
Midas ราชาผู้มีสัมผัสเป็นทองคำ
18 / 10 / 2562 14:49
ตามตํานานของกรีก เมื่อพระราชา Midas สัมผัสสิ่งใดสิ่งนั้นจะกลายเป็นทอง
ไมดาส เป็นชื่อของกษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ปกครองนครไฟร์เกียซึ่งเป็นหนึ่งในนครที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองที่สุดนครหนึ่ง ด้วยพระปรีชาสามารถในการบริหารปกครองของพระเจ้ากอดิอุสพระราชบิดา โดยตำนานสัมผัสทองคำเริ่มขึ้นเมื่อวันหนี่ง พระเจ้าไมดาสเสด็จประพาสยังริมฝั่งแม่น้ำซานการิอัสและได้พบชายชราขี้เมาผู้หนึ่งถูกมัดนอนกลิ้งอยู่กับพื้น พระองค์จึงเข้าไปช่วยแก้มัดให้ชายผู้นั้น ทว่าชายคนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่คือ ไซเลนนัส พระอาจารย์ของเทพไดโนนีซุส เทพเจ้าแห่งไวน์และการเฉลิมฉลอง โดยในวันนั้น ไซเลนนัสที่กำลังเมาไวน์ได้ที่ เกิดพลัดกับขบวนของเทพไดโอนีซุสและได้ไปพบกับพวกชาวนาที่มีความเชื่อว่า หากเจอไซเลนนัสตอนกำลังเมาให้จับตัวเขามัดไว้ แล้วจะสามารถถามเรื่องในอนาคตจากไซเลนนัสได้
หลังจากกษัตริย์ไมดาสทรงช่วยแก้มัดให้ไซเลนนัส เทพไดโนนีซุสก็เสด็จมาถึง พระองค์ทรงโปรดปรานไมดาสเป็นอันมากที่ช่วยพระอาจารย์ของพระองค์ จึงทรงออกปากว่าจะให้พรไมดาสหนึ่งข้อตามแต่จะขอ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น กษัตริย์ไมดาสก็ลืมองค์ปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ จึงทรงขอพรที่แปลกประหลาดที่สุด โดยทรงขอแก่เทพไดโอนีซุสว่า “ขอให้ทุกสิ่งที่ตนสัมผัสนั้นกลายเป็นทองคำ”
แม้จะทรงแปลกพระทัย แต่ไดโอนีซุสก็ประทานพรให้ตามที่ไมดาสขอ จากนั้นพระองค์พร้อมกับพระอาจารย์ก็เสด็จจากไป ส่วนไมดาสนั้นเมื่อได้พรแล้วก็ทรงทดลองด้วยการแตะของต่างๆในวังจนกลายเป็นทองคำไปหมด ยังความปรีดาให้แก่พระองค์เป็นอันมาก
ทว่า เมื่อถึงเวลาที่จะเสวย ไมดาสก็ทรงพบว่า ทั้งอาหารและน้ำที่พระองค์สัมผัสกลายเป็นทองคำจนหมดสิ้น ทำให้พระองค์ไม่สามารถเสวยสิ่งใดได้เลย และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ พระองค์เผลอไปโอบกอดพระธิดาองค์น้อยที่ทรงรักมากเข้า ทำให้พระธิดากลายเป็นรูปปั้นทองคำไปในทันที
ราชาไมดาสทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก พระองค์ได้สวดอ้อนวอนขอให้เทพไดโอนีซุสทรงเมตตาลบล้างพรที่ทรงประทานให้ ในที่สุด เทพเจ้าไดโอนีซุสทรงเกิดความสงสารจึงให้ไมดาสไปชำระล้างพรที่แม่น้ำแพคโตลัส ราชาไมดาสทรงทำตามที่เทพเจ้าตรัสบอก และพรวิเศษก็หายไป พร้อมกับทุกสิ่งกลับคืนดังเดิม อย่างไรก็ตาม พรของไดโอนีซุสที่ถูกชำระล้าง ก็ได้ทำให้แม่น้ำทั้งสายกลายเป็นผงทองคำ
มาถึงยุคปัจจุบัน สัมผัสของ Midas กลายเป็นสํานวนหมายถึง การทําให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดผลกำไรงอกเงยขึ้นมา