ปลียอดทองคำ พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช

07 / 12 / 2561 12:20

พระบรมธาตุเจดีย์  เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ตามตำนานเล่าว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน เมืองต่างๆ ในแคว้นชมพูทวีปได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปเก็บรักษาเพื่อเคารพบูชา พระนางเหมชาลาพร้อมพระธิดาและพระโอรสอัญ แห่งเมืองทนธบุรีได้อัญเชิญพระทันตธาตุ ลงเรือหนีจากชมพูทวีปจะไปยังลังกาเพราะเกรงจะถูกแย่ง ระหว่างทางเกิดพายุทำให้เรือกำปั่นแตกมาฝั่งที่หาดทรายแก้วจึงได้ฝังพระทันตธาตุไว้  ต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกราชเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มาพบพระทันตธาตุจึงโปรดให้ สร้างพระบรมธาตุเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสร้างเมืองขึ้น ณ หาดทรายแก้วจนสำเร็จเมืองดังกล่าว คือ เมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงเสด็จประพาสเมืองนคร จึงได้พระราชทานนามวัดว่าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

องค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาทรงระฆังคว่ำ ส่วนปลียอดหุ้มด้วยแผ่นทองคำ มีทั้งที่เป็นแผ่นทองเรียบ แผ่นทองดุนลาย และแผ่นทองที่มีจารึกส่วนยอดบนสุดเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ถักจากลูกปัดร้อยเข้ากันด้วยเส้นลวดทองคำ การหุ้มปลียอดพระธาตุด้วยทองคำแท้นี้เป็นการถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามความเชื่อของพุทธศสานิกชนเพื่อให้ผู้ถวายได้พบกับพระนิพพาน
 
ตามประวัติศาสตร์การบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ทำมาแล้วหลายครั้ง โดยการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อราว 30  ปีก่อนได้ปลดเอาทองคำทั้งหมดที่ปลียอดพระธาตุลงมาชั่งรวมกันได้มากถึง 216 กิโลกรัม พบแท่นจารึกทองคำ 74 รายการ ทั้งอักษรขอมและอักษรไทยอ่านแปลไปแล้ว 40 รายการ ในจารึกระบุถึงการซ่อม น้ำหนักทอง นามและถิ่นที่พำนักของผู้ซ่อม จารึกที่เก่าแก่ที่สุดที่พบคือปี พ.ศ. 2155 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถแห่งกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้นมีจารึกตามมาอีกหลายแผ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2159 จนถึง พ.ศ.2377 แสดงให้เห็นว่ามีการซ่อมบำรุงมาโดยตลอด

นอกจากนี้ยังมีจารึกเป็นหลักฐานยืนยันว่ายอดพระบรมธาตุเจดีย์เคยชำรุดหักลงมาแล้วและได้มีการซ่อมสร้างขึ้นใหม่เมื่อปีพ.ศ.2190 ดังคำจารึกว่า "พุทธศักราชได้สองพันร้อยเก้าสิบพระพรรษาเศษได้สี่วัน เมื่อยอดพระเจ้าหัก วันจันทร์ เดือนหก แรมสี่ค่ำ ปีมะเมีย เพลาชายแล้วสองยาม สร้างตรลบหกสู่ยอดเจ้าหั้นแล เมื่อได้ทำการนั้นเดือนสิบ วันศุกร์ เวลาเช้าขึ้นถึงสิบชั้นเป็นสุดเอย" จารึกนี้ถูกจารลงในแผ่นทองคำ เป็นหลักฐานสำคัญที่ถูกค้นพบเมื่อกว่า 30 ปีก่อนเช่นกัน

ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมกำลังดำเนินการเพื่อเข้าสู่กระบวนการประกาศให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นมรดกโลก โดยได้จัดทำเอกสารฉบับภาษาไทยเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างแปลเอกสารฉบับภาษาอังกฤษ โดยผู้ทรงคุณวุฒิกรมศิลปากร คาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2562 นี้  ซึ่งปัจจุบันวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารอยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกจากยูเนสโก้แล้ว



เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่
  https://www.aagold-th.com/gold-rate/