อาหาร ที่แพงกว่าทองคำ (1)

11 / 06 / 2562 09:21

อาหาร ที่แพงกว่าทองคำ (1)

มีอาหาร และเครื่องปรุงหลายชนิดที่หายากและมีราคาแพง  บางชนิดแพงกว่าทองคำ  บางชนิดก็แพงที่สุดในโลก และนี่คืออาหาร 8 ชนิดที่จัดอยู่ในประเภทอาหารที่แพงกว่าทองคำ

1.หญ้าฝรั่น
หญ้าฝรั่นเป็นเครื่องเทศที่มีชื่อเล่นว่า "ทองคำสีแดง" ซึ่งมาจากเกสรเพศเมียของดอกหญ้าฝรั่น    สาเหตุที่ทำให้หญ้าฝรั่นมีราคาแพง เพราะในหนึ่งปีมันจะออกดอกเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และต้องเก็บด้วยมือ ดอกหญ้าฝรั่นแต่ละดอกมีเกสรเพศเมียเพียง 3 เส้นเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าจะต้องใช้พื้นที่ปลูกหญ้าฝรั่นขนาด 3 สนามฟุตบอลหรือใช้ดอกหญ้าฝรั่นมากถึง 300,000 ดอก จึงจะได้หญ้าฝรั่น 1 กก. ด้วยเหตุนี้ทำให้เครื่องเทศชนิดนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,100 ถึง 11,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 36,300-363,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้า

2.คาเวียร์ 
คาเวียร์ คือไข่ปลาที่ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการหมักเกลือ ถือเป็นหนึ่งในอาหารหรูราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ทำจากไข่ปลาเบลูกาสเตอร์เจียน หรือปลาสเตอร์เจียนขาว ซึ่งพบในแถบทะเลสาบแคสเปียนและทะเลดำ ปัจจุบันถือเป็นสัตว์ที่ตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ทำให้การหาซื้อไข่ของปลาชนิดนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นเป็นเรื่องยากมาก นอกจากนี้ จะต้องใช้เวลาถึง 20 ปี กว่าที่ปลาเบลูกาสเตอร์เจียนจะถึงวัยเจริญพันธุ์พร้อมออกไข่ที่ใช้ทำคาเวียร์ได้ และการจะเอาไข่มาได้นั้นจะต้องฆ่าปลาก่อน
คาเวียร์อีกชนิดที่หายากยิ่งกว่าก็คือคาเวียร์จากไข่ของปลาสเตอร์เจียนเผือก ซึ่งปัจจุบันแทบจะสูญพันธุ์ไปจากถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติแล้ว กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ บันทึกว่า คาเวียร์จากไข่ของปลาเบลูกาสเตอร์เจียนเผือกอายุ 100 ปี มีราคาแพงที่สุดในโลก ที่กิโลกรัมละ 34,500 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 1.38 ล้านบาท

3.หอยนางรม 
ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หอยนางรมมีราคาถูกพอ ๆกับมันฝรั่งทอด แต่การทำประมงเกินขนาดและปัญหามลพิษส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจำนวนหอยนางรมตามธรรมชาติ และทำให้อาหารทะเลชนิดนี้มีราคาแพงขึ้นร้านอาหารทะเลหรูในกรุงลอนดอน หอยนางรม 12 ตัวอาจมีราคากว่า 2,000 บาท 

4. เห็ดทรัฟเฟิลขาว
เห็ดทรัฟเฟิลขาว เป็นเห็ดที่เจริญเติบโตอยู่ใต้ดินและหาได้ยาก พบได้เฉพาะในแคว้นปีเยมอนเต ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี ขึ้นอยู่ตามรากต้นไม้บางชนิดเท่านั้น สาเหตุที่ทำให้ทรัฟเฟิลขาวมีราคาแพง เพราะมีรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่สามารถเพาะพันธุ์แบบฟาร์มได้ เมื่อปี 2007 เห็ดทรัฟเฟิลขาวหนึ่งหัวน้ำหนัก 1.5 กก.ได้ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 330,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 10.89 ล้านบาท 

5. แฮมอิเบอริโค
แฮมอิเบอริโค ทำจากเนื้อหมูดำไอบีเรีย ที่มีถิ่นกำเนิดแถบคาบสมุทรไอบีเรีย ที่เลี้ยงโดยปล่อยอิสระในป่าต้นโอ๊ก และกินลูกโอ๊กเป็นอาหารอย่างเดียว สาเหตุที่ทำให้ราคาแพงมาจากกระบวนการผลิตที่ยาวนาน โดยแฮมที่มีราคาสูงจะผ่านการหมักเกลือนาน 36 เดือน หรืออาจนานถึง 48 เดือน ในพื้นที่ที่สภาพอากาศแห้งเป็นพิเศษ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ บันทึกขาแฮมราคาแพงที่สุดขาละ 4,080 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 135,000 บาท

6. เนื้อวากิว
เนื้อวากิว มาจากวัวญี่ปุ่น 4 สายพันธุ์มีเอกลักษณ์ที่เนื้อจะมีไขมันแทรกเหมือนลายหินอ่อน ทำให้เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำแทบจะละลายในปาก สาเหตุที่เนื้อชนิดนี้มีราคาแพงนั้นมาจากการเลี้ยงดูที่พิถีพิถัน และการให้อาหารตามเกณฑ์อย่างเคร่งครัด เนื้อโกเบ มีราคาขายในญี่ปุ่นที่ราวกิโลกรัมละ 640 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 21,000 บาท

7. กาแฟขี้ชะมด 
กาแฟขี้ชะมด  มีราคาประมาณกิโลกรัมละ 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 23,000 บาท มีต้นกำเนิดมาจากเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ที่มีราคาแพงกว่ากาแฟทั่วไปนั้นมาจากขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน คอกาแฟบอกว่า กาแฟชนิดนี้มีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากกระบวนการหมักในกระเพาะของตัวชะมด แต่บางคนไม่เห็นด้วย และชี้ว่านี่เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาด อีกทั้งยังเป็นการทรมานสัตว์ เพราะราคากาแฟชี้ชะมดที่สูงทำให้มีการจับชะมดมาเลี้ยงเป็นฟาร์มเพื่อใช้ในการนี้เพิ่มขึ้น

8. ฟัวกราส์ฟัวกราส์
ฟัวกราส์ฟัวกราส์ ทำมาจากตับห่านหรือตับเป็ดที่ถูกขุนให้ตับมีขนาดโตกว่าปกติถึง 10 เท่า ทำให้ตับมีรสชาติเข้มข้น มันละมุนลิ้น การเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อใช้ทำฟัวกราส์เช่นนี้มีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณราว 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ในปัจจุบันหลายประเทศกำหนดให้การผลิต การนำเข้า และการจำหน่ายฟัวกราส์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการทรมานสัตว์ อย่างไรก็ตามอาหารชนิดนี้ยังคงได้รับความนิยมในหลายประเทศ
(วิธีการเลี้ยงคือการที่เป็ดหรือห่านถูกบังคับให้กินอาหารเกินขนาดโดยใช้ท่อกรอกปากเพื่อให้ตับมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ทำให้เป็ดหรือห่านต้องทนทุกข์ทรมานจากการเลี้ยงด้วยวิธีนี้)