3 ปัจจัยกำหนดราคาทองในปัจจุบัน

30 / 06 / 2563 16:30

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ที่ 1,747 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ 14 เมษายน 2563 ทำให้เริ่มคิดว่าราคาทองคำอาจขยับไปถึงจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเดือนกันยายน 2011 โดยมองว่ามี 3 ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้แก่

1.ความเสี่ยงจากสถานการณ์โรคระบาด 
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปจะเริ่มคลี่คลายลง และสหรัฐฯก็เริ่มหาจังหวะที่เหมาะสมที่จะคลายมาตรการล็อคดาวน์ต่างๆ ซึ่งน่าจะให้ธุรกิจบางประเภทกลับมาดำเนินกิจการได้แต่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดต่อเศรษฐกิจก็จะยังคงอยู่ และต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวยาวนาน อีกทั้งการระบาดระลอกใหม่ก็พร้อมที่จะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา จากสถานการณ์เหล่านี้ทำให้นักลงทุนยังคงเข้าไปถือครองทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงเป็นปัจจัยหนุนหลักให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไป
 
2.ภาวะดอกเบี้ยต่ำจนติดลบ 
การดำเนินนโยบายลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ถึง 2 ครั้งในช่วงเดือนมีนาคม ทำให้ดอกเบี้ยลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดที่ 0-0.25% รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้ และการอัดวงเงินสูงถึง 2.3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในสหรัฐฯ มีผลกระทบทำให้อัตราดอกเบี้ยโลก และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่นและยุโรป ปรับลดลงจนติดลบและมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นจึงส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่ได้สร้างกระแสเงินสดให้ แต่ก็สามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว
 
3.กระแสเงินลงทุนไหลเข้า ETF ทองคำต่อเนื่อง
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลบวกกับราคาทองคำในระยะสั้นและกลาง คือ กระแสเงินลงทุนที่ไหลไปสู่สินทรัพย์ที่มีโอกาสในการทำกำไร หนึ่งในนั้นคือกองทุนรวม ETFs ทองคำ โดยข้อมูลจาก World Gold Council ล่าสุดพบว่า มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิในเดือนมีนาคม 2020 สำหรับ ETF ทองคำสูงถึง 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

ทั้งนี้ราคาทองคำเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดในช่วงเดือนกันยายน 2011 ที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากนั้นก็ปรับตัวลดลงตลอดไปต่ำสุดบริเวณ 1,046 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2015 ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวมาในระดับปัจจุบัน 

ข้อมูล: SCBS Wealth Research /the standard