ชุดเครื่องเขียนเงินลงถมตะทอง ของขวัญถวายพระสันตประปา

27 / 11 / 2562 15:31

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จลง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงออกรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งนครรัฐวาติกันในโอกาสเสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ถวาย"ชุดเครื่องเขียนเงินลงถมตะทอง ประดับอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.ชุดใหญ่" เป็นของขวัญแด่องค์พระสันตประปาด้วย

นอกจาก"ชุดเครื่องเขียนเงินลงถมตะทอง ประดับอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.ชุดใหญ่" แล้วยังมีเหรียญที่ระลึกในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 แผ่นคำจารึกของขวัญประดับพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ท.ทองคำลงยาติดบนแท่นไม้มะค่า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ถวายเทียนหอม ในส่วนของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิสทรงถวายภาพวาดบนกระเบื้องสีโมเสก สร้างจากภาพต้นแบบ "การอวยพรของสมเด็จพระสันตะปาปา ณ ลานมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์", เหรียญที่ระลึกในโอกาส ครบ 7 ปี การสมณภิเษกของสมเด็จพระสันตะปาปา และหนังสือที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายเหรียญที่ระลึกในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทย และญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-26 พ.ย.2562 แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นการแลกเปลี่ยนด้วย

ศิลปะการทำถมตะทอง หมายถึง วิธีการระบายทองคำ ละลายปรอท หรือแต้มทองเป็นแห่งๆ เฉพาะที่ มิใช่ระบาย จนเต็มเนื้อที่อย่างเดียวกับการทำถมทอง โดยเอาทองคำแท้ๆ ใส่ลงในปรอท ทองละลายอยู่ในน้ำปรอท เมื่อเอาน้ำปรอท ที่มีทองคำละลายปนอยู่ ไปแต้มตามแห่งที่ต้องการให้เป็นสีทองนั้น ในขั้นแรกปรอท จะยังคงอยู่ เมื่อไล่ด้วยความร้อนปรอทจะหลุดออกมา เหลือเนื้อทองติดแน่นอยู่บนตำแหน่งหรือลายที่แต้ม ทองนั้น การแต้มทองหรือระบายทองในที่บาง แห่งของถมดำ เป็นการเน้นจุดเด่น หรือต้องการ แสดงอวดภาพหรือลายเด่นๆ ฉะนั้นเครื่องถม ตะทองจึงเป็นของที่หายากกว่าถมเงินหรือถมทอง ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีความนิยมในถมตะทอง มากกว่าถมทอง

สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงได้รับแต่งตั้งและทรงเข้าดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปา เป็นองค์พระประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก พระองค์ที่ 266 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 สืบต่อจากอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่ทรงสละตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างสมถะ เรียบง่ายเสมอมา 

การเสด็จมาเยือนประเทศไทยของพระสันตะปาปาฟรานซิส นับเป็นการเสด็จมาเยือนขององค์พระประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกครั้งแรกในรอบ 35 ปี นับตั้งแต่พระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ได้เสด็จมาเยือนประเทศไทย เมื่อปี 2527 เพื่อทรงต้องการเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างผู้นับถือศาสนาคริสต์กับชาวพุทธ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น สำหรับการเสด็จมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ได้นำมาซึ่งความปลื้มปีติยินดีแก่ปวงชนชาวไทยทุกเชื้อชาติศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคริสต์ศาสนิกชนในประเทศไทย ที่ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2557 ระบุว่า มีจำนวน 814,508 คน ของประชากรในประเทศไทย 64,076,033 ล้านคน และในจำนวนคริสต์ศาสนิกชนในไทย นับถือนิกายโรมันคาทอลิก 369,636 คน