“เลโก้” ของเล่นเด็ก ให้ผลตอบแทนดีกว่า “ทองคำ” จริงหรือ?ี

17 / 09 / 2562 16:04

สองนักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียคือ Victoria Dobrynskaya และJulia Kishilova แห่ง National Research University Higher School of Economics รายงานผลงานวิจัยที่น่าสนใจเรื่อง LEGO: The Toy of Smart Investors ว่าการสะสม LEGO มีมูลค่ามากกว่าการสะสมทองคำ

งานวิจัยชิ้นนี้ ได้สำรวจมูลค่า ของตัวต่อ LEGO โดยใช้ขอบเขตประชากรและกลุ่มตัวอย่างตัวต่อ LEGO จำนวน 3,200 ชุด และขอบเขตระยะเวลาที่ใช้สำรวจรุ่นของตัวต่อ LEGO คือ ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1987 ถึง ปี ค.ศ. 2015 จากนั้น  ได้นำมูลค่าของตัวต่อLEGO ในฐานะของสะสมมาเทียบกับราคาของหุ้น ตราสารหนี้ หรือราคาทองคำ ในช่วงเวลาเดียวกันผลการวิจัยพบว่ามูลค่า ของตัวต่อ LEGO ในฐานะของสะสมให้ผลตอบแทนประมาณ 8% ต่อปี ซึ่งผลการวิจัยสรุปว่า การสะสมตัวต่อLEGO สามารถให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือทองคำนั่นเอง

มีสถิติที่น่าสนใจออกมาว่าถ้านับตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบันราคา เลโก้ ในแต่ละรุ่นที่ออกมา มีราคาเพิ่มขึ้นถึงปีละ 12% ซึ่งหากใครซื้อเพื่อเก็งกำไร ราคานั้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่า หุ้น ทองคำ หรือฝากธนาคาร

เวปไซต์ BrickPicker.com เผยว่า ชุดเลโก้ที่เป็นที่ต้องการนั้น ส่วนมากจะเป็น ชุดที่ออกตามรอบภาพยนตร์  ชุดสถานที่สำคัญ หรือแบรนด์ต่างๆ เช่น Star Wars ทัชมาฮาลในอินเดีย โฟล์คสวาเกน เป็นต้น และถ้ายิ่งชุดเลโก้นั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมกล่อง ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการซื้อขายกันผ่านอีเบย์

ยกตัวอย่างชุด “Cafe Corner” ที่ขายในปี 2007 ที่ราคา 90 ยูโร ปัจจุบันขายกันถึง 2,000 ยูโร โดยเวปไซด์BrickPicker.com  ได้แนะนำ 7 เคล็ดลับในการลงทุนเลโก้ไว้ว่า หากชอบรุ่นไหนเป็นพิเศษ ให้ซื้อเก็บไว้หนึ่ง และเผื่อเก็งกำไรอีกหนึ่งชุด พยายามเก็บรุ่นที่เป็น Limited edition หรือออกมาขายแค่ช่วงสั้นๆ พยายามเก็บรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นที่ต้องการมากกว่ารุ่นเก่ากว่านั้น เก็บกล่องและของทุกอย่างที่อยู่ในกล่องเพราะจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้ตอนขายต่อ รวมถึงรักษาสภาพกล่องให้สมบูรณ์ เก็บไว้ในที่แห้ง ไม่โดนแดด และอย่าซ้อนกล่อง

ทั้งนี้ขนาดของชุดไม่ใช่ปัจจัยสำคัญของราคา ทั้งชุดเล็ก และชุดใหญ่ สามารถทำกำไรได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคืออย่าทำตัวละคร (Lego Minifigures) ของชุดนั้นๆ หาย สุดท้ายนี้ มูลค่าเลโก้ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะไม่    บูมจนเกิดฟองสบู่ เพราะทางผู้ผลิตเลโก้ไม่มีนโยบายส่งเสริมให้กับกลุ่มในตลาดมือสองราคาจึงไม่มีตกแน่นอน

LEGO ก็คือ “ตัวต่อ” ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1932 โดย Ole Kirk Christiansen ช่างไม้ชาวเดนมาร์กแห่งเมือง Billlund นับถึงปัจจุบัน (2019)ก็มีอายุ 87 ปีแล้ว