ยอดส่งออกทองคำไทยปี62 พุ่ง เตือนรับมือเศรษฐกิจปี 63 ทรุด

19 / 02 / 2563 15:54

การกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกทองคำไทยตลอดปี2562 ว่าเพิ่มขึ้นถึง 73.71% จากการส่งออกไปเก็งกำไรทำกำไรในช่วงที่ราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยตลาดการส่งออกที่สำคัญคือสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์และออสเตรเลีย อีกทั้งการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 2562 ก็มีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้น 6.34% มูลค่ากว่า 8พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.5 แสนล้านบาท

สรุปยอดรวมการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับตลอดปี 2562 มีมูลค่ากว่า 1.56 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 30.91% โดยได้อานิสงค์จากส่งออกทองคำไปเก็งกำไร และการส่งออกพลอยสีที่มาแรงตลอดทั้งปี โดยพลอยก้อน พลอยเนื้อแข็งเจียระไน และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนมีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้น 294.82% , 6.75% และ 10.72% ตามลำดับ ขณะที่เศษหรือของที่ใช้ ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่า เพิ่มขึ้นมากว่า300% และเครื่องประดับทอง เพิ่ม 0.66%  แต่ก็มีสินค้าหลายรายการที่มียอดการส่งออกลดลงเช่น  เครื่องประดับแท้ เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับแพลทินัม เพชร เพชรก้อน และเพชรเจียระไน

อาเซียนยังเป็นตลาดส่งออกที่ขยายตัวมากสุด 177.48% จากการส่งออกไปสิงคโปร์ กัมพูชาและเวียดนาม รองลงมา คือ อินเดีย เพิ่ม 89.79% จากการที่เศรษฐกิจอินเดียขยายตัว ทำให้มีการนำเข้า เพชรเจียระไน พลอยก้อน พลอยเนื้ออ่อน-เจียระไน และโลหะเงิน เพิ่มขึ้น และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพิ่ม 1.19% จากการส่งออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนฮ่องกงตลาดอันดับ 1 การส่งออกยังคงลดลงต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากผลกระทบจากสงครามการค้าทำให้จีนนำเข้าจากฮ่องกงลดลง และปัญหาการประท้วงทำให้นักท่องเที่ยวลด ร้านค้าปลีกหลายรายปิดตัวลงการนำเข้าจากไทยจึงลดลง  ขณะที่สหภาพยุโรปเกิดปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นเดียวกับสหรัฐฯ การส่งออกจึงลดลง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2563 นี้ ผู้ส่งออกคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าที่อาจลุกลามไปสหภาพยุโรป สงครามระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านที่อาจรุนแรงขึ้น ไวรัสโคโรนาที่หากลุกลามและกินเวลานาน จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ทำให้เกิดผลต่อเนื่องถึงการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ชะลอตัวลง และในที่สุดก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามไปด้วย รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการอาจต้องหันมาให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์ และเพิ่มช่องทางการค้า
ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และต้องศึกษาความต้องการของตลาดและผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการด้วย เพื่อทำให้สินค้าไทยยังคงเป็นที่ต้องการและส่งออกได้เพิ่มขึ้น