลิตเป็นเครื่องประดับนั้นเป็นทองคำที่ได้รับการรับรองความยั่งยืนภายใต้มาตรฐาน SCS-007 ได้มาตรฐานด้านจริยธรรมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อความสบายใจของผู้บริโภค

Read More

13/07/2565

เครื่องประดับไทยในตลาดอเมริกา


อัญมณีและเครื่องประดับเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ในพิธีแต่งงาน หรือในงานพิธีต่างๆ และไทยก็เป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา ทั้งเพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน และเครื่องประดับเทียม โดยกลุ่มคนมิลเลนเนียลคือกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงสุด ข้อมูลจาก Brookings.com ระบุว่าร้อยละ 22 ของประชากรของสหรัฐอเมริกา คือกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีการบริโภคเฉลี่ย 59,866 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี และเป็นการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับมากเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัวก็มีแนวโน้มที่จะนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยเพิ่มขึ้นหลายรายการยกเว้นพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนที่มีการนำเข้าลดลง เนื่องจากมีปัญหาล้นตลาด จากการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19 ตั้งแต่ปี2020 เป็นต้นมา มูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยไม่รวมทองคำ ในไตรมาสแรกของปี 2565 ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.96 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น โดยสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย อินเดียฮ่องกง เยอรมนี สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เบลเยียม อิตาลีและญี่ปุ่น โดยมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาที่เติบโตขึ้น เนื่องจากการส่งออก เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง เพชรเจียระไน และพลอยเนื้อแข็ง ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 5.05, ร้อยละ 35.69, ร้อยละ199.41, และร้อยละ 163.43 ตามลำดับทั้งนี้ MediaPost และ Pew Research Center ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลพบว่าส่วนมากให้ความสำคัญกับการใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลที่สนใจ ผู้ประกอบการนำเสนอข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับด้วยวีดีโอและรูปภาพผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม จะสามารถดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้มาเลือกซื้อสินค้าได้มากขึ้น นอกจากนั้นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับมืสองก็เป็นสิ่งที่ชาวอเมริกาให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการนำของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและลดการใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมากด้วย

Read More

13/07/2565

เมื่อพลอยสีมาแรงแซงทองคำในตลาดจีน


ทองคำ หยก และไข่มุก ครองตลาดเครื่องประดับในจีนมายาวนาน แต่ปัจจุบันพลอยสีเริ่มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากเจ้าของฉายาบิ๊กทรี อย่าง ทับทิม แซปไฟร์ และมรกตแล้ว พลอยสีประเภทอื่นอย่าง สปิเนล พาราอิบา และทัวร์มาลีน ก็อยู่ในคามสนใจของผู้บริโภคชาวจีนเช่นกัน พลอยสี อย่างทับทิม แซปไฟร์ และมรกต เพิ่งมาเริ่มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนราวปี 2013 และเริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาความสนใจพลอยสีเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ผ่านคนดังในประเทศพลอยสีที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นได้แก่พลอยสีในกลุ่มทับทิม 1 กะรัต แซปไฟร์ 2 กะรัต รวมถึงมรกต 3 และ 4 กะรัต ขณะที่สปิเนลจากแอฟริกา โดยเฉพาะสปิเนลสีแดงและสีชมพูขนาด 2 กะรัตขึ้นไป และสปิเนลจากเมียนมา ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 กะรัต ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน ส่วนทัวร์มาลีน อะความารีน และมอร์แกไนต์ ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดระดับกลาง ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกทองคำ โลหะเงิน และเครื่องประดับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29.8 ในปี 2021 คิดเป็นมูลค่า 304.1 พันล้านหยวน หรือ ราว 47.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลจาก National Bureau of Statistics of China ขณะที่ข้อมูลจาก Gems and Jewelry Trade Association of China ยอดขายปลีกเครื่องประดับโดยรวมในปี 2020 แตะระดับที่ 88,440 ล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องประดับทองล้วนทำยอดขายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.7 สินค้ายอดนิยมตามปกติในตลาดจีน อันได้แก่ หยกเจไดต์ หยกเนไฟรต์ และไข่มุก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.2 เครื่องประดับเพชรนั้นทำยอดขายเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.1 ของมูลค่ายอดขายปลีกเครื่องประดับทั้งหมด ขณะที่พลอยสีอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.9 ส่วน

Read More

12/07/2565

THE BOSS... "Always in our hearts"


รูปปั้นทองสัมฤทธิ์บนฐานหินอ่อนสีน้ำเงินปูด้วยหินทรายพีคมัวร์ จากเหมืองหินในเขตแสตนตัน มัวร์ และตกแต่งรายละเอียดด้วยวัสดุที่ทำจากทองเหลือง คืออนุสาวรีย์บุรุษผู้สร้างปาฎิหาริย์และนำความเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่มาสู่เมืองและเลสเตอร์ ซิตี้ บุรุษผู้ได้รับฉายา THE BOSS.. คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 64 ปี ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 โดยคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คนปัจจุบัน บริเวณรอบๆอนุสาวรีย์ตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้สีเขียวสี่ต้นที่ทำมาจากหินโบราณของเมืองวอห์นคลิฟฟ์ และเก้าอี้ที่ทำจากไม้ซุงของต้นโอ๊คในท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ จัดวางเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งเลขแปดเป็นเลขประจำตัวคุณวิชัยและตรงกับหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่คุณวิชัยยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ส่วนฐานของอนุสาวรีย์จารึกถ้อยคำด้วยโลหะทองเหลือง แทนคำพูดและความรู้สึกจากใจของครอบครัวเลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยคำว่า "Always in our hearts" ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของคุณวิชัย ภายใต้การบริหารงานของ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และได้กลายเป็นหัวใจหลักและจิตวิญญาณของสโมสร ที่จะนำพาให้สโมสรพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างปี พ.ศ. 2553 - 2561 ตลอดระยะเวลา 8 ปี ในฐานะประธานสโมสร คุณวิชัยได้สร้างตำนานให้กับวงการฟุตบอล โดยนำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ จากลีกระดับ 2 ขึ้นสู่ลีกสูงสุด และนำนักเตะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาล 2015/16 หรือปี พ.ศ. 2559 นอกจากเรื่องการบริหารทีมฟุตบอลแล้ว คุณวิชัยยังได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวให้กับองค์กรการกุศลต่างๆในเมืองเลสเตอร์ ภายใต้มูลนิธิคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อนุสาวรีย์แห่งนี้จึงถือเป็นสถานที่ให้ชาวเมืองเลสเตอร์และผู้มาเยือนจากทั่วโลกได้รำลึกถึงผู้สร้างแรงบันดาลใจและผู้สร้างช่วงเวลาแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของทีมเลสเตอร์ ซิตี้

Read More

08/07/2565

โลหะเงินในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ


สถาบันโลหะเงินคาดการณ์ว่า ในปี 2022 ความต้องการโลหะเงินในอุตสาหกรรมเครื่องประดับจะเติบโตถึง 11% โดยได้รับแรงผลักดันจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลายประเทศ ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสแฟชั่นมาสู่การออกแบบเครื่องประดับที่เรียบง่าย ประณีต สไตล์มินิมอล ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ทำให้เครื่องประดับที่มีราคาในระดับกลางๆ อย่างเครื่องประดับเงินได้รับความนิยมมากขึ้น ผลจากความต้องการโลหะเงินที่เพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหญ่อย่างไทยได้รับประโยชน์จากการเติบโตนี้ด้วย โดยเห็นได้จาก ในปี 2021 โลหะเงินที่เป็นวัตถุดิบมีการส่งออกของไทยขยายตัวได้ 24.14% โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทำการหลอมใหม่มีมูลค่าสูงถึง 57.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่เคยส่งไปเพียงหลักแสนดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นขณะที่เครื่องประดับเงินที่เป็นสินค้าสำเร็จรูป ในปี 2021 ไทยสามารถส่งออกได้ราว 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 ที่มีมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เพราะตลาดส่งออกสำคัญหลายตลาดอย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ฮ่องกง และอินเดีย ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันถึง 54.67% สามารถเติบโตได้ดีนั่นเองนอกจากความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ต่างๆรอบด้านที่ส่งผลให้โลหะมีค่าโดยเฉพาะโลหะเงินกลายเป็นที่สนใจมากขึ้นทั้งในด้านการถือครองเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย การใช้เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือใช้ในการทำโซลาเซลล์แล้ว การสวมใส่เครื่องประดับเงินยังเข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตได้ง่าย ใช้ได้ในหลายโอกาส ทั้งยังปรับให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย ปี 2022 จึงนับเป็นปีทองของโลหะเงินและเครื่องประดับเงินอย่างแท้จริง

Read More

07/07/2565

โลหะเงินกับการลงทุน


โลหะเงิน เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนให้ความสนใจไม่แพ้ทองคำ ในช่วงที่ผ่านมาโลหะเงินได้รับความนิยมในการลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาโลหะเงินมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง และด้วยราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่าทองคำ ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 โลหะเงินสามารถทำราคาสูงสุดที่ 29.585 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี และเมื่อพิจารณาถึงอัตราผลตอบแทนการลงทุนแล้ว ในปี 2022 นักลงทุนยกให้โลหะเงินมีความน่าสนใจมากกว่าทองคำ ข้อมูลจากสถาบันโลหะเงิน(The Silver Institute) ระบุว่ามีการใช้ไปเพื่อการลงทุน24.47% ของการโลหะเงินทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีการใช้โลหะเงินในอุตสาหกรรมต่างๆนอกเหนือจากการลงทุน คือ การใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต (40.56%) ใช้ทำเครื่องประดับ (17.85%) และใช้ทำโซล่าเซลล์ (10.17%) ในปี 2021 มีการผลิตโลหะเงินจากเหมืองราว 24,000 ตัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยประเทศผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่ 5 อันดับแรก คือ เม็กซิโก จีน เปรู ชิลี และรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนราว 23.33%, 14.17%, 12.50%, 6.67% และ 5.42% ตามลำดับ ส่วนการรีไซเคิลโลหะเงินเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เติบโตสูงจากแนวทางการลดขยะ นำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ และมาตรการลดการก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอน ทำให้ในปี 2021 การรีไซเคิลโลหะเงินเติบโตสูงสุดในรอบ 9 ปี คิดเป็นปริมาณ 6,103 ตัน เพิ่มขึ้น 7.73% และยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากหลายอุตสาหกรรมที่มีอุปสงค์เข้ามาเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19ทั้งนี้ สถาบันโลหะเงินคาดการณ์ว่า ในปี 2022 ปริมาณความต้องการในโลหะเงินทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นปริมาณราว 1,110 ล้านออนซ์ ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยเป็นแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าจากการที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังซื้อฟื้นตัว มีการบริโภคเพิ่มขึ้น การเติบโตของเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ กระแสการใช้พลังงานสีเขียว ทำให้โลหะเงินซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตโซลาร์เซลล์เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น รวมทั้งสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้โลหะเงินเป็นที่หมายตาของนักลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย ข้อมูล : GIT

Read More

06/07/2565

เครื่องประดับเงิน-ทอง... ใหญ่พอกันในอินเดีย


อินเดียไม่เพียงเป็นตลาดผู้บริโภคเครื่องประดับทองรายใหญ่ของโลกเท่านั้น ในตลาดเครื่องประดับเงินอินเดียก็เป็นผู้บริโภครายใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยราคาเฉลี่ยในการซื้อเครื่องประดับเงินเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวันของชาวอินเดียนั้น อยู่ที่ 38,000 รูปีต่อปี หรือราว 500 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดเครื่องประดับเงินในอินเดียเติบโตเพิ่มมากขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยมิลเลนเนียลและคนเจน Z ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีจำนวนกว่า 440 ล้านคน และ 472 ล้านคนตามลำดับ คิดเป็น 34% และ 36% ของประชากรทั้งหมด โดยแบรนด์เครื่องประดับเงินที่มีชื่อเสียงในอินเดียอย่าง Divas Mantra ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคในเมืองสำคัญทั่วอินเดียอย่างเช่น เบงกาลูรู (Bengaluru) เจนไน (Chennai) ไฮเดอราบัด (Hyderabad) กัลกัตตา (Kolkata) มุมไบ (Mumbai) และนิวเดลี (New Delhi) ถึงความนิยมเครื่องประดับเงินที่เพิ่มมากขึ้น พบว่า คนกลุ่มนี้นิยมเครื่องประดับเงินมากกว่าเครื่องประดับทอง เหตุผลที่ทำให้คนสองกลุ่มนี้นิยมเครื่องประดับเงินมากกว่าเครื่องประดับทองเพราะ มีดีไซน์ที่ดูทันสมัย มีลวดลายละเอียดประณีต มีรูปแบบหลากหลาย สามารถประยุกต์เข้ากับการแต่งกายในชีวิตประจำวันและงานพิธีต่างๆ ได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังมีราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้มากกว่าเครื่องประดับทอง ซึ่งนอกจากเครื่องประดับเงินแท้ 925 ที่ให้ความรู้สึกทันสมัย อินเทรนด์ มีสไตล์มินิมอลตามแฟชั่นแล้วหนุ่มสาวชาวอินเดียยังนิยม เครื่องประดับเงินรมดำที่ให้ความรู้สึกในแบบวินเทจ มีความคลาสสิกอีกด้วยทั้งนี้การสวมใส่เครื่องประดับเงินขนาดใหญ่ในแถบชนบท ซึ่งเดิมเป็นเป็นการแสดงออกถึงฐานะ ความมั่งคั่ง และเป็นลวดลายที่แสดงถึงชุมชนหรือเผ่าพันธุ์ของผู้สวมใส่นั้น ปัจจุบันสไตล์แบบโบราณนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมและยังเพิ่มขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษาโดยเฉพาะสายศิลปะที่นิยมเครื่องประดับที่สะท้อนดีไซน์รูปแบบในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังมีเซเลบคนดังและดาราใน Bollywood ที่มีส่วนช่วยสร้างความนิยมในเครื่องประดับเงินประเภทนี้ด้วย

Read More

05/07/2565

NFT การลงทุนที่กำลังมาแรงแซงทองคำ


NFT หรือ Non-Fungible Tokens เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ไม่สามารถทดแทนหรือแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นได้ และสร้างขึ้นบนระบบบล็อกเชน ซึ่งต่างจากสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี ที่สามารถทดแทนแลกเปลี่ยนกับเงินดิจิทัลสกุลอื่นหรือสิ่งอื่นๆได้ ซึ่ง NFT แต่ละชิ้นจะมีเพียงชิ้นเดียว โดยสิทธิ์ของการถือครองผลงานแต่ละชิ้น เป็นของเจ้าของผลงานแต่เพียงผู้เดียว หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อตกลงการซื้อขายด้วยจากความผันผวนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น นอกเหนือจากสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทโลหะมีค่าอย่างทองคำหรือโลหะเงิน ที่เป็นที่นิยมมาแต่เดิม หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซีสกุลหลักอย่างบิตคอยน์ (BTC) อีเทอเรียม (ETH) หรือไบแนนซ์ (BNB) ที่เป็นที่สนใจของนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ที่มาแรงสุดๆในช่วงสองปีนี้คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เรียกว่า NFT นั่นเองจุดเริ่มต้นของ NFT เริ่มขึ้นในปี 2014 จากงานศิลปะชื่อว่า "Quantum" ของ Kevin McCoy ที่วางขายผลงานในแพลตฟอร์มซื้อขายศิลปะของ Sotheby's สามารถทำเงินได้ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นงาน NFT ไม่เพียงได้รับความนิยมในงานศิลปะ ยังขยายไปสู่การสร้างผลงานดิจิทัลทั้งภาพถ่าย เพลง คลิปวีดิโอสั้นๆ เกมส์ ของสะสม หรือมีม (Meme) ต่างๆ กระทั่งปัจจุบันบริษัทชั้นนำและแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงต่างก็เริ่มเข้าสู่ NFT อย่างจริงจังข้อมูลจาก DappRadar แพลตฟอร์มยอดนิยมที่วิเคราะห์และนำเสนอข่าวสารในวงการคริปโทเคอเรนซี, NFT เกม หรือการทำธุรกรรมผ่านบล็อกเชน ระบุว่า ในปี 2021 ตลาด NFT มีมูลค่ากว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 ปัจจุบันมีบัญชีกระเป๋าเงินซื้อขาย NFT ที่มีการใช้งานราว 28.6 ล้านบัญชีเลยทีเดียวการขายงาน NFT เป็นการจัดแสดงงานและขายผ่านแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเดินทางหรือพบปะกัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ ทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว งาน NFT นั้นมีวิธีการขายโดยการตั้งราคาหรือผ่านการประมูลเหมือนกับงานศิลปะทั่วไป แต่แตกต่างกัน ในแง่ของกรรมสิทธิ์เพราะงานทุกชิ้นจะถูกบันทึกบนระบบบล็อกเชนถึงสิทธิผู้ครอบครองทุกคน ไม่ว่างานนั้นจะถูกขายมากี่ครั้งแล้วก็ตาม อีกทั้งเมื่องานถูกนำมาขายต่อเป็นทอดๆ เจ้าของเดิมคนแรกยังได้รับส่วนแบ่ง หรือRoyalty Fee ราว 5-10% ของการขายแต่ละครั้งด้วย ทั้งนี้ งาน NFT ส่วนใหญ่ในตลาดมีราคาเฉลี่ยราว 150-4,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังมีงานอีกหลายชิ้นที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดย 5 อันดับผลงาน NFT ที่มีราคาสูงสุด ได้แก่ 1. The Merge ราคา 91.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2. Everydays:The First 5000 Days ราคา 69.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3. Clock 52.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 4. Human One ราคา 28.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 5. CryptoPunk #5822 ราคา 23.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูล: GIT

