ทำเลทอง 2019

02 / 01 / 2562 23:22

ถ้าพูดถึงศูนย์กลางเศรษฐกิจ การคมนาคม แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนเมือง รายล้อมด้วยร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และสถานบันเทิงของกรุงเทพมหานคร ก็ต้องนึกถึง ถนนสุขุมวิท ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ของผู้อยู่อาศัย ความหลากหลายของการพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 55 หรือที่เรียกกันติดปากว่า ทองหล่อ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพชั้นในโดยเฉพาะที่พักอาศัยประเภทคอนโด

ผลสำรวจของบริษัทวิจัยหลายแห่งยืนยันตรงกันว่า ทองหล่อเป็นย่านที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายจำนวนมากและได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าสูงมาก แม้ราคาต่อตารางวาจะสูงเกือบล้านบาทก็ตาม คอนโดในย่านทองหล่อส่วนใหญ่เป็นตึกสูงและอยู่ติดถนนเส้นหลัก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่นิยมอาศัยรวมกันเป็นครอบครัว ซึ่งแถบทองหล่อนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทั้งออฟฟิศ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงเรียนทั้งหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ รวมทั้งใกล้แหล่งธุรกิจการค้าต่างๆ จึงทำให้ทองหล่อเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าชั้นดี และมีปริมาณความต้องการสูง  จากข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคอนโดมือสองในย่านทองหล่อ ราคาสูงขึ้นกว่าตอนเปิดตัว 28-88% เลยทีเดียว

แต่หลังการประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่คาดว่าจะบังคับใช้ในปลายปี 2562 จะทำให้หลายพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการเป็นทำเลทองขึ้นมาทันที โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดตัดของสถานีรถไฟฟ้า ย่านเกษตร-นวมินทร์ ลาดพร้าว และตลิ่งชัน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนสีผังให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น  ทำให้เกิดการพัฒนาด้านอสังหาฯ ในหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาที่ดินก็จะปรับขึ้น เช่นกัน

คาดการว่าราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15% ต่อปีส่งผลให้ราคาบ้านปรับขึ้นตามเฉลี่ยไม่เกิน 10%  นอกจากนี้ผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่จะทำให้มีสถานีที่เป็นจุดตัดรถไฟฟ้าประมาณ 50 สถานี มีพื้นที่รองรับการพัฒนาได้มากขึ้น มีการใช้ประโยชน์ของที่ดินตามถนนสายรองหรือตามซอยต่างๆมากขึ้นเพราะราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ดินบนถนนสายหลักที่ปัจจุบันราคาสูงมาก เช่น สายสุขุมวิทที่ราคาเกิน 2 ล้านบาทต่อตารางวา  ส่วนถนนสายรองหรือตามซอยราคาแค่ 2-5 แสนบาทต่อตารางวาเท่านั้น  เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถแข่งขันได้มากขึ้น ทำให้ตลาดไม่เกิดการผูกขาดแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่ และอาจจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกสำหรับราคาที่พักอาศัยที่ถูกลง สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และคาดว่าราคาบ้านและราคาที่ดินภายใน 1-4ปีนี้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละมากกว่า 10% อย่างแน่นอน

ผังเมืองรวมใหม่ของกทม.นี้เป็นการโอกาสให้นักลงทุน หรือผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มองหาทำเลใหม่ๆตามเมืองชั้นกลางและชั้นนอก แทนการกระจุกตัวอยู่ในเมืองชั้นในที่แม้จะสะดวกสบายแต่ก็มีราคาสูงมากเช่นกัน


เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/