จะทำอย่างไรเมื่อแร่ทองแดงกำลังจะหมดลง

07 / 11 / 2564 07:36

มนุษย์เรารู้จักและใช้แร่ทองแดงมาเป็นเครื่องประดับตั้งแต่ 11,000 ปีมาแล้ว ปัจจุบันโลกเราบริโภคทองแดงประมาณ 20 ล้านตันต่อปี เพื่อใช้ในอาคาร สำนักงาน โรงงานหรือโรงไฟฟ้าต่างๆ

ปัจจุบัน การบริโภคทองแดงสูงขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่าตัว เนื่องจากโลกกำลังเกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากการใช้น้ำมันไปหาแหล่งพลังงานธรรมชาติมากขึ้น ปริมาณความต้องการทองแดงจึงมากขึ้นไปด้วยทั้งในแบตเตอรี่ โซลาร์ฟาร์ม พลังงานลม หรือแม้กระทั่ง EV ที่ต้องใช้ทองแดงมากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันถึงสี่เท่า

ด้วยเหตุนี้การทำเหมืองทองแดงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง และล่าสุดราคาทองแดงในตลาด London Metal Exchange (LME)หรือตลาดซื้อขายโลหะล่วงหน้าซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน มีราคาสูงถึง 10,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 60 ปี หรือสูงสุดตั้งแต่มีการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าเลยทีเดียว และคาดว่าความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นนี้อาจทำให้ขาดแคลนทองแดงในระยะยาวได้ 

เหมืองทองแดงใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่ชิลี ซึ่งมีกำลังการผลิตมากกว่า 25% ของความต้องการทองแงของโลก ตามมาด้วยเปรูและประเทศจีน ซึ่งทุกเหมืองเป็นลักษณะเหมืองเปิด โดยเฉลี่ยแล้ว ในดิน 100 กิโลกรัมจะมีแร่ประมาณ 1 กิโลกรัม ทำให้เหมืองเปิดดังกล่าวมีขนาดใหญ่มากและแร่ที่สะสมก็ทยอยหมดไป ถ้าต้องตอบโจทย์การบริโภคเพิ่มขึ้นที่เป็นเท่าตัว

นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามอย่างมากที่จะขุดแร่ทองแดงที่อยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตรจากพื้นผิวโลกขึ้นมาใช้ โดยไม่ต้องรอเวลาให้ปะทุขึ้นมากับภูเขาไฟ ซึ่งนั่นอาจต้องใช้เวลานับหมื่นปี โดยศาสตราจารย์ Jon Blundy แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ทำการพิสูจน์โดยเข้าสำรวจภูเขาไฟทั้งที่ยังคุกรุนอยู่และที่มอดไปแล้วกว่า 40 แห่ง และนำหินที่ความลึก 2 กิโลเมตร มาวิเคราะห์ พบว่าก้อนหินนั้นมีทั้งธาตุทองแดง ลิเทียม สังกะสี เงิน และทอง ผสมอยู่ จึงเป็นไปได้ที่จะมีการทดลอง วิจัย เพื่อนำแร่ธาตุจากใต้พิภพขึ้นมาใช้ก่อนเวลา เพื่อหาทางรอดให้กับความต้องการแร่ทองแดงที่อาจหมดลงในเวลาอันใกล้นี้