หลวงพ่อทองคำ

07 / 12 / 2561 12:17

“หลวงพ่อทองคำ” เป็นชื่อเรียกพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร  วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกของไทยที่ได้รับการบันทึกไว้ใน The Guinness Book of World Record เมื่อ ปี พ.ศ.2534ว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

หลวงพ่อทองคำ มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานที่รองรับพระพุทธรูป  7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน และที่สำคัญคือสร้างด้วยทองคำแท้ มีมูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์ (ตามราคาทองคำในปีที่หนังสือกินเนสส์บุ๊คบันทึกไว้) ถึงเวลานี้ประเมินไม่ได้ว่าราคาจะขึ้นไปถึงเท่าไหร่ 

หลวงพ่อทองคำนี้สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมกันพอกปูนทับเนื้อทองคำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกศัตรูเห็น จนล่วงมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์  รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระพุทธรูปจากหัวเมืองต่างๆมาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ รวมถึงหลวงพ่อทองคำด้วย โดยตอนแรกประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยาไกรจนถึงพ.ศ.2478 จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดสามจีน(ชื่อเก่าวัดไตรมิตรวิทยาราม) และกว่าจะรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำไม่ใช่พระปูนปั้นก็ผ่านไปนานถึง 20 ปี

เวลานั้นมีการประกอบพิธีอัญเชิญองค์พระมาประดิษฐ์ฐานบนพระวิหาร ปรากฏว่าเชือกที่ยกองค์พระนั้นขาดลงทำให้พระพุทธรูปตกลงมาทำให้ปูนที่พอกไว้กะเทาะออกและเมื่อล้างรักที่ลงไว้ออกก็ปรากฏเห็นเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร"

ปัจจุบันหลวงพ่อทองคำประดิษฐานในพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติฯ ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ60 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อปีพ.ศ. 2549และ พ.ศ. 2550 ตามลำดับ พระมหามณฑปออกแบบเรียบง่าย โดยคำนึงถึงความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก โครงสร้างของอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กตัวอาคารก่ออิฐถือปูนบุด้วยหินอ่อน กว้าง 30 เมตร สูง 60 เมตร รูปแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ยอดพระมณฑปทรงจตุรมุข ประดับด้วยตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

ส่วนวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เดิมชื่อ วัดสามจีน ตามตำนานเล่าว่าเป็นวัดที่สร้างโดยชาวจีน 3 คน ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินในเมืองไทยกลุ่มแรกๆ สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวย จึงร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นและเรียกว่าวัดสามจีน ต่อมาภายหลังมีการปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ได้เปลี่ยนชื่อจากวันสามจีนเป็นวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แต่ก็ยังคงมีความหมายว่าเพื่อนสามคนเหมือนเดิม



เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่
  https://www.aagold-th.com/gold-rate/