Gold, White Gold, Platinum

31 / 01 / 2563 14:45

ในวงการเครื่องประดับเรามักได้ยินคำว่า Gold, White Gold, Platinum หรือ ทองคำ ทองขาว และทองคำขาว กันอยู่เสมอๆ แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจว่าแร่ธาตุทั้ง 3 ชนิดนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ไม่ว่าในแง่ของคุณสมบัติ ความนิยม การนำไปใช้ และมูลค่า

ทองคำ(Gold) เป็นแร่ธาตุที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติทนทานต่อปฏิกิริยาภายนอกได้ ดี ไม่สึกกร่อนไปตามกาลเวลา ทนต่อสารเคมีต่างๆ มีสีเหลืองแวววาว สามารถเก็บรักษาโดยคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้นานไม่หม่น หรือ หมองเหมือนโลหะชนิดอื่นๆ  ทองคำนิยมนำมาทำเครื่องประดับสวมใส่เพื่อความสวยงาม ใช้ในอุตสาหกรรมเป็นส่วนประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือทันตกรรม และเป็นการลงทุนทางการเงิน

ทองคำขาว(Platinum: PT) เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นเดียวกับทองคำแต่มีความแข็ง ความเหนียวมากกว่าทองคำ มีความคงทนไม่ลอกไม่ดำ นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ โดยเฉพาะการทำตัวเรือนเครื่องประดับเพชรและมีราคาสูงกว่าทองคำประมาณสองเท่าหรือมากกว่า ส่วนการจะรู้ว่าเครื่องประดับชิ้นใดเป็น Platinum ให้สังเกตที่ตรา Hallmark ที่ตอกลงบนตะขอหรือส่วนอื่นของเครื่องประดับ เช่น ถ้าแสตมป์คำว่า PT 950 หมายถึง มี Platinum อยู่ 95% เป็นต้น
 
          ทองขาว (White Gold) เป็นทองคำผสมกับโลหะอื่นที่ให้สีขาว สมัยก่อนใช้ นิกเกิล (Nickel) เป็นส่วนผสมแต่ระยะหลังนิยมเคลือบผิวด้วยโลหะสีขาวที่เรียกว่า โรเดียม (Rhodium) ซึ่งดูคล้ายกับทองคำขาวมากแต่เมื่อใช้ไปสักระยะจะหมอง เนื่องจากตัวโลหะที่เคลือบหลุดออกไป

ส่วนวิธีการดูว่าเครื่องประดับชิ้นใดทำจากทองคำขาวหรือทองขาวนั้นมีหลายวิธี นอกจากจะดูที่ตราประทับแล้วสามารถสังเกตได้จากสี โดยทองคำขาวแท้หรือ Platinum จะมีสีขาวบริสุทธิ์ ไม่เปลี่ยนสี ไม่หมอง ไม่ดำ แม้จะใช้ไปนานๆ มีความทนทานสูง แข็งและเหนียว ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ยากจึงมีราคาแพงเพราะต้องจ้างช่างที่มีฝีมือและประสบการณ์สูงในการหล่อเป็นเครื่องประดับ และไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะใดๆแม้แต่แม่เหล็ก
 
                นอกจากนี้ทองคำขาวยังทนต่อความร้อนได้ดี ไม่ละลายหรือสึกกร่อนแม้จะอยู่ในกรด ไม่เป็นสนิมและไม่หลอมละลายเมื่อโดนไฟหลอมทอง  ที่สำคัญทองคำขาวแท้จะมีน้ำหนักมากกว่าทองคำ