บทความทั่วไป

11/02/2562

มุมมองของสภาทองคำโลก ต่อตลาดทองคำในปี 2019


สภาทองคำโลก หรือ World Gold Council คาดการณ์ตลาดทองคำในปี 2019 ว่าขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาดการเงิน และการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังจากปี 2018 ที่ผ่านมา ตลาดทองคำต้องเผชิญกับความซบเซาเกือบตลอดปี และเริ่มปรับตัวดีขึ้นกลายเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคม เนื่องจากความเสียงด้านการเงินระหว่างประเทศและความผันผวนในตลาดการเงิน เป็นผลให้ผลตอบแทนติดลบเพียงเล็กน้อยและดีกว่าผลตอบแทนจากตลาดหุ้นทั่วโลกWGC มองว่าตลาดในปี2019 นี้มีแรงขับเคลื่อนที่มีผลต่อความต้องการทองคำใน 2 ด้านคือความผันผวนของตลาดการเงิน และการเติบโตของเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้เกิด ความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น นโยบายการเงิน และค่าเงินดอลลาร์ และการปฎิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางตลาดทองคำของทั่วโลก ความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น คาดว่านักลงทุนทั่วโลกจะเพิ่มความต้องการทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง และปกป้องพอร์ตจากความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น มูลค่าตลาดหุ้นที่แพงและความผันผวนที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในยุโรป แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวขึ้นด้วยนโยบายจำกัดการนำเข้าจากประเทศอื่น หรือสงครามการค้า(Trade war) และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวผลกระทบของอัตราดอกเบี้ย และค่าเงินดอลลาร์ ปัจจัยที่จำกัดการขึ้นลงของทองคำ คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการแข็งของค่าเงินดอลลาร์ เพียงแค่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพียงปัจจัยเดียวไม่เพียงพอที่จะลดความน่าสนใจทองคำของนักลงทุนลงได้ อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปี 2004 ถึง 2007 หรือปี 2016 และช่วงต้นปี 2018 แต่หากรวมปัจจัยค่าเงินดอลลาร์แล้วจะสามารถกดดันราคาทองคำได้ การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ความต้องการทองคำของประเทศตลาดเกิดใหม่คิดเป็น 70% ของทั่วโลก โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่เริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจอีกครั้ง เช่น กระตุ้นการบริโภคภายใน และเพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจและความมั่งคั่งแตกต่างจากประเทศอื่นอย่างชัดเจน จึงเชื่อว่าหากมุมมองต่อทองคำยังเป็นบวก ทองคำจะได้รับผลดีโดยเฉพาะกลุ่มเครื่องประดับดังนั้นในระยะสั้นราคาทองคำถูกขับเคลื่อนโดยความเสี่ยงของตลาดการเงิน ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ และการปฎิรูปเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวความต้องการทองคำได้รับแรงหนุนจากชนชั้นกลางที่มีความมั่งคั้งขึ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

11/02/2562

เปลี่ยน “ทองแดง” เป็น “ทองคำ”


นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) ในมณฑลเหลียวหนิง ประสบความสำเร็จอีกขั้นเมื่อสามารถเปลี่ยน “แร่ทองแดง” ให้กลายเป็นแร่ชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ “ทองคำ” มากที่สุดได้เป็นครั้งแรก วารสารด้านวิทยาศาสตร์ "Science Advances11” ตีพิมพ์เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมาถึงวิธีการ เปลี่ยน “ทองแดง” ให้สามารถกลายเป็นวัสดุที่มีความคล้าย “ทองคำ” มากที่สุด ได้เป็นผลสำเร็จ รายงานระบุว่า ศาสตราจารย์ซุนเจียน และทีมวิจัยของเขาที่สถาบันฟิสิกส์เคมีแห่งต้าเหลียน ได้ใช้วีธีการยิงแร่ทองแดงด้วยไอพ่นของก๊าซอาร์กอนร้อนที่มีประจุไฟฟ้า อนุภาคที่แตกตัวเป็นอิออนที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั้น จะระเบิดอะตอมทองแดงออกจากเป้าหมาย เมื่ออะตอมเย็นตัวลงและควบแน่นบนพื้นผิวของวัสดุทำให้เกิดชั้นทรายบาง ๆ โดยทรายแต่ละเม็ดมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่นาโนเมตรหรือขนาดเพียงหนึ่งในพันของแบคทีเรียเท่านั้น จากนั้นทีมนักวิจัยนำวัสดุทรายนี้ไปทำปฏิกิริยาและใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเปลี่ยนถ่านหินเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการทางเคมีที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนที่รายงานไม่ได้ระบุในรายละเอียดเนื่องจากเป็นความลับ ผลลัพธ์ของขั้นตอนเหล่านี้คือได้วัสดุที่คล้ายกับทองคำมากที่สุด โดยมีลักษณะความมันวาวและน้ำหนักที่คล้ายกับทองคำ แต่ยังมีความหนาแน่นและการคงทนความกัดกร่อนเช่นเดียวกับทองแดงซึ่งการค้นพบครั้งนี้จะช่วยลดการใช้โลหะหายากราคาแพงในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมากปัจจุบันโลหะมีค่ามีความสำคัญและยังคงเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจสมัยใหม่ เช่น ใช้เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ประกอบด้วยทองคำ เงิน และแพลตตินั่มจำนวนมาก ซึ่งทองแดงไม่สามารถทำงานได้เช่นเดียวกับทองคำในงานอุตสาหกรรมโดยส่วนใหญ่ เพราะมีอิเล็กตรอนน้อยกว่า อนุภาคในอะตอมมีประจุลบเป็นต้น แต่ด้วยความที่อิเล็กตรอนเหล่านี้ค่อนข้างเสถียร ดังนั้นทองแดงจึงมีแนวโน้มที่จะตอบสนองได้ง่ายขึ้นเมื่อไปรวมกับสารเคมีอื่น ๆ ซึ่งกระบวนการใช้ทองแดงแทนทองคำนี้ จะช่วยลดต้นทุนการผลิต เป็นหนทางสนับสนุนที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมจีนในอนาคตกระบวนการแปลงทองแดงเป็นทองคำนี้ยังไม่สามารถทดแทนทองคำตามธรรมชาติได้ แต่มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำที่ดีกว่าทองแดง แต่ก็ยังคงด้อยกว่าทองคำแท้ๆ ซึ่งวิธีการดังกล่าวสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมด้านต่างๆที่ต้องใช้วัสดุทองคำในการผลิตโดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี "มันเป็นเหมือนนักรบที่มีเกราะทองคำในสนามรบ ที่สามารถต้านทานการโจมตีของศัตรู" คือบทสรุปที่ทีมนักวิจัยฯจีนได้กล่าวไว้เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

11/02/2562

โซ่ทองคำ


ต้นไม้หลายชนิดทั้งที่มีถิ่นกำเนินในประเทศไทย และที่นำเข้ามาจากต่างประเทศส่วนมากจะตั้งชื่อให้ไพเราะและเป็นสิริมงคลกับผู้ปลูก โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีดอกสีเหลืองสวนมักจะมีคำว่า “ทอง” หรือ “ทองคำ” หรือที่มึวามหมายว่าทองอยู่ในชื่อนั้นๆด้วยเช่น ทองอุไร ทองประกายแสด ทองพันชั่ง สร้อยทอง ทองหลาง และ โซ่ทองคำ เป็นต้น "โซ่ทองคำ" เป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศบราซิล ถูกนำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับและขยายพันธุ์ขายในประเทศไทยนานหลายปีแล้ว มีดอกสีเหลืองทองสวยงาม ภาษาอังกฤษเรียกว่า GLODEN CHAIN จึงเรียกเป็นภาษาไทยว่า โซ่ทองคำ หรือ สร้อยสุวรรณโซ่ทองคำ เป็นไม้พุ่มยืนต้น สูง 3.5-5 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแน่น ใบรีมีขนาดใหญ่ ปลายและโคนใบแหลมเนื้อใบค่อนข้างหนาและแข็ง สีเขียวสด เป็นใบเดี่ยว เวลาใบดกจะเป็นพุ่มทึบให้ร่มเงาดีมากนิยม จึงนิยมปลูกเป็นซุ้มโค้งเพื่อความร่มรื่นและให้ดอกห้อยระย้าสวยงามดอกของโซ่ทองคำ ออกเป็นช่อคล้ายคลึงกับดอกมะคาเดเมีย เพราะมีลักษณะดอกห้อยระย้า และมีสีเหลืองทองเหมือนกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าลักษณะของดอกย่อยมีความแตกต่างกัน โดยดอกของ มะคาเดเมีย จะมีเกสรตัวผู้เป็นฝอยยื่นยาวโผล่พ้นกลีบดอกออกมาอย่างชัดเจน แต่ดอกย่อยของโซ่ทองคำ เกสรตัวผู้จะสั้นไม่โผล่พ้นกลีบดอก ดอกโซ่ทองคำจะออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ตามซอกใบใกล้ปลายยอด ช่อดอกยาวประมาณ 50-80 ซม. แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมากเรียงเบียดกันเป็นระเบียบตั้งแต่โคนช่อไปจนจดปลายช่อ ดอกจะทยอยบาน เป็นสีเหลืองทอง ยิ่งต้นโตหรือมีอายุมากขึ้น ดอกก็ยิ่งจะดกมากยิ่งขึ้นตามอายุของต้นไปด้วย ปัจจุบันโซ่ทองคำ มีต้นขายตามตลาดไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป ปลูกได้ในดินทั่วไป เป็นไม้ชอบแดด แต่ไม่ทนต่อสภาพนํ้าท่วมขัง เหมาะจะปลูกเป็นไม้ประดับในบริเวณบ้าน หรือปลูกเพื่อสร้างภูมิทัศน์ตาม ริมถนน สวนสาธารณะ รีสอร์ตและเชิงเขาทั่วไปขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหลังปลูก ระยะแรกต้องดูแลเอาใจใส่ ด้วยการรดนํ้าบำรุงปุ๋ยอย่างสมํ่าเสมออย่างน้อยเดือนละสองครั้ง จนกว่าต้นจะแตกยอดและสามารถเติบโตได้เอง ลักษณะพิเศษเฉพาะอีกอย่างหนึ่งของโซ่ทองคำคือ เป็นไม้เจริญเติบโตเร็วดูแลง่าย เมื่อมีดอกเป็นช่อจะดูเหลืองอร่ามสวยงามมาก เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ ในญี่ปุ่น-UAE ปี2019


สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และญี่ปุ่น เป็น 2 ประเทศที่มีความสำคัญต่อการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับในทวีปเอเชียนอกเหนือจากจีน และอินเดีย ซึ่งเครื่องประดับทองคำยังคงได้รับความนิยมในทั้งสองประเทศ แต่มีรูปแบบและดีไซด์แตกต่างกันสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นอกจากจะเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่เพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางแล้ว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังเป็นตลาดผู้บริโภคเครื่องประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกด้วย ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บริโภคเครื่องประดับทองมากที่สุดในกลุ่มของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นตลาดผู้บริโภคเครื่องประดับทองรายใหญ่ใน 5 อันดับแรกของโลก โดยนิยมซื้อชิ้นงานขนาดใหญ่ด้วยลวดลายสไตล์อาหรับ และมีแนวโน้มต้องการบริโภคเครื่องประดับเพชร และเครื่องประดับแพลทินัมมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในดูไบ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จำนวนมาก จึงมีความต้องการบริโภคเครื่องประดับที่ทันสมัย และมีดีไซน์ที่หลากหลายมากขึ้น ในปี 2018 ตลาดค้าอัญมณีและเครื่องประดับในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ค่อยสดใสนัก เนื่องจากผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตได้ไม่ดีนัก และความขัดแย้งกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้งรัฐบาลได้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 5 และมีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอัตราร้อยละ 5 อย่างจริงจังจากเดิมที่เคยผ่อนปรนมาโดยตลอด ปัจจัยต่างๆเหล่านี้คาดว่าจะส่งผลลบต่อความต้องการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อเนื่องมาถึงปี2018 ญี่ปุ่นตลาดเครื่องประดับของญี่ปุ่นในปี2018 ฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการภายในประเทศเพิ่มขึ้น และยังมีปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย ประมาณการว่าตลาดสินค้าเครื่องประดับและสินค้าหรูของญี่ปุ่นในปี 2018 ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ราวร้อยละ 1.30 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หรือมีมูลค่าอยู่ที่ราว 960 พันล้านเยน หรือประมาณ 8.46 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ประกาศปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 10 แล้ว และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม2019 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้สินค้าเครื่องประดับมีราคาแพงขึ้น อาจทำให้ความต้องการบริโภคเครื่องประดับในตลาดญี่ปุ่นให้ลดลงได้ ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบเครื่องประดับทำด้วยมือแนวน่ารัก โดยนำตัวการ์ตูนญี่ปุ่นและวัฒนธรรมของเอเชียมาเป็นลวดลายของเครื่องประดับเครื่องประดับ เป็นเครื่องประดับชิ้นเล็ก น้ำหนักเบา สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และนิยมทำจากทองคำ เงิน แพลทินัม และเครื่องประดับเพชรเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ ในจีน-อินเดีย 2019


ประเทศจีนและอินเดีย เป็นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของเอเชีย โดยเครื่องประดับทองยังคงได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปีที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างมากเนื่องจากการ พัฒนาเศรฐกิจของประเทศ และจะยังคงเป็นปัจจัยหลักผลักดันตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของเอเชียให้เติบโตต่อไปในอนาคตประเทศอินเดียเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ความต้องการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียในช่วงปีที่ผ่านมาถูกขับเคลื่อนจากชนชั้นกลางที่มีจำนวนมากขึ้นและรายได้เพิ่มขึ้นตามการพัฒนาเศรฐกิจของประเทศ และจะยังคงเป็นปัจจัยหลักผลักดันตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียให้เติบโตต่อไปในอนาคต จากรายงานของ India Brand Equity Foundation (IBEF) พบว่า ปัจจุบันตลาดอัญมณีและเครื่องประดับอินเดียมีมูลค่าราว 75 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี2025 โดยชาวอินเดียส่วนใหญ่นิยมซื้อเครื่องประดับทอง ทั้งเพื่อการลงทุนเก็งกำไรและแสดงสถานะทางสังคม ส่งผลให้อินเดียเป็นประเทศที่มีการบริโภคทองคำมากเป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากจีน) ซึ่งมีการบริโภคทองคำเฉลี่ยปีละ 849 ตัน และส่วนมากเป็นการนำทองคำมาผลิตเป็นเครื่องประดับทองเพื่อจำหน่ายในประเทศและอีกส่วนหนึ่งส่งออกต่างประเทศสำหรับแนวโน้มการซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอินเดียนั้นเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากการรับไลฟ์สไตล์แบบตะวันตกมากขึ้นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ทำให้เครื่องประดับที่มีความทันสมัยและดีไซน์ที่หลากหลายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากเครื่องประดับทองที่ได้รับความนิยมสูงสุดแล้ว เครื่องประดับแพลทินัม เครื่องประดับเพชร และอัญมณีต่างๆ ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วยประเทศจีน เป็นผู้บริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ โดยมีสัดส่วนราวร้อยละ 30 ของการบริโภคเครื่องประดับของโลก ในปี 2018 ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของจีนเติบโตได้ในแนวบวก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องประดับแบรนด์เนม โดยคาดการณ์ว่าในปีที่ผ่านมารายได้จากเครื่องประดับหรูในจีนมีมูลค่าราว 14.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าราวร้อยละ 1.1สำหรับแนวโน้มตลาดอัญมณีและเครื่องประดับจีนในปี2019 อาจมีแนวโน้มลดลง การบริโภคเครื่องประดับกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการบริโภคเครื่องประดับทอง โดยเฉพาะเครื่องประดับทอง 24 กะรัต เพื่อเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์และแสดงสถานะทางสังคม ปัจจุบันชาวจีนมีแนวโน้มซื้อทองคำแท่งเพื่อการลงทุนเก็งกำไรมากขึ้น และชาวจีนรุ่นใหม่นิยมเครื่องประดับทองลวดลายสมัยใหม่มากกว่ารูปแบบเรียบง่ายหรือแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ เครื่องประดับแพลทินัม และเครื่องประดับตกแต่งอัญมณี ยังมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยอัญมณีที่ชาวจีนชื่นชอบนำมาประดับตกแต่งเป็นเครื่องประดับ ได้แก่ เพชร ทับทิม แซปไฟร์ หยก ไข่มุก อำพัน และโทแพซ อีกทั้งชาวจีนยังมีแนวโน้มซื้อสินค้ามีแบรนด์ เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการสั่งผลิตสินค้าตามคำสั่งของลูกค้า โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการดีไซน์และเลือกวัสดุประกอบต่างๆ ด้วยตนเอง ทำให้สินค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งรูปแบบนี้จะเป็นที่นิยมมากขึ้นในอนาคตเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ อเมริกา-ยุโรป 2019


ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนีและหลายประเทศในยุโรป ในปีที่ผ่านมาขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งเครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงินชุบทอง และเครื่องประดับแพลทินัม ยังคงได้รับความนิยมแต่ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ของผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งในปี2018ที่ผ่านมา การขยายตัวของตลาดค่อนข้างดี เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ประมาณการยอดขายเครื่องประดับในสหรัฐฯเมื่อปีก่อนว่าอยู่ที่ราว 68 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี2017สำหรับในปี2019 นี้ ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการเติบโตในอัตราลดลง เช่นมาตรการกีดกันทางการค้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือIMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปี2019 จะขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 2.5 ลดลงร้อยละ 0.4 จากปีก่อน ส่วนการซื้ออัญมณีและเครื่องประดับของชาวสหรัฐฯ นั้น นอกจากจะให้ความสำคัญกับรูปแบบที่มีเอกลักษณ์และมีเรื่องราวแล้ว ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงการทำธุรกิจโดยปราศจากคอร์รัปชั่น โปร่งใส ไม่เอาเปรียบแรงงาน มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ก็จะทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดสหรัฐฯ ได้สหราชอาณาจักรในรอบปี 2561 ที่ผ่านมาตลาดเครื่องประดับในสหราชอาณาจักรค่อนข้างซบเซา เนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากเศรษฐกิจชะลอตัวจากการออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคลดลง แต่กลุ่มที่มีกำลังซื้อก็ยังคงใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องประดับอยู่บ้าง ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Statista ประมาณการว่ายอดขายในตลาดเครื่องประดับของสหราชอาณาจักรในปี2018อยู่ที่ราว 3.29 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับปี2017 ซึ่งสถานการณ์นี้จะส่งผลกรทบต่อความต้องการซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของชาวสหราชอาณาจักรไปอีก2-3 ปี รูปแบบเครื่องประดับที่ชาวสหราชอาณาจักรนิยมคือ เครื่องประทองสีเหลืองและเครื่องประดับเงินชุบทองสีเหลือง 18 กะรัต ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเมแกน มาร์เกิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่สวมใส่เครื่องประดับทองสีเหลืองออกงานบ่อยๆ รวมถึงแหวนหมั้นสีทองของเจ้าชายแฮรี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และคาดว่าเครื่องประดับทองสีเหลืองจะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องในปี2019 ส่วนทางด้านดีไซน์นั้น ชาวสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มต้องการเครื่องประดับที่มีดีไซน์แปลกเก๋ ในราคาที่เข้าถึงได้เยอรมนีในปี 2561 เศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้นทำให้ ตลาดเครื่องประดับเยอรมนีขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น เครื่องประดับที่ได้รับความนิยมได้แก่ เครื่องประดับทอง เครื่องประดับแพลทินัม และเครื่องประดับเพชร ในขณะที่เครื่องประดับเงินชะลอตัวลงเล็กน้อย ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Statista ประมาณการว่ายอดขายเครื่องประดับในตลาดเยอรมนีในปี2018 อยู่ที่ราว 4.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าราวร้อยละ 1.3 สำหรับในปี2019 การค้าเครื่องประดับในเยอรมนีจะได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจ คาดว่ายังอยู่ในสภาพดีและขยายตัวต่อไปได้ปัจจุบันผู้บริโภคชาวเยอรมันนิยมซื้อเครื่องประดับที่มีความเป็นยูนิค มีคุณภาพสูง ชิ้นงานต้องมีลวดลายละเอียด สวยงาม และประณีตโดยเฉพาะสินค้าทำด้วยมือจะได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงเครื่องประดับที่ใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ชิ้นงานจนแตกต่างและมีความเป็นเอกลักษณ์ และผู้บริโภคชาวเยอรมันยังมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตร ใส่ใจต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

เคสโทรศัพท์ทองคำ


ปัจจุบันมีการนำทองคำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตเครื่องประดับ อย่างหลากหลายมากขึ้นนอกเหนือจากสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไล ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็ทีกระดุมทองคํา แว่นตาทองคำ รวมถึงเคสมือถือทองคำเป็นต้นเคสมือถือทองคำเป็น เครื่องประดับแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่า โทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั้นถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนในยุคสมัยนี้ไปแล้ว ดังนั้นจึงมีผู้ผลิตที่มองเห็นกระแสความนิยมในการนําทองคำมาเป็นส่วนประกอบของเคสโทรศัพท์ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มความหรหูรามีระดับและทำให้เป็นเครื่องประดับชิ้นพิเศษ ของผู้มีไว้ครอบครอง ซึ่งมาพร้อมกับความทันสมัย ดีไซด์สวยงาม ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว เคสมือถือทองคํา ผลิตออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทีมีกำลังซื้อสูง ต้องการความหรูหรา และเพื่อแสดงสถานะทางสังคม เพราะเคสมือถือที่ผลิตขึ้นมีราคาค่อนข้างสูง และมีมีรูปแบบที่หลากหลายหลุดกรอบของเคสโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วๆไป เช่น เคสรุ่น Anita Mai Tan Dragon and Spider iPhone Case ราคา 880,000 เหรียญดอลลาร์ เคสมือถือลายมังกรและแมงมุมของแบรนด์ Anita Mai Tan เป็นแบรนด์ของชาวแคนาดา ซึ่งมีราคาสูงสูงถึง 28 กว่าล้านบาท ประกอบด้วยอัญมณีหลายชนิด ได้แก่เพชร ทับทิม แซฟไฟร์ มรกต และซาโวไรท์การ์เนต (อัญมณีชนิดหนึ่งที่มีสีเขียวคล้ายมรกต แต่มีเนื้อพลอยที่สะอาดมากกว่ามรกต และเป็นที่นิยมในตลาดโลก) เคสลายมังกรนี้ นั้นประกอบไปด้วยเพชร 2,200 เม็ด น้ำหนักรวม 32 กะรัด ส่วนเคสลายแมงมุมทําจากทองคํา 18K หรือ ทองคําบริสุทธฺ 75 % และเพชรอีก 2,800 เม็ด หนักรวม 38 กะรัต เคสเหล่านี้เป็นงานแฮนด์เมด 1 ชิ้นใช้เวลาในการผลิตประมาณ 1 ปีกับ 4 เดือน และมาพร้อมกับสร้อยคอสวยงามเคสรุ่น Miansai Solid Gold iPhone Case ราคา 10,000 เหรียญดอลลาร์ เป็นเคสมือถือที่ทำจากทองคำทำ14K หรือ ทองคําบริสุทธิ์ 58 % เป็นแบรนด์ Miansai ของชาวอเมริกัน มีราคาประมาณ 3 แสนกว่า บาท จะรับผลิตตามลูกค้าสั่งเท่านั้นและไม่มีการสต็อกสินค้า เคสทุกชิ้นจะมีรหัสประจำมีการผลิตออกมา 2 สีคือ Yellow Gold (ทองสีเหลือง) และ Pink Gold (ทองสีชมพู) โดย 1 ชิ้นใช้เวลาผลิตประมาณ 2 สัปดาห์เนื่องจากเคสมือถือแบรนด์ต่างชาติมีราคาสูงมากเพราะชิ้นงานเป็นทองคําจริงทั้งชิ้น บริษัท Sure Life Telecom ของไทยจึงเล็งเห็นถึงความต้องการของคนไทยและช่องว่างทางการตลาดจึงได้นําเข้าแบรนด์ Gold Elite Paris ที่มีการผลิตสมาร์ทโฟนสั่งทําพิเศษ และมีความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างแฟชั่น จิวเวลรี่และไอทีไว้ด้วยกัน แต่ใช้การชุบทองคํา24K (ทองคําบริสุทธิ์99.99%) บนผิวโลหะแทนการผลิตด้วยทองคํา มีราคาเคสพร้อมเครื่องเริ่มต้นที่ 159,000 บาท มีให้เลือก 3 แบบคือ Yellow Gold (ทองสีเหลือง) White Gold (ทองสีขาว) และ Pink Gold (ทองสีชมพู) ซึ่งแต่ละแบบก็มีชื่อรุ่นเรียกเฉพาะ เช่น ทองสีเหลือง เรียกว่า อัลติเมตัม โกลด์ (Ultimatum Gold) ทองสีขาว เรียกว่า มาร์เวลัส ไวท์(Marvelous White) และ ทองสีชมพูเรียก เวโรนิกา พิงค์ (Veronica Pink)เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

เมืองนคร ศูนย์กลางการค้าเครื่องประดับของภาคใต้


นครศรีธรรมราชเป็นทั้งแหล่งผลิตและค้าเครื่องประดับที่สำคัญของภาคใต้ โดยเฉพาะเครื่องถมทอง เครื่องเงินและแหวนหัวนะโม ที่ผลิตจากฝีมือช่างชาวนครซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งฝีมือ ความสวยงาม ประณีต จนรับการขนานนามว่าเป็น “นครหัตถศิลป์” เนื่องจากเต็มไปด้วยงานหัตถกรรมชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์เป็นภูมิปัญญาของช่างประจำท้องถิ่นที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานานหลายร้อยปี นครศรีธรรมราชจึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าเครื่องประดับที่สำคัญของภาคใต้ โดยมีร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องประดับประมาณ 30 ร้าน ซึ่งมีทั้งร้านที่จำหน่ายเครื่องถม เครื่องเงิน และร้านทองตู้แดง โดยร้านค้าส่วนใหญ่มักวางจำหน่ายทั้งเครื่องถม เครื่องเงิน และเครื่องประดับทองคำ ควบคู่กันไป เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้า สนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ทั้งนี้เพราะเครื่องถม เป็นงานหัตถกรรมชั้นสูงที่มีขั้นตอนและการผลิตค่อนข้างยากทำให้มีราคาสูง อีกทั้งยังมีรูปแบบที่คงความดั้งเดิมเอาไว้ จึงตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เฉพาะกลุ่ม เช่นผู้มีกำลังซื้อหรือผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะจริงๆ ขณะที่เครื่องเงินมีความได้เปรียบด้านรูปแบบที่ร่วมสมัยกว่า และมีหลายระดับราคาให้เลือกซื้อ ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น ทำให้สามารถเจาะตลาดผู้บริโภคได้หลายกลุ่มและหลายช่วงวัย ส่วนเครื่องประดับทองก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในช่างเวลานั้นๆปัจจุบันผู้ประกอบการจังหวัดนครศรีธรรมราชเน้นทำการตลาดภายในประเทศ ผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ การวางจำหน่ายหน้าร้านขายเครื่องประดับ ร้านทองตู้แดง ผ่านช่องทางออนไลน์ งานแสดงสินค้าในประเทศ และขายส่งให้แก่ตัวแทนจำหน่ายที่มารับซื้อแล้วนำไปขายต่อยังจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ ได้แก่ สงขลา พังงา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต เป็นต้น สำหรับการวางจำหน่ายผ่านทางหน้าร้านพบว่าลูกค้าเป้าหมายมีทั้งคนในพื้นที่ นักสะสม และนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเลือกชมและซื้อสินค้าโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายมักส่งเสริมการขายโดยการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าและเน้นสร้างบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นกันเองเพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้า ได้ย่านการค้าเครื่องประดับของนครศรีธรรมราชมีอยู่ 3 แหล่ง ซึ่งตั้งอยู่ในละแวกที่ไม่ห่างจากกันมากนัก โดยถือว่ายังอยู่ในบริเวณที่เป็นใจกลางเมืองทำให้มีผู้แวะเวียนและสัญจรไปมาอยู่เสมอ ได้แก่บริเวณถนนท่าช้าง หรือ ถนนสายหัตถกรรมท่าช้า จัดเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องถม เครื่องเงินและสร้อยสามกษัตริย์ บริเวณถนนหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ส่วนใหญ่นอกจากจะจำหน่ายเครื่องถม และเครื่องเงินแล้ว ยังจำหน่ายตลับพระ และวัตถุมงคลควบคู่ไปด้วยและบริเวณตลาดท่าม้าส่วนใหญ่จำหน่ายทองคำรูปพรรณหรือที่เรียกว่าร้านทองตู้แดงซึ่งสั่งซื้อมาจากย่านเยาวราช โดยบริเวณดังกล่าวแม้จะไม่ค่อยมีสินค้าอัตลักษณ์อย่างเครื่องถมวางจำหน่าย แต่ก็เป็นย่านการค้าสำคัญที่มีผู้บริโภคแวะเวียนมาซื้อทองอยู่เสมอ ซึ่งจะมีบรรยากาศคึกคักมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ(ทองคำ) ปี2019


การค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกในปี 2018 ที่ผ่านมาค่อนข้างสดใสตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้มีกลุ่มชนชั้นกลางขยายตัวเพิ่มขึ้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงขึ้น ประกอบกับราคาวัตถุดิบในภาพรวมปรับตัวในแนวลบไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน และแพลทินัมจึงทำให้เครื่องประดับมีราคาไม่สูงมากนัก นอกจากนี้ผู้ผลิตจำนวนไม่น้อยต่างก็หันมาพัฒนาสินค้าโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิตและดีไซน์สินค้าที่หลากหลายขึ้น มีรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ResearchAndMarkets.com ประมาณการณ์ว่าตลาดอัญมณีและเครื่องประดับโลกในปีที่ผ่านมาขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนในปี2019 นี้คาดการณ์ว่าตลาดการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกจะเผชิญกับความท้าทายและมีปัจจัยที่ท้าทายอื่นๆโดยเฉพาะปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกทั้งนี้ก็เพราะอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย(ยกเว้นเครื่องประดับทอง)ยอดขายของสินค้ามักขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ฉะนั้น ปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไม่ว่าจะในแง่ลบหรือบวกก็จะส่งผลต่อความต้องการบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับในทิศทางเดียวกัน สำหรับปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกในปี2019 นอกจากการกีดกันทางการค้า การออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) และการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศสำคัญของโลกแล้ว ยังมีปัจจัยจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หากผู้ประกอบกิจการไม่สามารถผลิตสินค้าได้สอดคล้องกับความต้องการหรือดึงดูดใจผู้บริโภคได้ก็จะทำให้ขายสินค้าได้ยากมากขึ้นด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและพึ่งพาโซเชียลมีเดียมากขึ้น เช่นเมื่อต้องการจะซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่งก็มักจะหาข้อมูลสินค้าจากอินเทอร์เน็ตก่อนการตัดสินใจซื้อและซื้อสินค้าที่อยู่ในกระแสหรือมีการแชร์ประสบการณ์การซื้อ/การใช้สินค้านั้นๆจากลูกค้ารายอื่นๆ รวมถึงสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นหากผู้ประกอบการตามกระแสความต้องการของลูกค้าไม่ทัน และไม่เพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ รวมถึงให้ข้อมูลของสินค้าไม่เพียงพอ ก็จะทำให้สินค้าที่ผลิตออกมามีโอกาสค้างสต๊อกได้มากนอกจากนี้ อิทธิพลของเทคโนโลยียังทำให้คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจซื้อสินค้าจำพวกเทคโนโลยีและแกดเจ็ตต่างๆมากกว่า รวมถึงการใช้จ่ายเงินเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตโดยการท่องเที่ยวมากกว่าการซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เหล่านี้นับเป็นปัจจัยท้าทายของผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่จะต้องจับตาและปรับตัวพัฒนาสินค้าให้มีความโดดเด่นและดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้มากขึ้น ปัจจุบันเราจึงเห็นผู้ประกอบการร้านทองเปิดตลาดผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นทางหนึ่งที่ทำให้สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์การค้าที่มีการแข่งขันกันอย่างทุกวันนี้ เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

04/02/2562

แบงก์ชาติทั่วโลกทิ้งดอลล่าห์ตุนทอง


สภาทองคำโลก (WGS) รายงานสรุปยอดซื้อสะสมทองคำของธนาคารทั่วโลกประจำปี 2018 ว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปี ทั้งนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองระหว่างประเทศลง สภาทองคำโลกระบุว่า ในปี 2018 ธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกได้ซื้อทองคำสุทธิไปจำนวน 651.5 ตัน โดยเพิ่มขึ้น 74% จากปี 2017 ซึ่งในปีดังกล่าวธนาคารกลางต่างๆได้ซื้อทองคำสุทธิรวมกันเพียง 375 ตันเท่านั้น สภาทองคำโลกคาดการณ์ว่า ขณะนี้ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำในทุนสำรองรวมกันเกือบ 34,000 ตัน โดยธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เป็นธนาคารกลางซึ่งถือครองทองคำมากที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 3 ใน 4 ของทุนสำรองเงินตราของสหรัฐ ทั้งนี้ ธนาคารกลางต่างๆได้ซื้อทองคำในปีที่แล้วคิดเป็นปริมาณมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2510 และเป็นปริมาณมากที่สุดนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันตัดสินใจยกเลิกระบบผูกติดค่าเงินดอลลาร์กับทองคำในปี 1971 สภาทองคำโลกยังเปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาราคาทองในตลาดสปอตซึ่งอยู่ที่ระดับ 1,321.15 ดอลลาร์/ออนซ์ ธนาคารกลางทั่วโลกที่กว้านซื้อทองคำนี้คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 8.44 แสนล้านบาท โดยธนาคารกลางรัสเซียได้ซื้อทองคำมากที่สุดในปีที่แล้ว หลังจากที่ได้ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจนเกือบหมดในทุนสำรอง และได้หันมาซื้อทองคำจำนวน 274.3 ตัน ส่วนธนาคารกลางอื่นๆที่ได้ซื้อทองคำจำนวนมากในปีที่แล้ว ได้แก่ ตุรกี คาซัคสถาน อินเดีย อิรัค โปแลนด์ และฮังการี ปัจจุบันรัสเซียมีทองคำสำรองอยู่ที่ 2,066 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์หรือราว 2.71 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ของทุนสำรองทั้งหมด รายงานของสภาทองคำโลกยังระบุว่า การซื้อทองคำเพิ่มของธนาคารกลางหลายแห่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 หลังร่วงหนัก 10% ในครึ่งปีแรก ซึ่งการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางจำนวนมากในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ พยายามกระจายทุนสำรองระหว่างประเทศออกจากสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังปรับตัวขึ้น โดยก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า สัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศในสกุลเงินดอลลาร์ของธนาคารกลางลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 ปี ในไตรมาส 3 ปี 2018ส่วนสถานการณ์ราคาทองคำในปี 2019 จะเป็นอย่างไรคงต้องจับตาดูกันต่อไป เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

