ราคาทองคำพุ่ง สูงสุดในรอบ 6 ปี

30 / 08 / 2562 11:07

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(6 สิงหาคม 62 ) ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยมีปัจจัยมาจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นักลงทุนจึงหันมาลงทุนกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ

ทั้งนี้ ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นแตะ 1,474.81 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2556 ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.56% สู่ระดับ 1,484.70 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าจีนเพิ่มขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนต่างมีจุดยืนที่แข็งกร้าว และคาดว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้าได้

โกลด์แมน แซคส์ยังระบุว่า การที่จีนสั่งระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ และตัดสินใจปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ ถือเป็นการตอบโต้ต่อคำขู่เรียกเก็บภาษีครั้งล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  มีรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนมีท่าทีแข็งกร้าวในการเจรจา และหวังรอจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นในปีหน้า ก่อนที่จะทำการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า สิ่งนี้จึงทำให้สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าในเร็วๆนี้

ขณะเดียวกันสหรัฐก็มั่นใจถือไพ่เหนือกว่าจีนในการเจรจาการค้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งกว่า โดยมองว่าเศรษฐกิจจีนกำลังล่มสลาย และจีนไม่ได้เป็นประเทศที่ทรงพลังเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน โดยตัวเลขสถิติบ่งชี้ว่าการลงทุน และเศรษฐกิจของจีนกำลังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลข GDP ของจีน ซึ่งอาจมีการแต่งเติมไปหลายจุด ก็กำลังลดลงเรื่อยๆ สหรัฐจึงมั่นใจว่าจีนกำลังได้รับผลกระทบมากกว่าที่สหรัฐได้รับ

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างมาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ย และโอกาสในการลงทุนกำลังเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมากออกจากจีนและส่วนอื่นๆของโลก ซึ่งเงินจำนวนนี้กำลังหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐ จากปัจจัยความปลอดภัย โอกาสในการลงทุน และอัตราดอกเบี้ย และมองว่าอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างมาก 

ปัจจุบัน การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ขู่ว่าสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน นี้ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐดูท่าว่าจะยังไม่จบลงง่ายๆในเร็ววันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวต่อไป และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นหากสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป