เมื่อเครื่องประดับของอินเดียก้าวเข้าสู่ออนไลน์

07 / 12 / 2563 13:23

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในอินเดียมีอัตราขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ต่อปีซึ่งถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ประกอบการ ๓ รายใหญ่ๆที่ขับเคลื่อนการค้าปลีกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ได้แก่ Amazon, Flipkartและ Paytm Mall โดยคาดว่าในปี 2022 มูลค่าการค้าออนไลน์จะเพิ่มขึ้นถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026 เนื่องจากผู้บริโภคชาวอินเดียนิยมเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น รวมถึงการซื้อขายเครื่องประดับออนไลน์ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยคาดว่าในปี 2020 ตลาดเครื่องประดับออนไลน์ในอินเดียจะมีมูลค่าเติบโตกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีสัดส่วนราวร้อยละ 1-2 ของตลาดค้าปลีกเครื่องประดับอินเดีย 
       
สาเหตุที่ทำให้การค้าเครื่องประดับออนไลน์ในตลาดอินเดีย ขยายตัวสูงขึ้น เนื่องมาจากกำลังซื้อของผู้หญิงอินเดียยุคใหม่ที่สนใจในสินค้าแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลของบริษัทผู้ค้าเครื่องประดับรายใหญ่ในอินเดีย พบว่า ผู้หญิงอายุ 18 ถึง 35 ปี มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเครื่องประดับทางออนไลน์มากกว่าช่วงอายุอื่นๆ โดยผู้หญิงในทุกช่วงอายุมักซื้อเครื่องประดับเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวันมากกว่าซื้อเพื่อการลงทุน รวมถึงผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ก็หันมานิยมช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษต่างๆเช่น วันครบรอบแต่งงาน  วันเกิด  นอกเหนือจากวันสำคัญอย่างในเทศกาล Dhanterasหรือ AkshayaTritiya ที่ปริมาณการซื้อเครื่องประดับโดยเฉพาะเครื่องประดับทองคำจะมีมูลค่ามากเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งนี้ความนิยมในรูปแบบของเครื่องประดับก็เปลี่ยนไปจากเดิมโดยผู้หญิงร้อยละ 81.3 นิยมเครื่องประดับที่มีความทันสมัยและมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องประดับแบบดั้งเดิม

ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอินเดียจึงได้ ปรับปรุงกฎระเบียบการค้าออนไลน์ให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการจัดหาสินค้า การผูกขาดการจัดจำหน่ายสินค้า และการตั้งราคา โดยบริษัทอีคอมเมิร์ซที่เปิดการซื้อขายออนไลน์ในตลาดอินเดีย จะถูกสั่งห้ามไม่ให้ขายสินค้าจากผู้จัดหาซึ่งบริษัทอีคอมเมิร์ซนั้นๆ ถือครองหุ้นอยู่ นอกจากนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของหรือมีอำนาจควบคุมคลังสินค้าของผู้จัดหา รวมทั้งผู้จัดหาที่ขายสินค้ามากกว่าร้อยละ 25 ให้แก่บริษัทอีคอมเมิร์ซเพียงรายเดียวจะถือว่าถูกควบคุมโดยบริษัทอีคอมเมิร์ซแห่งนั้นและไม่ได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซดังกล่าวอีกต่อไป 

นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังห้ามไม่ให้บริษัทอีคอมเมิร์ซกำหนดให้ผู้ขายขายสินค้าเฉพาะบนแพลตฟอร์มของตัวเองเท่านั้น และการให้ส่วนลดหรือการให้เงินคืนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้นควรกระทำอย่างเป็นธรรมและไม่แบ่งแยก หมายความว่าไม่ควรมีการลดราคาลงมากผิดปกติในช่วงลดราคา และผู้จัดหา/แบรนด์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องราคาเองทั้งหมด รวมทั้งห้ามไม่ให้มีการจัดโปรโมชั่นแบบลดกระหน่ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นการบิดเบือนราคาและกลไกตลาดอีกด้วย

ข้อมูล : สถาบันวิจัยอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์กรมหาชน)