03/02/2562

แม่น้ำสายทองคำ


แม่น้ำสายบุรีได้ชี่อว่าเป็นแม่น้ำสายทองคำแห่งด้ามขวานทองของไทยมีต้นกำเนิดจากยอดเขาต่างๆของแนวเทือกเขาสันกาลาคีรีที่กั้นชายแดนไทย- มาเลเซีย ได้แก่ เทือกเขาบาตูตาโมง เขาโต๊ะมูเด็ง เขาแคมาแรแต เขาบาเราะมาตอ เขาตีบุ เขากาลอ เขาลิจอ เขากูบากูลิง เขาบาเราะมาตอ เขาน้ำค้าง และเขาหินม้า มีความยาว ๑๘๖ กิโลเมตร ไหลผ่านอำเภอจะแนะ อำเภอศรีสาคร อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และไหลลงสู่ทะเลที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ลุ่มน้ำ ๔,๖๐๐ ตารางกิโลเมตร เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงพื้นที่ถึง 82 ตำบล 470 หมู่บ้าน บริเวณต้นน้ำแม่น้ำสายบุรีอยู่ในเขตอำเภอศรีสาคร อำเภอรือเสาะ และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาและป่าต้นน้ำ ตอนกลางของลุ่มน้ำเป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ในเขตอำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี และอำเภอรามัน จังหวัดยะลาตอนปลายลุ่มน้ำในเขตอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นที่ราบลุ่มและป่าชายเลนจากสายน้ำเล็กๆ บนเทือกเขาสันกาลาคีรีในหมู่บ้านโต๊ะโม๊ะ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ต้นน้ำสายบุรี พื้นที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยสำรวจพบว่ามีแร่ทองคำปริมาณมากติด 1 ใน 9 แห่งของแหล่งแร่ทองคำที่พบในประเทศไทยจนนำไปสูการ ให้สัมปทานแก่ชาวฝรั่งเศสทำเหมืองแร่ทองคำที่ภูเขาโต๊ะโม๊ะ หรือที่รู้จักกันในชื่อเหมืองแร่โต๊ะโม๊ะนั่นเอง แต่หลังจากเกิดสงครามอินโดจีน กิจการเหมืองแร่ได้เลิกไปเนื่องจากไม่คุ้มทุน แม้ปัจจุบันเหมืองแร่จะเลิกไปแล้วแต่ชาวบ้านในพื้นที่แห่งยังคงร่อนทอง เป็นอาชีพเสริมหลังว่างจากการทำทำสวน หรือกรีดยางกันอยู่ โดยยังคงใช้วิธีร่อนทองแบบดั้งเดิมด้วยอุปกรณ์ร่อนแร่ที่เรียกว่า เลียง เป็นภาชนะที่ทำมาจากไม้คล้ายๆกะทะ ซึ่งทุกตารางนิ้วของพื้นทรายและก้อนดินในสายน้ำแห่งนี้ชาวบ้านยังพบทองคำ หรือที่เรียกว่าเศษทองอยู่กระจัดกระจายในแม่น้ำสายทองคำแห่งนี้ นอกจากเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งแร่ทองคำจนได้ชื่อว่าเป็นเม่น้ำสายทองคำแล้ว อีกนัยหนึ่งยังสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำสายบุรี ที่ช่วยหล่อเลี้ยงผู้คนตลอดสายน้ำ ที่ได้ใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และทำประมง ด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย และมีน้ำไหลตลอดปีแม่น้ำสายนี้จึงมีความสำคัญกับผู้คนที่สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะเรียกแม่น้ำสายบุรีว่าเป็น แม่น้ำสายทองคำเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

03/02/2562

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ


เครื่องอิสริยาภรณ์คือ เหรียญ และตรา อันเป็นเครื่องประดับยศของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร จากนั้นได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆที่มีราชวงศ์ทั่วโลก เครื่องอิสริยาภรณ์จากประเทศที่มีกษัตริย์เรียกว่าเครื่องราชอิสริยาภรณ์ส่วนประเทศที่ไม่มีกษัตริย์เรียกว่าเครื่องอิสริยาภรณ์ เครื่องราชอืริยาภารณ์ที่มีชื่อเสียงมากและมีความเก่าแก่คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ของประเทศ สเปน ถือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก รองลงมาจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ของอังกฤษ สถาปนาโดยฟิลิปที่ 3 ดยุกแห่งเบอร์กันดี (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ ฝรั่งเศส) เมื่อปีค.ศ. 1430 เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองความมั่งคั่งในการค้าขายในดินแดนฟลานเดอร์จนถึงสวิตเซอแลนด์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำ มี ลักษณะเป็นสร้อยคอ มีจี้เป็นรูปแกะทองคำ ร้อยอยู่กับสายสร้อย ที่มีลายเป็นรูปตัวบีอันหมายถึงแคว้นเบอร์กันดี และไม่มีการประดับเพชรพลอยใดๆเมื่อแรกสถาปนากำหนดอัตราของผู้ที่ได้รับไว้ 24 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 50 คนในปัจจุบัน มีเฉพาะคาร์ทอลิกหรือประมุขต่างประเทศเท่านั้นที่จะสามารถรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสหราชอาณาจักร ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1891 โดยสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ คำว่า Garter แปลว่า สายรัดถุงเท้าของสตรี โดยในสมัยนั้นยังยกย่องสตรีและสูงศักดิ์พอที่จะใช้เป็นชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ ส่วนการพระราชาทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ นั้นจะขึ้นอยู่พระบรมราชวินิจฉัย โดยสมาชิกของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้นจะถูกจำกัดอยู่เพียงพระมหากษัตริย์ เจ้าชายแห่งเวลล์ และสมาชิกประเภท สามัญอีกไม่เกิน 24 สำรับ ซึ่งยังไม่รวมถึงสมาชิกพิเศษ (ซึ่งไม่รวมใน 24 สำรับดังกล่าว) โดยพระราชทานให้กับสมาชิกแห่งพระราชวงศ์ และพระราชวงศ์ต่างประเทศพิธีพระราชทานนั้นจะกำหนดขึ้นในวันนักบุญจอร์จ (St. George's Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 23 เมษายน เนื่องจากองค์อุปถัมป์ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้คือนักบุญจอร์จ โดยมีเกณฑ์พระราชทานให้เฉพาะคริสต์ศาสนิกชนเท่านั้นเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

03/02/2562

ลดน้ำหนักแลกทองคำที่นครดูไบ


เด็กอ้วนดูจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ อเมริกา ยุโรปและหลายประเทศในย่านอาหรับ ภาครัฐจึงพยายามหามาตรการต่างๆมาจูงใจให้พ่อแม่และเด็กร่วมมือกันเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งมาตราการสร้างแรงจูงใจที่ฮือฮาไปทั่วโลกก็คือการแจกทองนั่นเองที่นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีการจัดโครงการ "Lose Weight, win gold" หรือโครงการ ลดน้ำหนักได้ทองคำ เพื่อรณรงค์ให้คนลดความอ้วน โดยมีการแจกรางวัลครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2014โครงการ Lose Weight Win Gold เป็นโครงการรณรงค์ให้คนหันมาลดน้ำหนัก เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมโครงการ แต่จะเน้นเด็กๆเป็นพิเศษ โดยเทศบาลนครดูไบเสนอจะมอบทองคำ 1 กรัม สำหรับน้ำหนักทุกๆ 1 กิโลกรัมที่ลดได้ แต่ก็มีข้อจำกัดว่าผู้เข้าร่วมจะต้องลดน้ำหนักได้อย่างน้อยขั้นต่ำ 2 กิโลกรัมขึ้นไป แต่หากใครที่ลดน้ำหนักได้มากกว่า 5 กิโลกรัมขึ้นไปพวกเขาจะได้รับทอง 3 กรัม/1 กิโลกกรัม แต่หากใครลดได้กว่า 10 กิโลกรัม ก็จะได้รับทองคำมากขึ้นไปอีก โดยผู้เข้าแข่งขัน 3 คน ที่ลดน้ำหนักได้มากสุด ก็จะได้รับเหรียญทองคำมูลค่าราว 5,454 ดอลลาสหรัฐฯ หรือกว่า 1 แสน 6 หมื่นบาทอีกด้วยผ่านการจับรางวัลโครงการนี้ มีผู้เข้าแข่งขันมากกว่า 12,000 คน อย่างไรก็ตามการรณรงค์ในครั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากลงชื่อเข้าร่วมโครงการโดยเทศบาลอนุญาตให้ครอบครัวที่มีลูก 2 คนที่อายุต่ำกว่า 13 ปี สามารถร่วมลงทะเบียนเป็นกลุ่มได้เพื่อกระตุ้นให้ทุกครอบครัวโดยเฉพาะเด็กๆเข้าร่วม เนื่องจากปัจจุบันมีรายงานเด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรการมากขึ้น ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคอ้วนในเด็ก เกิดจากการทานอาหารจานด่วน หรือฟาสต์ฟู้ด การรับประทานขนมหวานมากเกินไป และการขาดการออกกำลังกายสำหรับผู้ชนะที่ได้ทองคำไปมากที่สุดคือ สตรีชาวอินเดียที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 32 กิโลกรัม ภายใน 2 เดือนเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

03/02/2562

พระเจ้าอู่ทองคือใคร


เรื่องราวของ พระเจ้าอู่ทองผู้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเป็นราชธานีเป็นใคร มาจากไหน ไม่มีการบันทึกไว้อย่างแน่ชัด มีแต่ข้อสันนิฐานที่แตกต่างกันไป นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีจึงต้องค้นคว้าหาหลักฐานมาพิสูจน์กันว่า แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าอู่ทองเป็นใคร มาจากไหนกันแน่ บันทึกจากเรื่องเล่าที่เหมือนนวนิยายมากกว่าประวัติศาสตร์บอกว่าพระเจ้าอู่ทองสืบเชื้อสายมาจากจีน บ้างก็ว่ามาจากเขมร แต่ที่มาของพระเจ้าอู่ทองที่ได้รับความเชื่อถือกันมากที่สุดในยุคก่อนหน้านี้ เป็นแนวคิดของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเสด็จไปตรวจราชการเมืองสุพรรณบุรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๖ และได้ไปทอดพระเนตรเมืองอู่ทองทรงนิพนธ์ไว้ว่า“มีตำนานทางเมืองสุพรรณบุรีเชื่อถือกันมาจนทุกวันนี้ว่า เดิมพระเจ้าอู่ทองอยู่ทางเมืองสุพรรณบุรี เมืองของพระเจ้าอู่ทองก็ยังมีอยู่ริมแม่น้ำจระเข้สามพัน ในระหว่างเมืองสุพรรณบุรีทุกวันนี้กับเมืองกาญจนบุรี ข้าพเจ้าได้ไปถึงเมืองอู่ทองเมื่อปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๖๕ พ.ศ.๒๔๔๖ ได้เห็นเมืองโบราณมีเชิงเทินกำแพงเมืองใหญ่โต ความคิดเห็นเกิดแก่ข้าพเจ้าในครั้งนั้นว่า ที่เรียกในศิลาจารึกและหนังสือโบราณว่าเมืองสุพรรณภูมิหรือสุวรรณภูมินั้น จะหมายว่าเมืองอู่ทองนี้เอง มิใช่เมืองสุพรรณบุรีทุกวันนี้ที่ตั้งเมื่อภายหลังคำว่าสุวรรณภูมิเป็นภาษามคธ แปลว่าที่เกิดทองหรือที่มีทอง ในภาษาไทยก็ตรงกับคำว่าอู่ทอง เช่นที่พูดกันว่าอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะฉะนั้นชื่อเมืองอู่ทองนี้เป็นชื่อภาษาไทยของเมืองสุวรรณภูมินั้นเอง เมื่อคิดเห็นเช่นนี้ก็คิดเห็นตลอดไปว่าที่เรียกพระเจ้าอู่ทองนั้น เห็นจะไม่ใช่มาจากบรรทมเปลทองอย่างพงศาวดารว่าเป็นแน่แล้ว คงจะเป็นพระนามที่เรียกเจ้าผู้ปกครองเมืองอู่ทอง อย่างเราเรียกพระเจ้าเชียงใหม่ พระเจ้าน่าน เจ้าองค์ใดครองเมืองอู่ทองก็เรียกว่าพระเจ้าอู่ทองทุกองค์เพราะฉะนั้นพระเจ้าอู่ทองที่สร้างกรุงศรีอยุธยานี้ จะเป็นโอรสนัดดาสืบพระวงศ์มาแต่ผู้ใด และได้มีประวัติแต่เดิมมาอย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนจะมาสร้างกรุงศรีอยุธยา คงเป็นเจ้าครองเมืองอู่ทอง หรือที่เรียกในภาษามคธว่าเมืองสุวรรณภูมิอยู่ก่อนจริงดังตำนานเมืองสุพรรณความคิดอย่างนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนลงในรายงานตรวจราชการเมืองสุพรรณบุรี พิมพ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีมะเส็ง จุลศักราช ๑๒๖๗ พ.ศ.๒๔๔๘ ต่อมาสมาชิกในโบราณคดีสโมสรได้รับความคิดเห็นเช่นนี้ว่าเป็นถูกต้อง”อย่างไรก็ดีเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ กรมศิลปากรได้เชิญ ศาสตราจารย์ ช็อง บัว เซอริเยร์ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งมหาวิทยาลัยซอร์บอน ประเทศฝรั่งเศส มาช่วยสำรวจโบราณสถานในประเทศไทย และได้สรุปผลสำรวจไว้เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ว่า เมืองอู่ทองที่เชื่อกันว่าพระเจ้าอู่ทองอพยพหนีโรคห่ามาสร้างกรุงศรีอยุธยานั้น ได้เป็นเมืองร้างไปก่อนที่จะมีการสร้างกรุงศรีอยุธยาราว ๓๐๐ ปีมาแล้ว ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าอู่ทองจะอพยพมาจากเมืองอู่ทองต่อมามีนักวิชาการโบราณคดีหลายท่านได้ทำการศึกษาค้นคว้าเอกสารโบราณหลายฉบับ ลำดับเรื่องราวของเมืองอโยธยาศรีรามเทพนคร ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.๑๖๒๕ ว่ามีกษัตริย์ปกครอง ๑๐ พระองค์ ซึ่งพระองค์ที่ ๑๐ ก็คือ พระเจ้าอู่ทอง ครองราชย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๑๘๘๗ ก่อนจะย้ายราชธานีใน พ.ศ.๑๘๙๓จึงสรุปในขณะนี้ได้ว่า พระเจ้าอู่ทองไม่ได้มาไกลจากเมืองจีนหรือเขมร แต่เป็นกษัตริย์ที่ครองกรุงอโยธยาศรีรามเทพนคร ก่อนที่จะข้ามแม่น้ำมาสถาปนากรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ.๑๘๙๓ หากต่อไปพบหลักฐานใหม่ที่น่าเชื่อถือได้มากกว่านี้ ประวัติศาสตร์ก็ต้องเปลี่ยนความเชื่ออีกครั้ง เป็นเรื่องธรรมดาของการเชื่อถือกันด้วยหลักฐาน เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

