ทางเลือกทางรอดของนักลงทุน ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ

18 / 08 / 2564 08:54

ในปีที่ผ่านมา(2020) นักลงทุนต้องปรับตัวอย่างมากเนื่องจากความผันผันทางเศรษฐกิจ การลงทุนในสินทรัพย์แบบเดิมอย่างตลาดหุ้น ตลาดเงินไม่ปลอดภัยอีกต่อไป นักลงทุนส่วนใหญ่จึงหันไปลงทุนกับ ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ทำให้มีแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบันทางการเงินจากทั่วโลกต่อเนื่องตลอดทั้งปี นอกจากนี้สินทรัพย์ทางเลือกอย่างอัญมณีและเครื่องประดับ งานศิลปะ หรือสินค้าหรู ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีและเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง

การลงทุนในสินทรัพย์หรูแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมที่เรารู้จักอย่างเงินฝากธนาคาร พันธบัตร หุ้น  หรือแม้แต่ทองคำ ที่มักอยู่ในรูปแบบของเอกสารสัญญา แต่สินทรัพย์ทางเลือกที่จับต้องได้อย่างเช่นงานศิลปะ อาจไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้เกิดขึ้นได้ในทันที แต่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณสำหรับตลาดที่มีความต้องการเหมือนกัน
           
ข้อมูลจากบริษัทให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินเพื่อการลงทุน (Knight Frank)ระบุว่า งานศิลปะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกยอดนิยมในเกือบทุกภูมิภาคของโลก ยกเว้นในเอเชียและแอฟริกา ที่นาฬิกาหรู เป็นสินทรัพย์ยอดนิยมอันดับ 1 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในตลาด ปีที่ผ่านมาการนำเข้านาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 17.1% เมื่อเทียบกับปี 2019 ขณะที่ภูมิภาคแอฟริกาก็มีอัตราการเติบโตของการบริโภคสินค้าหรูเพิ่มขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า นาฬิกา และกระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น 

ทั้งนี้หากพิจารณาอันดับความนิยมการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกของทุกภูมิภาคทั่วโลกโดยรวม ปรากฏว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ งานศิลปะ รถยนต์คลาสสิก นาฬิกาหรู ไวน์ และเครื่องประดับ ซึ่งให้ผลตอบแทนเมื่อถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปี เท่ากับ 71%, 193%, 89%, 127% และ 67% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามสินค้าที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเมื่อถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปี คือกระเป๋าแบรนด์เนมและวิสกี้หายาก ที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง108% และ 478% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในอันดับ 6 และ10