Read More

04/07/2565

เทคโนโลยี AR กับธุรกิจเครื่องประดับ


เทคโนโลยีซอฟต์แวร์จำลองโลกเสมือนจริง หรือ AR (Augmented Reality)ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยแนวคิดการออกแบบที่สามารถให้บริการลูกค้าโดยไม่มีการสัมผัส ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถออกแบบเครื่องประดับได้เอง โดยเลือกอัญมณี ตัวเรือนโลหะ รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆที่ต้องการ และเปลี่ยนงานออกแบบให้เป็นภาพสามมิติได้ด้วยการทำภาพจำลองเสมือนจริงในรูปแบบของภาพสามมิติแล้วส่งต่อไปยังเครื่องพิมพ์สามมิติตามร้านค้าเครื่องประดับ เพื่อสร้างแบบจำลองชิ้นงานจากขี้ผึ้งหรือส่งไปยังโรงงานของบริษัทเพื่อผลิตออกมาเป็นเครื่องประดับที่เสร็จสมบูรณ์ได้ทันทีคาดกาณ์ว่าจะมีผู้ใช้เทคโนโลยี AR ผ่านมือถือถึง 2,400 ล้านคนภายในปี 2023 จึงเป็นไปได้ว่าเครื่องประดับที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้ด้วยตัวเองจะถูกนำมาใช้เพื่อให้บริการมากขึ้น เช่นเดียวกับช่องทางดิจิทัลสำหรับติดต่อกับลูกค้า เพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างแพลตฟอร์มการขายทางออนไลน์กับร้านค้าแบบดั้งเดิม อีกทั้งการชำระเงินแบบออนไลน์ก็จะมีส่วนแบ่งในตลาดสูงขึ้นและน่าจะคงความสำคัญต่อไปในวิถีชีวิตแบบใหม่ เมื่อผู้คนไว้วางใจและเชื่อมั่นในระบบ e-wallet รวมถึงการซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นทั้งนี้ McKinsey & Co. ประเมินว่าอุตสาหกรรมเครื่องประดับแท้ทั่วโลกจะเติบโตที่อัตราร้อยละ 3 - 4 ต่อปีนับจากปี 2021 จนถึงปี 2025 หรือคิดเป็นมูลค่าค้าปลีกราว 340,000-360,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยความต้องการที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยมูลค่าการค้าเครื่องประดับออนไลน์จะมีสัดส่วนร้อยละ 21 ของมูลค่าการค้าเครื่องประดับทั่วโลก ขณะที่งานวิจัยของ Research and Markets ระบุว่า ตลาดการค้าเครื่องประดับออนไลน์ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 21,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2020 และคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 58,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2027 หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 15.5 ต่อปีเลยทีเดียว

Read More

04/07/2565

ธุรกิจทองคำและเครื่องประดับทองในยุค Next Normal


การระบาดของโควิด-19 ช่วยเปิดมุมมองให้ภาคธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยหันมาพิจารณากระบวนการดำเนินงานของตนเองใหม่ โดยได้มีการพัฒนาและปรับตัวเข้าสู่ช่องทางดิจิทัลอย่างชัดเจนมากขึ้นทั้งในด้านอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์ Next Normal การซื้อขายเครื่องประดับทางออนไลน์กำลังเติบโตผ่านกลยุทธ์การทำตลาดที่เน้นให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าจากหลากหลายช่องทาง (Omni Channel) ผู้ประกอบการไทยไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายย่อยต่างผันมาทำการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ อีกทั้งกระแสความนิยมของไลฟ์สตรีม (Livestreaming) ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างยอดขายเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นราคาพิเศษเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนรุ่นมิลเลนเนียล และ Gen Z ธุรกิจค้าทองคำและเครื่องประดับทองได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับช่องทางบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และคำนึงถึงความปลอดภัยในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านการซื้อขายทองคำทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ มีการนำนวัตกรรม Gold Blockchain เชื่อมต่อแอปพลิเคชันของธนาคาร เพื่อเพิ่มศักยภาพและช่องทางสำหรับผู้ที่สนใจซื้อขายทองคำ เช่น Krungthai Gold Wallet ที่เปิดให้มีการซื้อขาย 99.99% อิงตามราคาทองคำในตลาดโลกด้วยสกุลเงินเหรียญสหรัฐต่อออนซ์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนกว่าหมื่นรายในช่วง 1 เดือนหลังเปิดให้บริการ เป็นต้น ทั้งนี้ การก้าวผ่านจาก New Normal มาสู่ Next Normal นั้นเป็นการนำเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ๆ และความตระหนักถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าสู่การใช้ชีวิตของทุกคนมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการควรปรับตัวเพิ่มทักษะทางดิจิทัล ทำความเข้าใจถึง Digital Transformation เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ทันพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค สื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Next Normal คือวิถีชีวิตใหม่ของสังคมที่จะเกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 คลี่คลายลง โดยคาดการณ์ว่าจะเกิดการนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงในแทบทุกธุรกิจ

Read More

02/07/2565

ตลาดอัญมณีปี 2022…ได้เวลาโต


การค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกหยุดชะงักลงชั่วคราวในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ปัจจุบันตลาดอัญมณีเริ่มฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจของโลกที่ปรับตัวดีขึ้น จากการคาดการณ์ของFuture Market Insights (FMI) ระบุว่ามูลค่าตลาดอัญมณีของโลกในปี 2022 อยู่ที่ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีมูลค่าสูงถึง 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2032 หรือมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 5.6% ต่อปีเลยทีเดียวเพชร เป็นสินค้าที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูงสุดในปี 2021 เพชรทำรายได้ในสัดส่วนถึง 80% ของรายได้ในตลาดอัญมณีโดยรวม โดยมีอัญมณีอื่นๆ ได้รับความนิยมตามมาได้แก่ โอปอล บุษราคัม อเล็กซานไดรต์ และแทนซาไนต์ เป็นต้น ส่วนเครื่องประดับตกแต่งพลอยสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่ตกแต่งด้วยทับทิม ไพลิน และมรกต รวมถึงสร้อยคอ จี้ และกำไลที่ตกแต่งด้วยพลอยสี ก็เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกันพลอยสีเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจซื้อพลอยสีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาไม่สูงมากนักและมีความเป็นเอกลักษณ์ ส่วนตลาดยุโรปที่น่าจับตา คือ ฝรั่งเศส มีแนวโน้มเติบโตดีจากกลุ่มผู้หญิงทำงาน ซึ่งมีกำลังใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงอินเดีย ก็เป็นอีกตลาดสำคัญโดยได้รับแรงผลักดันจากความเชื่อเกี่ยวกับการใช้พลอยสีแต่ละชนิดมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งพลอยสีถือเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์และความหรูหราที่ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้ การเติบโตของตลาดพลอยสีและเครื่องประดับตกแต่งพลอยสีจึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยที่จะเพิ่มยอดขายในปีนี้ได้เพิ่มมากขึ้น เพราะไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญของโลก โดยในปี 2021 ไทยเป็นผู้ส่งออกพลอยสีในอันดับที่ 4 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกเครื่องประดับแท้ในอันดับที่ 9 ของโลก ตลาดคู่ค้าของไทยคือสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย รวมถึงตลาดใหม่ที่น่าสนใจอย่างฝรั่งเศส อย่างไรก็ดีการขยายตัวของตลาดอัญมณีของโลกส่วนหนึ่งมาจากความนิยมอัญมณีที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประกอบกับรายได้ของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น และการนำเครื่องประดับตกแต่งอัญมณีไปใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ เพิ่มขึ้นนั่นเอง สำหรับสินค้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย 5 อันดับแรกได้แก่ ทองคำ เพชรเจียระไน เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง และพลอยเนื้อแข็งเจียระไน

Read More

10/04/2565

แหวนหมั้นแบบไหนโดนใจในพ.ศ.นี้


การเลือกซื้อแหวนหมั้นหรือแหวนแทนใจเพื่อมอบให้คนรักหรือคู่ครองนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบส่วนบุคคลแล้ว อาจจะขึ้นอยู่กับเทรนด์และแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยด้วย และนี่คือเรื่องราวของทิศทางตลาดและรูปแบบของแหวนหมั้นในปี 2022แม้ทั่วโลกจะเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 แต่ตลาดแหวนหมั้นก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีการประมาณการตลาดแหวานหมั้นระหว่างปี 2021-2026 ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 1.2% ต่อปี โดยปี 2026 จะมีมูลค่าถึง 42,777 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แหวนหมั้นที่มีแนวโน้มเป็นที่นิยมในปี 2022 ได้แก่ แหวน Toi et Moi (You&Me) แหวนทรงรูปไข่ และแหวนสไตล์วินเทจ ส่วนรูปแบบเพชรที่นิยมนำมาทำหัวแหวนนั้น ทรงกลมได้รับความนิยมสูงสุดที่ 44% รองลงมาคือรูปไข่19% ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส11% ทรงหมอน 7% และทรงหยดน้ำ 7%ส่วนแหวนหมั้นพลอยสีที่นิยมที่สุดคือ ไพลิน ทับทิม มรกต อความารีน และมอร์แกไนต์ เนื่องจากเป็นที่ชื่นชอบขอคนรุ่นใหม่ มีสสันหลากหลาย และราคาสมเหตุสมผล สำหรับโลหะมีค่าที่นิยมนำมาทำตัวเรือนนั้น 45% เลือกทองคำขาว ตามมาด้วยทองสีเหลือง 20% แพลตตินั่ม14% ทองชมพู11% และโลหะเงิน10%การเติบโตของตลาดแหวนหมั้นนั้นมีปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน อินเดียและสหรัฐอเมริกา ทำให้การจัดงานหมั้น งานแต่งมีแนวโน้มสูงขึ้น

Read More

09/04/2565

โอกาสอัญมณีและเครื่องประดับไทยในซาอุดีอาระเบีย


ซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง เนื่องจากมีประชากรมากถึง 35 ล้านคน และประชากรมีกำลังซื้อสูง จึงมีศักยภาพในการบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจำนวนมาก แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะมีวัตถุดิบอัญมณีและทองคำ รวมถึงผลิตเครื่องประดับได้เองในประเทศ หากแต่ปริมาณที่ผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ประกอบกับคนรุ่นใหม่หันมานิยมเครื่องประดับรูปแบบทันสมัยแนวตะวันตกมากขึ้น จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบียก็นำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับมากกว่าส่งออกกว่าเท่าตัว แต่นำเข้าจากไทยในสัดส่วนไม่ถึง 1% ดังนั้น การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีของไทยในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปยังซาอุดีอาระเบียได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับไปจำหน่ายในตลาดซาอุดิอาระเบียนั้น ก็มีข้อควรระวังที่ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญ คือ รูปแบบสินค้านั้นต้องไม่ขัดกับหลักศาสนาอิสลาม เช่น ต้องไม่มีสัญลักษณ์ที่เป็นรูปคน รูปสัตว์ ไม้กางเขนหรือรูปบูชาของศาสนาอื่นๆ ต้องมีใบรับรองมาตรฐาน CoC (Certificate of Conformity) ของสำนักงานมาตรฐานสินค้า SASO (Saudi Arabian Standard Organization) เป็นต้น ทั้งนี้ เครื่องประดับทองที่ส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียจะต้องมีค่าความบริสุทธิ์ของเนื้อทองตั้งแต่ 18 กะรัตขึ้นไป ส่วนเครื่องประดับเงินจะต้องมีปริมาณเนื้อเงินอย่างน้อย 92.5% และจะต้องตีตราประทับค่าบริสุทธิ์ให้ถูกต้อง อนึ่ง ประเทศซาอุดีอาระเบียมีประวัติการทำเหมืองทองมาเป็นเวลาหลายพันปี และมีแหล่งผลิตทองคำในประเทศหลายแห่ง ซึ่งในปี 2021 ซาอุดีอาระเบียผลิตทองคำได้ประมาณ 400,000 ออนซ์จากเหมือง 5 แห่งที่พัฒนาขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คาดว่ามีปริมาณทองคำใต้ดินอยู่ราว 323.7 ตัน และผลการศึกษาปริมาณสำรองแร่ฟอสเฟต ทองคำ ทองแดง ซิงค์ นิกเกิล และแร่หายากอื่นๆ ในประเทศ พบว่ามีมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนอกจากนี้ ยังสามารถพบอัญมณีในพื้นที่ Harrat Al-Hurra ทางตอนใต้ของเมือง Sakaka ซึ่งอัญมณีที่พบ ได้แก่ มูนสโตน แซปไฟร์ เบริล แอมะซอไนต์ ควอตซ์ เพอริโด และการ์เน็ต อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตทองคำและอัญมณีไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ

Read More

08/04/2565

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของซาอุดิอาระเบีย


หลังรัฐบาลไทยและซาอุดิอารเบียกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ภาวะปกติ หลังห่างเหินกันนานกว่า 32 ปี ตลาดการค้าซาอุดิอารเบียก็กลับมาอยู่ในโฟกัสของผู้ประกอบการไทยอีกครั้งโดยเฉพาะตลาดอัญมณีและเครื่อประดับ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ในตะวันออกกลาง โดยมีผู้ผลิตเครื่องประดับทองหลายร้อยราย มีร้านจำหน่ายเครื่องประดับทองทั่วประเทศอยู่ราว 6,000 แห่ง มีแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับประมาณ 30,000 คน เป็นหนึ่งในตลาดผู้บริโภคเครื่องประดับทองและเพชรรายใหญ่ของโลก เครื่องประดับทองที่จำหน่ายในซาอุดีอาระเบียส่วนใหญ่มีค่าความบริสุทธิ์ 18 และ 22 กะรัต โดยผู้ชายชาวซาอุดีอาระเบียมักจะให้เครื่องประดับทองเป็นสินสอดทองหมั้นแก่คู่หมั้น และยังคงเป็นของขวัญที่ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญวันเกิด การฉลองการตั้งครรภ์ หรือวันครบรอบแต่งงานก็นิยมมอบทองคำให้กันจากข้อมูลของ World Gold Council พบว่า ในปี 2021 ซาอุดีอาระเบียมีความต้องการบริโภคเครื่องประดับทองเป็นอันดับสองในภูมิภาคตะวันออกกลางรองจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีส่วนแบ่งตลาดเครื่องประดับราว 35% ของตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีที่ผ่านมาชาวซาอุดีอาระเบียต้องการบริโภคเครื่องประดับทองราว 33.3 ตัน เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับปี 2020 บริษัทวิจัยตลาดได้ประมาณการว่าในปี 2022 ตลาดเครื่องประดับเพชรและทองของซาอุดีอาระเบียจะมีมูลค่าราว 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลของ Global Trade Atlas พบว่า ในปี 2021 ซาอุดีอาระเบียนำเข้าสินค้าด้วยมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งออก 3.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้เป็นอัญมณีและเครื่องมูลค่าราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลักเป็นทองคำและเครื่องประดับทอง โดยส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ตามลำดับ ส่วนไทยเป็นตลาดอันดับที่ 22 หรือมีมูลค่า 9,267 ดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลักมายังไทยเป็นเครื่องประดับทอง รองลงมาเป็นเครื่องประดับเทียม และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนส่วนการนำเข้านั้น ซาอุดีอาระเบียนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับด้วยมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้านำเข้าหลักเป็นเครื่องประดับทอง ทองคำ และเครื่องประดับเทียม แหล่งนำเข้าหลักคือ สวิตเซอร์แลนด์ สหราช-อาณาจักร สหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย ตามลำดับ ในขณะที่ไทยเป็นแหล่งนำเข้าในอันดับที่ 8 หรือมีมูลค่านำเข้า 20.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้านำเข้าหลักจากไทยส่วนใหญ่ราว 90% เป็นเครื่องประดับทอง

Read More

Loading...
More