หอกลองกินุส หอกแห่งโชคชะตา

30 / 06 / 2563 16:39

หอกแห่งลองกินุส (Lance of Longinus, Spear of Longinus) เป็นหอกหุ้มด้วยทองคำ มีหลายชื่อบ้างเรียกหอกแห่งโชคชะตา (Spear of Destiny) หอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Lance, Holy Spear) และหอกแห่งพระคริสต์ (Spear of Christ) นั่นเพราะหอกเล่มนี้ใช้แทงพระเยซูคริสต์ เพื่อตรวจสอบว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้วหรือยัง หลังจากที่โดนตรึงบนไม้กางเขน

จากไบเบิ้ลฉบับพันธสัญญาใหม่ เขียนไว้ว่าเมื่อพระโลหิตของพระเยซูกระเด็นมาโดนทหารคนหนึ่ง ทำให้ตาของเขาที่บอดกลับมามองเห็นได้ดีอีกครั้ง นายทหารผู้นี้จึงเกิดความศรัทธา และบวชเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์ ชิ้นส่วนของหอกเล่มนี้ถูกเปลี่ยนมือไปหลายยุคหลายสมัย และมีวัตถุโบราณอีกหลายเล่มถูกอ้างว่าเป็นหอกลองกินุสอ แต่เล่มที่น่าสนใจ และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คือ หอกลองกินุสแห่งกรุงเวียนนา (Vienna Lance) ซึ่งอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adoft Hitler) ผู้นำเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยได้ครอบครองไว้ช่วงหนึ่ง
 
ในช่วงที่ฮิตเลอร์ต้องการสร้างอาณาจักรไรซ์ที่ 3 ขึ้น  เขาจึงต้องการของศักดิ์สิทธิที่จะใช้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ เขาจึงนำหอกลองกินุสแห่งกรุงเวียนนามาครอบครองไว้ เพราะผู้ถือครองหอกเล่มนี้ล้วนแต่มีอำนาจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าคอนสแตนตินมหาราช กษัตริย์ผู้ประกาศให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติโรมัน, พระเจ้าชาร์เลอมาญ (Emperor Charlemagne) ผู้ก่อตั้งอาณาจักรโรมันศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) ก็ยังหวังในพลังของหอก จนเหล่าสภาชิกสภาเมืองนูเรมเบิร์กที่เก็บหอกลองกินุสในยุคนั้นต้องถูกนำไปซ่อนไว้ในกรุงเวียนนาแทน ปัจจุบันหอกศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ถูกนำกลับไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงเวียนนาเช่นเดิมหลังกองทัพนาซีพ่ายแพ้งคราม

ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ในปีช่วง ค.ศ.1046 พระเจ้าเฮนรี่ที่3มหาราช ผู้สืบเชื้อสายมาจาก ชาร์ลมาญ พระเจ้าเฮนรี่ได้ทำการหุ้มหอกด้วยแผ่นเงิน เนื่องจาก หอกลองกินุสเกิดหัก ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากความพยายามจะ ฝัง ตะปูศักดิ์สิทธิ์ดอกที่ 2 ลงไปในหอก

ในช่วง ค.ศ.ที่ 1350 ในยุคสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่4 พระองค์ได้สร้างปราสาท Karlstejn ในกรุง ปราก(Prague) เพื่อเป็นที่เก็บรักษา หอกลองกินุส และทรงหุ้มหอกลองกินุสใหม่ด้วยทองคำ
ในช่วง ค.ศ.1400 ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าเฮนรี่ที่4 ได้ขายหอกศักดิ์สิทธิ์ ให้แก่สภาเมืองนูเรมเบิร์ก(Nuremberg town council) หอกศักดิ์สิทธิ์ถูกเก็บรักษาไว้ในหีบเงิน และถูกลืมเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์เกือบ 400 ปีก่อนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จะเข้ายึดประเทศออสเตรียและพบหอกลองกินุสอีกครั้งในปี ค.ศ.1938 ที่กรุงเวียนนา