ธุรกิจทองคำและเครื่องประดับทองในยุค Next Normal
04 / 07 / 2565 09:03
การระบาดของโควิด-19 ช่วยเปิดมุมมองให้ภาคธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยหันมาพิจารณากระบวนการดำเนินงานของตนเองใหม่ โดยได้มีการพัฒนาและปรับตัวเข้าสู่ช่องทางดิจิทัลอย่างชัดเจนมากขึ้นทั้งในด้านอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์ Next Normal
การซื้อขายเครื่องประดับทางออนไลน์กำลังเติบโตผ่านกลยุทธ์การทำตลาดที่เน้นให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าจากหลากหลายช่องทาง (Omni Channel) ผู้ประกอบการไทยไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายย่อยต่างผันมาทำการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ อีกทั้งกระแสความนิยมของไลฟ์สตรีม (Livestreaming) ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างยอดขายเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นราคาพิเศษเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนรุ่นมิลเลนเนียล และ Gen Z
ธุรกิจค้าทองคำและเครื่องประดับทองได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับช่องทางบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และคำนึงถึงความปลอดภัยในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านการซื้อขายทองคำทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ มีการนำนวัตกรรม Gold Blockchain เชื่อมต่อแอปพลิเคชันของธนาคาร เพื่อเพิ่มศักยภาพและช่องทางสำหรับผู้ที่สนใจซื้อขายทองคำ เช่น Krungthai Gold Wallet ที่เปิดให้มีการซื้อขาย 99.99% อิงตามราคาทองคำในตลาดโลกด้วยสกุลเงินเหรียญสหรัฐต่อออนซ์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนกว่าหมื่นรายในช่วง 1 เดือนหลังเปิดให้บริการ เป็นต้น
ทั้งนี้ การก้าวผ่านจาก New Normal มาสู่ Next Normal นั้นเป็นการนำเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ๆ และความตระหนักถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าสู่การใช้ชีวิตของทุกคนมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการควรปรับตัวเพิ่มทักษะทางดิจิทัล ทำความเข้าใจถึง Digital Transformation เรียนรู้ด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ทันพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค สื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Next Normal คือวิถีชีวิตใหม่ของสังคมที่จะเกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 คลี่คลายลง โดยคาดการณ์ว่าจะเกิดการนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงในแทบทุกธุรกิจ