การลงทุนทองคำในระยะยาวยังสดใส

04 / 09 / 2564 07:46

ในปี 2563 ราคาทองคำปรับขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2,075 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และปัจจุบันทองคำก็ยังได้รับความนิยมอยู่สำหรับนักลงทุน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ ได้แม้ราคาทองคำจะปรับลดลงมาบ้างแต่เชื่อว่าก็ยังคงอยู่ราคาอยู่ในระดับสูงต่อไป 

ในเรื่องนี้ สภาทองคำโลก ได้อธิบายถึงปัจจัยที่ทำให้ทิศทางราคาทองคำจะยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป ว่าเป็นเพราะ ในช่วงวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาผันผวนน้อย ขณะเดียวกันก็ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสม่ำเสมอ ประกอบกับนักลงทุนยังคงมองว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นยังคงมีความเสี่ยงสูง ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว จึงทำให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการจากผู้บริโภคชาวจีนและอินเดีย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาทองคำทั้งสิ้น

สำหรับนักลงทุนที่กำลังตัดสินใจลงทุนหรือว่าถือทองคำอยู่แล้วและเน้นลงทุนระยะยาว ยังสามารถลงทุนและถือต่อไปได้ โดยพฤติกรรมการลงทุนทองคำในระยะยาวจะลงทุนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หรืออาจถือข้ามปี ซึ่งกลยุทธ์ในการลงทุน ก็คือ ทยอยซื้อในช่วงต้นปีหรือช่วงตรุษจีน จากนั้นให้ถือและรอจังหวะทยอยขายในช่วงปลายไตรมาส 3 หรือ ก่อนสิ้นปี นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักลงทุนทองคำที่ทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ และถือเป็นระยะเวลาหลายปีหรือสะสมเพื่อเป็นมรดก เพราะเชื่อว่าการถือทองคำเกิน 10 ปี จะมีแต่กำไร 

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าในการลงทุนนั้น นักลงทุนควรพิจารณาราคาทองคำย้อนหลังในอดีต ประมาณ 7-10 ปีควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เห็นภาพทิศทางราคาทองคำที่แม่นยำมากขึ้น  เช่น สถิติราคาทองคำ 7 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงต้นปี 2564 พบว่าราคาทองคำ (Gold Spot) ในระดับต่ำสุดของแต่ละปี จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นักวิเคราะห์ทองคำทั่วโลกประเมินว่าทิศทางราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นในระยะยาวค่อนข้างชัดเจน