ผลกระทบต่อสินค้าเครื่องประดับของไทย เมื่อสหรัฐฯตัดสิทธิ GSP

13 / 11 / 2562 15:18

การตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือGSP ของสหรัฐกับสินค้าบางชนิดที่นำเข้าจากประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จากเดิมที่เคยเสียภาษี ร้อยละ 0 เกือบทุกรายการ อาจต้องเสียภาษีการนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับแท้ เครื่องทองหรือเครื่องเงิน ไข่มุก และรัตนชาติ หลังคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ใน 6 เดือนข้างหน้า (วันที่ 25 เมษายน 2563)

การระงับสิทธิGSP ในครั้งนี้ส่งผลให้สินค้าไทย จำนวน 22 รายการย่อย ใน 4 สินค้าหลักได้แก่ พิกัด 7113 เครื่องประดับแท้ พิกัด 7114 เครื่องทองหรือเครื่องเงิน พิกัด 7116 ของทำด้วยไข่มุก และรัตนชาติรวมถึงพิกัด 7117 เครื่องประดับเทียม ที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ ต่ำสุดคือ ร้อยละ 0 เช่น ไข่มุด เพชร ฝุ่นหรือผงของรัตนชาติหรือกึ่งรัตนชาติ โลหะแพลทินัม เป็นต้น ส่วนอัตราสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 13.5 ได้แก่ เครื่องประดับแท้ ส่วนทองคำเสียภาษีในอัตราร้อยละ 4.1

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันไทยได้รับการต่อสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปแล้วก่อนหน้านี้โดยผลบังคับใช้ไปจนถึงปลายปี 2563 ทำให้การนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปยังสหรัฐฯ มีอัตราภาษีเป็นร้อยละ 0 เกือบทุกรายการ ยกเว้นพิกัด 7113.11.50 เครื่องประดับเงินซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าโหล/ชิ้นละ 18 เหรียญสหรัฐฯ และพิกัด 7113.19.50 เครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยทองคำหรือแพลทินัม ที่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 5.0 และร้อยละ 5.5 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในปี 2561 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยรวมเป็นมูลค่า 1,354.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 5.25 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งการตัดสิทธิ GSP จะทำให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 6.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 5.79 จึงอาจส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย 

เครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยทองคำหรือแพลทินัม ยังเป็นสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าการนำเข้ารวมเป็นมูลค่า 831.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 61.41 ของมูลค่านำเข้ารวมทั้งหมด  ส่วนการนำเข้าสินค้าในหมวดอัญมณี (เพชร พลอยสี และไข่มุก) ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้าปกติเป็น 0 จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ด้วยมูลค่านำเข้าจากไทย 364.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 7.27 หรือคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าร้อยละ 26.88 ของมูลค่านำเข้ารวมจากไทยทั้งหมด

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกามีคำสั่งให้ระงับข้อตกลงตามมาตรการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับสินค้าบางชนิดที่นำเข้าจากประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าไทยไม่สามารถยกระดับสิทธิแรงงานให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลได้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ใน 6เดือนข้างหน้า หรือภายในวันที่ 25 เมษายน 2563 ส่งผลกระทบต่อสินค้าไทยที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงราว 1 ใน 3 ส่วน คิดเป็นมูลค่ารวม 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 39,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับด้วย