ว่านน้ำทอง ทำยาก็ได้ เป็นไม้ประดับก็ดี

17 / 09 / 2562 16:14

ว่านน้ำทอง  เป็นกล้วยไม้สกุลหนึ่งในกลุ่มของกล้วยไม้ดินที่มีลายใบสวยงาม จัดอยู่ในพวก Jewel Orchids หรือกล้วยไม้เพชรพลอย พบได้ทั่วไปตามหลืบหรือซอกหินริมธารน้ำ หรือใกล้กับน้ำตกในป่าดิบทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศไทย เช่นเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี, อำเภอคีรีวง จังหวัดนครศรธรรมราช, เกาะสมุย, จังหวัดตรัง, จังหวัดสตูล, และจังหวัดยะลา มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น ว่านน้ำทอง ว่านร่อนทอง และผักเบี้ยช้าง เป็นต้น

ว่านน้ำทอง มีอวบน้ำต้นสูง 10-15 ซม. ทอดเลื้อยขนานไปกับพื้นดิน เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปไข่หรือรูปรี ก้านใบยาว ปลายใบแหลม โคนใบมน กว้างประมาณ 2-2.5 ซม. ยาว 4-6.5 ซม. มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชนิดที่ใบเป็นสีแดงอมน้ำตาล หรือสีเกือบดำ กับสายพันธุ์ที่ใบเป็นสีเขียว ทั้ง 2 ชนิด มีเส้นแขนงใบเป็นรูปร่างแหกระจายทั่วทั้งใบ ซึ่งบางคนชอบบอกว่าลายใบเหมือนกนกเรขา หรือรูปเรขาคณิต ทำให้เวลามีใบดกดูสวยงามละเอียดอ่อนน่ารัก

ว่านน้ำทอง ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาว มีปลายเส้าเกสรสีเหลืองสดบริเวณกลางกลีบ เวลามีดอกหลายๆช่อ และดอกบานพร้อมกัน จะสวยมาก โดยดอกออกช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกต้นที่แตกขึ้นจากเหง้า  การว่านน้ำทองให้เจริญเติยโตได้ดีต้องปลูกในดินร่วนซุย ชุ่มชื้น และมีอินทรียวัตถุสูง ส่วนมากนิยมปลูกในแปลง จัดสวนเป็นไม้ประดับระดับล่าง หรือปลูกในกระถางสำหรับวางประดับในอาคารหรือสถานที่ทำงาน

ว่านน้ำทองมีสรรพคุณทางยา โดยลำต้น ใบ และดอก ใช้ต้มน้ำดื่ม แก้อาการไอ ลดเสมหะ บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ บำรุงระบบประสาท แก้โรคไต ขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน โรคกระเพราะอาหาร ช่วยขับเหงื่อ

หัวใต้ดินรสเผ็ดปร่า แก้พิษทั้งปวง เช่น พิษฝี พิษงู พิษตะขาม แมลงป่อง แก้พิษซาง เป็นยาสมานคุมธาตุ ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องเสีย แก้บิดมูกเลือด ท้องอืดเฟ้อ แก้พิษ ตานซางเด็ก ทำให้ธาตุดีขึ้น ทำให้เจริญอาหาร มักใช้ร่วมกับว่านกีบแรด เป็นส่วนผสมในตำรับยาเขียวหอม

การปลูกว่าน้ำทองยังช่วยในเรื่องเมตตามหานิยม โดยนิยมปลูกว่านนี้ในวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครู บ้านไหนมีปลูกไว้จะนำโชคลาภมาสู่บ้านหลังนั้น