พิสูจน์แล้ว ทองคำแท่งอายุ 5 ศต.กลางกรุงเม็กซิโก ซิตี้

31 / 01 / 2563 12:54

เมื่อปี พ.ศ.2524 มีการขุดพบทองคำแท่งในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเม็กซิโก ซิตี เมืองหลวงของเม็กซิโก หลังจากนั้นก็มีการพิสูจน์หาคำตอบเรื่อยมาว่าทองคำแท่งที่พบนั้น มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมมันจึงถูกฝังอยู่กลางเมืองหลวงเช่นนี้ ผ่านมา 39 ปีวันนี้จึงได้คำตอบ

สถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติเม็กซิโก เป็นผู้เปิดเผยผลการวิเคราะห์นี้ โดยใช้วิธีการเอกซเรย์แบบพิเศษกับแท่งทองคำโบราณ จนสามารถยืนยันได้ว่า ทองคำมันน้ำหนัก 1.93 กิโลกรัม ที่ถูกพบนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสมบัติชาวแอซเท็ก (Aztec) ที่ถูกแย่งชิงไปโดยเอร์นัน กอร์เตซ นักสำรวจชาวสเปน เพราะพบองค์ประกอบของแท่งทองคำตรงกับชิ้นส่วนของสมบัติอื่นๆ ในยุคจักรวรรดิแอซเท็ก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการไขปริศนาของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ช่วงเวลานั้น

มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุว่าในคืนวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2063 ชาวแอซเท็กที่โกรธแค้นได้ขับไล่ขุนนาง นักบวชและผู้บุกรุกชาวสเปนออกจากเมืองหลวงเตนอชตีตลัน โดยนักสำรวจชาวสเปนได้หลบหนีไปพร้อมสมบัติชของาวแอซเท็กมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะนำไปได้รวมถึง ทองคำแท่งจำนวนมาก ทองคำแท่งบางส่วนนำไปไม่ได้จมลงไปในคลองของเมืองเตนอชตีตลันจนกระทั่งถูกขุดพบในอีก500 ปีต่อมา

ชาวแอซเท็ก(Aztec Empire) อาศัยอยู่ในทะเลทรายด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก  ในช่วงปลายคริสต์ศักราช 1200 พวกเขาเริ่มอพยพลงไปทางใต้ จนในที่สุดก็มาถึงที่ราบสูงแห่งเม็กซิโก ตามตำนานบอกว่า ชาวแอชเท็กซึ่งเคยเป็นนักล่าเร่ร่อนจะอยู่ในสถานที่ที่พวกเขาได้เห็นนกอินทรีเกาะอยู่บนต้นตะบองเพชรเสมอเท่านั้น และในปีคริสต์ศักราช 1325 พวกเขาได้ค้นพบสถานที่ดังกล่าว  ซึ่งเป็นเกาะอยู่ในทะเลสาบขนาดใหญ่  ที่นี่พวกเขาสร้างเมืองหลวง ชื่อเตนอชตีตลัน

อาณาจักรแอซเท็ก เจริญรุ่งเรืองกินอาณากว้างขวางบริเวณอเมริกากลางและประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน มีอำนาจเต็มที่ในช่วง ปี ค.ศ. 1428 - 1521 ก่อนที่จะถูกกลุ่มกองกิสตาดอร์ หรือนักสำรวจดินแดนชาวสเปนนำโดย เอร์นัน กอร์เตส เข้ารุกรานและยึดครองจักรวรรดิแอซเท็ก จนกระทั่งล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1521