เมื่อจีนจับมือรัสเซีย ปลดแอกจากดอลลาร์สหรัฐ

10 / 10 / 2561 13:45

ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในการซื้อ-ขายทองคำในตลาดโลก โดยเฉพาะการขยับตัวของประเทศจีนและรัสเซียกับการส่งสัญญาณสะสมทองคำในอัตราเร่งแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ที่ผ่านมา จีน ไม่เพียงเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกอีกด้วย  มีรายงานระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2017 ที่ผ่านมาออสเตรเลีย ได้ส่งออกทองคำไปที่จีนมากที่สุดที่ 77% หรือคิดเป็น 54.1 ตัน มากขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2016 ที่ส่งออกแค่ 37.2 ตัน และในไตรมาสที่สองของปี 2017 ออสเตรเลียก็ยังส่งออกทองคำไปที่จีนมากขึ้นอีก โดยจีนเริ่มนำเข้าทองคำจากออสเตรเลียในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาตั้งแต่ปี 2011 ปัจจุบัน จีนมีทองคำสำรองอยู่อันดับ 6 ที่ 1,842.60 ตัน

ขณะที่รัสเซียเองก็เป็นประเทศที่มีอัตราเร่งการสะสมทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสามสี่ปีหลังนี้ ธนาคารกลางของรัสเซียได้เพิ่มอัตราการซื้อทองคำเพื่อสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้น จนขยับขึ้นมาเป็นอันดับ5 ของโลกข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2018 ระบุว่ามีทองคำสะสมอยู่ที่ 1,909.80ตัน และเป็นผู้ผลิตทองคำอันดับสามของโลก รองจาก จีนและ ออสเตรเลีย ที่ 250 ตันต่อปี(รัสเซียเคยมีทองคำสำรองแค่ 343 ตันเท่านั้นในช่วงการล่มสลายของสหภาพโซเวียส)

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้นักวิเคราะห์มองว่าที่ทั้งจีนและรัสเซียเร่งผลิตและซื้อทองคำเพิ่มด้วยอัตราเร่งสูงนี้ก็เพราะทั้งสองประเทศกำลังมีแผนระยะยาวในการนำมาตรฐานการผลิตเงินที่มีทองคำค้ำประกันกลับมาในระบบการค้าและการเงินของโลกอีกครั้งหลังจากสหรัฐได้ยกเลิกมาตรการนี้ไปหลายสิบปี และเพื่อปลดแอกการเงิน การค้า จากการพึ่งพิงดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโร และเงินเยน

มาตรการที่เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมคือการที่ธนาคารกลางของรัสเซียไปเปิดสาขาที่กรุงปักกิ่งเมื่อ 16 มีนาคม 2017เพื่อขยายการทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ผ่านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้แค่เงินหยวนและรูเบิ้ลเท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของรัสเซียไปเปิดสาขาในต่างประเทศ ที่ปรกติจะมีเฉพาะธนาคารของเอกชนเท่านั้น 

ผู้เชี่ยวชาญด้านเหมืองและการเงินระบุว่าทองคำที่สามารถสกัดจากเหมือง อาจหมดไปจากโลกในอีก 2 ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งหากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ราคาทองคำอาจทะยานขึ้นเป็นออนซ์ละ 3,000 ดอลลาร์ หรือสูงกว่านี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น จีนกับรัสเซียจะอำนาจต่อรองทางการเงินการค้าของโลกทันที เพราะทองคำสำรองของสหรัฐที่อ้างว่ามีมากที่สุดในโลกที่ 8,134.00 ตันนั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่


เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่  https://www.aagold-th.com/gold-rate/