ที่สุดของทองคำในปี 2019

30 / 08 / 2562 15:11

ยั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียวสำหรับราคาทองคำในปีนี้  แม้ในไตรมาศแรกราคาทองคำจะซบเซาไปหน่อย  แต่ตั้งแต่ ไตรมาส 2 เป็นต้นมา ราคาทองคำก็ทะยานขึ้นต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ  และจึนเลือกที่จะตอบโต้สหรัฐฯแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เช่นการทบทวนการส่งแร่แรร์เอิร์ธ หลังสหรัฐฯประกาศแบนบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีฯของจีน  ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง กระตุ้นแรงซื้อทองคำให้สูงขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ทำให้ราคาทองคำ ณ วันนี้(25 ส.ค.52) ปรับขึ้นไปแตะที่  1,526 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นสถิติใหม่ๆของทองคำเกิดขึ้นหลายอย่าง ซึ่งบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ประกอบการค้าทองคำรายใหญ่ได้รวบรวมไว้ คือ  ทองคำในตลาดโลก(Gold Spot) แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ในขณะที่ราคา ทองคำในประเทศขึ้นทะลุเกิน 20,000 บาทต่อบาททองคำเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 และปรับตัวขึ้นต่อไปแตะระดับสูงสุด บริเวณ 22,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายปี

นอกจากนี้ค่าเงินบาทแตะระดับแข็งสุดในรอบ 6 ปี ที่บริเวณ 30.59 บาทต่อดอลลาร์ โดยเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมไปถึงกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร สาเหตุนี้เองจึงทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำในตลาดโลก

ราคาทองคำในตลาดโลกปิดตลาดในรายสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 กรกฎาคม ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นกว่า +4% จึงถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นในรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำในปริมาณมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009  และสถานะสัญญาฟิวเจอร์ส COMEX ทองคำก็มีปริมาณมากที่สุดในรอบกว่า2 ปี บ่งชี้ถึงแรงเก็งกำไรในทิศทางบวกที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักเก็งกำไร

ที่น่าสนใจคือธนาคารกลางจีนเพิ่มการถือครองทองคำในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ทำให้ในช่วง 6 เดือนตั้งแต่ ธันวาคม 2018-พฤษภาคม 2019 จีนถือครองทองคำเพิ่มถึงเกือบ 74 ตัน

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยทองคำรายงานความเห็นของผู้ค้าทองคำรายใหญ่ว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 62 นี้ ราคาทองจะยังคงไปในเชิงบวก โดยราคาทองคำจะแกว่งตัวเพื่อรักษาระดับและสร้างฐานราคาทองคำในระดับสูง โดยระยะสั้นหากราคาทองคำอ่อนตัวลง สามารถซื้อเพื่อทำกำไรได้