เหมืองทองแดงในอาฟกานิสถาน ใต้อุ้มมือพญามังกร

16 / 11 / 2564 09:03

ปัจจุบัน ความต้องการทองแดงของจีนเพิ่มขึ้นอย่างสูงขึ้นอย่างมาก จนทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีการบริโภคทองแดงสูงที่สุดในโลกปีละกว่า 4 ล้านตัน หรือคิดเป็นราว 22% ของการใช้ทองแดงทั่วโลกแต่ ทองแดงที่มีในจีนนั้นมีปริมาณไม่เพียงพอในระยะยาว 2 ใน 3 ของปริมาณทั้งหมดยังต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศ จีนจึงต้องเข้าไปลงทุนทำเหมืองทองแดงในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศอาฟกานิสถาน

จากการสำรวจของนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ ที่ได้ออกรายงานมาเมื่อปี2550 ว่า ประเทศอาฟกานิสถานมีทรัพยากรแร่ทองแดงราว 60 ล้านตัน และมีแร่เหล็กกับแร่อื่นๆรวมกันราว 22,260 ล้านตัน โดยคาดว่าเหมืองทองแดง Aynak ในอาฟกานิสถานนั้นมีปริมาณแร่ทองแดงอยู่ราว 11.33 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณแร่ที่ค้นพบในประเทศจีนในปัจจุบัน ซึ่งนักธรณีวิทยาหลายคนเชื่อว่าเหมือง Aynak น่าจะเป็นเหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เพื่อความมั่นคงในด้านสินแร่ จีนจึงทุ่มทุนเข้าทำสัมปทานสำรวจแร่ทองแดงในเหมือง Aynak ซึ่งเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอาฟกานิสถานห่างจากเมืองกรุงคาบูลเมืองหลวง ราว 30กิโลเมตร ด้วยตัวเลขราว 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้แร่ทองแดงของจีนที่ 

การประมูลโครงการยักษ์จากบริษัทจีนครั้งนี้ มี MCC ซึ่งเป็นวิสาหกิจรัฐบาลจีนร่วมกับอีก 2 บริษัทเข้ามาร่วมหุ้นเพื่อทำการสำรวจบุกเบิกในช่วงอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ทางบริษัทจะสามารถมีหลักประกันด้านซัปพลายวัตถุดิบไปได้อีกหลายสิบปีทีเดียว

การลงทุนของจีนในครั้งนี้ครั้งนี้จัดว่าเป็นการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอาฟกานิสถาน และจะเป็นโปรเจกต์ที่ทำให้เกิดการจ้างงานถึงราว 10,000 คน ในปัจจุบันเหมืองแห่งนี้มีปริมาณแร่ทองแดงกว่า 10 ล้านตัน และอาจจะมีมากถึง 20 ล้านตันในอนาคต ซึ่งหากคำนวณตามราคาและปริมาณในปัจจุบัน ทองแดงเหล่านี้มีมูลค่าถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ราคาของทองแดงในตลาดโลกได้ถีบตัวขึ้นกว่า 2 เท่า ผลประโยชน์อันมหาศาลนี้ได้ดึงดูดให้บรรดาอุตสาหกรรมแร่จากทั่วโลกแห่เข้ามาเพื่อที่จะ“ขุดทองแดง” ที่อาฟกานิสถาน อย่างเช่นในการประมูลที่เหมือง Aynak นี้ มีหลายบริษัทจากประเทศแคนาดา รัสเซีย สหรัฐฯ อินเดีย และจีนที่เข้ามาสู่สนามแห่งการช่วงชิงแหล่งแร่ทองแดงแห่งนี้