เครื่องประดับทองของไทย ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของฝรั่งเศส

02 / 08 / 2562 12:55

ฝรั่งเศสถือเป็นประเทศผู้ผลิตเครื่องประดับอันดับสามของสหภาพยุโรป รองจากอิตาลีและอังกฤษ โดยมีศูนย์กลางการผลิตและออกแบบอยู่ที่กรุงปารีสและเมืองลิยง ซึ่งกระแสความนิยมเครื่องประดับประเภทต่างๆแตกต่างกันไป ทั้งเครื่องประดับทอง เงิน และอัญมนีต่างๆ  แต่โดยทั่วไป ผู้บริโภคนิยมเครื่องประดับและอัญมณีขนาดเล็กเพื่อเสริมบุคลิกหรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่มากกว่าที่จะสวมเครื่องประดับขนาดใหญ่เพื่อบ่งบอกฐานะทางสังคม

อิตาลียังคงเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดจะค่อยๆ ลงลงในเครื่องประดับทุกกลุ่มประเภท ส่วนประเทศสหภาพยุโรปอื่นๆ ยังรักษาตำแหน่งทางการตลาดที่ดีในฝรั่งเศส เมื่อเทียบกับผู้ผลิตเครื่องประดับต้นทุนต่ำรายอื่น เช่น คู่ค้าจากเอเชีย อย่างไรก็ตัวเลขการนำเข้าเครื่องประดับทองจากอังกฤษสู่ฝรั่งเศสยังคงเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนผู้ผลิตจากเอเชียโดยรวมมีส่วนแบ่งในตลาดฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นนอกจากจีนก็มีผู้ผลิตที่ส่งสินค้าเข้า
สู่ฝรั่งเศสรายใหม่ๆอีกได้แก่ อินเดีย เวียตนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งได้เปรียบในด้านต้นทุนการผลิตที่ต่ำ สำหรับประเทศไทยประสบปัญหาสินค้าราคาสูงมากกว่าทำให้การแข่งขันสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ แต่ผู้ผลิตฝรั่งเศสรายใหญ่ที่มาลงทุนโรงงานผลิตในประเทศไทยเริ่มเพิ่มปริมาณการนำเข้าเครื่องประดับทองจากไทยมากขึ้น 

อย่างไรก็ตามในกลุ่มเครื่องประดับเงินและเครื่องประดับมีค่าชนิดอื่น ผู้ผลิตไทยค่อนข้างประสบความสำเร็จในตลาดฝรั่งเศส  ขณะเดียวกัน costume jewelry ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับไทย จากแนวโน้มความนิยมรูปแบบสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์

แม้ไทยจะประสบปัญหาการส่งออกเครื่องประดับทองคำ แต่ยังมีโอกาสทางการตลาดที่ดีในหมวดเครื่องประดับอื่นๆ โดยเฉพาะเครื่องประดับเงิน นอกจากนี้ตลาดเฉพาะกลุ่มที่กำลังขยายตัวก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ไทยมีโอกาสเจาะเข้าไป เช่น ในกลุ่มเครื่องประดับสำหรับผู้ชาย หรือเครื่องประดับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

แต่ที่ต้องให้ความสำคัญคือเครื่องประดับทุกชิ้นที่จำหน่ายในฝรั่งเศสต้องมีตรารับรองจากทางการ
ที่แสดงชนิดและลักษณะของโลหะมีค่านั้น หลักๆ ได้แก่
* ตราหัวอินทรีย์สำหรับทอง 750/1000 หรือทอง 18K
* ตราหัว (Minerva) สำหรับเงิน 925/1000
* ตราดอกจิกสำหรับทองผสม 375/1000 หรือทอง 9K
* ตรา ‘V’ สำหรับเงินชุบ
เป็นต้น