ทองคำ จะทะลุ 1,600 เหรียญในปี2020

13 / 09 / 2562 14:54

ธนาคารกลางสหรัฐเลือกที่จะลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% เป็นจำนวน 4 ครั้งระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนมิถุนายน 2563 จะทำให้ผลตอบแทนด้านดอกเบี้ย เมื่อมีการลดดอกเบี้ยแต่ละครั้ง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะเคลื่อนไหวและอยู่ในแดนลบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ ทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำมากขึ้น

ในปี 2562 นี้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเพราะความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเมื่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ สร้างความเสียหายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งทำให้ธนาคารกลางซึ่งรวมถึงเฟดต้องดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นการเติบโตมากขึ้น

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีและมีการคาดการณ์กันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งเมื่อมีการประชุมในวันที่ 17-18 กันยายน 62 นี้ สถานการณ์นี้ทำให้นักลงทุนได้เพิ่มการถือครองกองทุนอีทีเอฟทองคำ ซึ่งสงครามการค้าไม่น่าจะคลี่คลายลงโดยเร็วและในบริบทนี้ทองคำได้เริ่มมีบทบาทที่มีมาแต่เดิมอีกครั้งในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและในขณะนี้การถือกองทุนอีทีเอฟได้พุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555

BNP Paribas ธนาคารยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ได้ประมาณการราคาทองคำในปีนี้และปีหน้าโดยคาดว่าทองคำจะมีราคาเฉลี่ย 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ 60 ดอลลาร์ และจะมีราคาเฉลี่ย 1,560 ดอลลาร์ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 130 ดอลลาร์ และวงจรการลดดอกเบี้ยของเฟด จะทำให้ราคาทองคำเฉลี่ยสูงกว่า 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าและคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นมาก

เมื่อต้นเดือนกันยายน ราคาทองคำในตลาดสปอตมีการซื้อขายกันที่ 1,544.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเพิ่มขึ้นในปีนี้ 20% และราคาทองคำได้แตะ 1,555.07 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 การลดดอกเบี้ย 4 ครั้งจะลดช่วงบนของอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดเหลือ 1.25% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าในขณะนี้ซึ่งอยู่ที่ 1.2% ธนาคารกลางสหรัฐได้ยอมรับว่าการบรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวกับภาวะในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของเฟด

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงค่อนข้างแข็งแกร่งแม้ว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม