สงครามรัสเซีย-ยูเครนและเงินเฟ้อ ผลักความต้องการทองคำโลกพุ่งในไตรมาส1/65
13 / 07 / 2565 14:04
สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) รายงานตัวเลขความต้องการทองคำทั่วโลกหลังผ่านไตรมาส 1/65 ว่ายังคงเพิ่มสูงขึ้นถึง 34% แตะระดับ 1,234 ตัน ซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากวิกฤตสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ผู้บริหารประจำภูมิภาคแห่งสภาทองคำโลก กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ความต้องการและการลงทุนในทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้บริโภคบางส่วนจะหลีกเลี่ยงการซื้อทอง เนื่องจากถูกกดดันจากราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/65 ความต้องการทองคำอาจจะลดลง จากการที่ประเทศจีนขยายพื้นที่การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด โดยเฉพาะฝั่งนักลงทุนสถาบันที่จะเข้าลงทุนในทองคำผ่าน Gold ETF มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ Fed เร่งดำเนินนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน
โดยข้อมูลจากรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ (Gold Demand Trends Report) ฉบับล่าสุดของสภาทองคำโลก ระบุว่า การลงทุนในกองทุนรวมทองคำ (Gold ETF) มีเงินทุนไหลเข้ารายไตรมาสสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ที่ 269 ตัน มากกว่าเงินทุนไหลออกสุทธิรายปีซึ่งอยู่ที่ 173 ตันในปี 2564 โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากราคาทองคำที่สูงขึ้น
ในขณะเดียวกันความต้องการซื้อทองคำแท่งและเหรียญทองคำปรับสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี อยู่ที่ 11% หรือ 282 ตัน แต่การที่จีนประกาศปิดประเทศอีกครั้ง และราคาทองที่สูงในตุรกีล้วนมีส่วนทำให้ความต้องการซื้อทองลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบกับความต้องการซื้อที่สูงมากในไตรมาส 1/64