03/02/2562

ตาเต็ง ตาชั่งทองโบราณ


หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ตราชู-ตาชั่ง”กันมาบ้างแล้ว คำนี้ประกอบด้วยคำว่า ตราชู กับ ตาชั่ง หมายถึงเครื่องชั่งน้ำหนักในสมัยโบราณ ตราชูไม่ใช่คำภาษาไทยแต่มาจากภาษาทมิฬว่าตราจุ เป็นชื่อเครื่องชั่งโบราณมีหลักฐานปรากฏเป็นภาพเขียนอยู่ในพีระมิดของอียิปต์ ทำเป็นรูปเครื่องชั่งมีหลักกลางห้อยลงมา ตามความเชื่อของอียิปต์เชื่อว่าคนตายแล้ว จิตวิญญาณจะต้องไปเข้าเครื่องชั่งเพื่อตรวจสอบความดีความชั่ว โดยใช้ขนนกเป็นลูกชั่ง ในคัมภีร์กุรอ่านกล่าวว่าพระอัลเลาะห์ได้มอบตราชูมาให้มนุษย์ใช้เพื่อความยุติธรรม คนไทยออกเสียงเป็นตราจุ ว่าตราชู หมายถึงความเที่ยงตรงไม่ลำเอียง คนอินเดียโบราณเรียกว่าตุลาเป็นภาษาสันสกฤต คำว่าตราชูและตุลน่าจะเข้ามาเมืองไทยพร้อมๆ กัน ในสมัยก่อนให้เด็กนั่งในสาแหรกข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งในผลไม้เผือก มัน ของกิน มักทำกันในวันเกิด และของที่นำมาชั่งนั้นให้เป็นของขวัญแก่เด็กนั่นเอง สำหรับคนไทยรู้จักการชั่งด้วยมือมาช้านาน เช่นเอาของใส่ในมือซ้ายและในมือขวา แล้วหยั่งหรือชั่งน้ำหนักของสองสิ่งนั้นว่าน้ำหนักเท่ากันหรือไม่ และเมื่อมีตราชูเข้ามาใช้ ไทยจึงเรียกสิ่งนั้นว่าตราชั่ง เพราะคล้ายกันกับชั่งด้วยมือ และกลายมาเป็นคำว่าตาชั่ง อย่างที่ใช้กันทุกวันนี้ตาชั่งมีหลายแบบ บางอย่างหาดูได้ยากแล้ว เช่น ตาชั่งจีนรูปร่างเป็นคันยาวมีลูกชั่งติดอยู่กับคันมีรอยขีดบอกอัตราน้ำหนัก จีนนำเอามาใช้แต่โบราณ ขนาดใหญ่ใช้ชั่งน้ำหนักมาก มีมาตราเป็นตำลึงจีน, ชั่งจีนถ้าเป็นตาชั่งจีนขนาดเล็กใช้ชั่งน้ำหนักน้อย มีมาตราเป็นหลี เป็นหุน เรียกกันว่า ตาเต็ง ที่คันชั่งมีรอยเป็นจุดๆ สำหรับนับแบ่งคล้ายกับเป็นตาของเต็ง ใช้ในการชั่งทอง เงิน และยาจีน สำนวนไทยว่า ไม่เต็มเต็ง และ เบาเต็ง หมายถึงคนบ้าๆ บอๆ ผิดธรรมดา ก็มาจากตาเต็งนี่เอง ตาชั่งฝรั่งคนไทยโบราณเรียกว่า ตาปอนด์ มีอยู่2 แบบ แบบหนึ่งเป็นแท่นใหญ่สำหรับวางของ ใช้สำหรับชั่งของที่มีน้ำหนักมาก อีกแบบหนึ่งเป็นตาชั่งหน้าปัดกลม มีเข็มหมุนไปตามขีดที่บอกอัตราน้ำหนัก ใช้สำหรับชั่งของที่มีน้ำหนักน้อย ทั้งสองแบบมีมาตราเป็นปอนด์ จึงเรียกกันว่าตาปอนด์ เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

แหวนแต่งงาน


แหวนแต่งงาน เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการแต่งงานที่ใช้แทนความรัก และคำสัญญาที่หญิงชายมอบให้กันในวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิต ดังนั้นการเลือกแหวนแต่งงานจึงเป็นภารกิจหลักของคู่รักที่ต้องใช้เวลาในการเลือกสรรด้วยความพิถีพิถัน ซึ่งแหวนแต่งงานก็มีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกัน ไม่ว่าจะทำด้วยทองคำ หรือประดับด้วยอัญมณีมีค่าต่างๆ ล้วนมีความหมายเกี่ยวข้องกับความรักซ่อนอยู่ทั้งสิ้นแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว เป็นแบบแหวนเพชรที่นิยมใช้ในการหมั้นหมาย เพชรเม็ดเดี่ยวสื่อถึงการรักเดียวใจเดียว และซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป โดยมากรู้จักกันในนามแหวนเพชรเม็ดชู ตัวเรือนเน้นความเรียบง่าย ส่วนมากทำจากทองคำขาว เพื่อให้เพชรโดดเด่นมากที่สุด แหวนเพชรรอบนิ้ว ลักษณะของแหวนเพชรรอบ หรือ infinity rings คือแหวนที่มีเพชรอยู่รอบๆนิ้ว ไม่มีจุดเริ่มต้น และไม่มีจุดสิ้นสุด หมายถึง ความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด เป็นเพชรเม็ดเล็กๆนำมาเรียงร้อยกันทั้งวงอย่างน่ารักสามารถสวมใส่ได้ทุกวัน แหวนเพชรสามเม็ดเรียง สื่อความหมายถึความรักที่อยู่เหนือการเวลา เพชรสามเม็ดเรียงกันบนตัวเงินที่ทำจากทองคำขาว หรือทองสีชมพู(pink gold) เป็นตัวแทนของ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต เป็นแหวนที่เหมาะสมกับสำหรับคู่รักกันมายาวนาน นิยมมอบให้แก่กันในวาระครบรอบแต่งงานมากกว่า แหวนทรงบ่าข้าง มีเพชรประธานตรงกลางมีเพชรประดับด้านข้างทั้งสองข้าง หมายถึงการสนับสนุนจากผู้ใหญ่เมื่อแต่งงานไปแล้ว ครอบครัวจะเจริญรุ่งเรือง สุขสบาย มีลูกหลานบริวารรายล้อมแหวนเกลี้ยง เป็นแหวนที่มีมาแต่โบราณ วงกลมอันเป็นตัวแทนของคำมั่นสัญญาว่าจะรักมั่นคงตลอดไป ส่วนใหญ่เจ้าบ่าวจะเป็นผู้สวมใส่เนื่องจากใส่ติดตัวได้ตลอดในชีวิตประจำวัน มีทั้งที่ทำจากทองคำ ทองk ทองคำขาว และแพลตตินั่มแบบแหวนสามวง หมายถึงพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามหลักศาสนาคริสต์ สื่อถึงความสามัคคี กลมเกลียวไม่แตกแยกออกจากกัน ความผูกพันที่มีต่อกันและกัน ซึ่งจะมีเพชรฝังอยู่กับตัวเรือนหรือจะไม่มีก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกแหวนแบบไหน ก็ไม่สำคัญเท่าความรักที่หญิงชายมอบให้แก่กัน ว่าจะมั่นคงและซื่อสัตย์ต่อกันแค่ไหน เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

แนวโน้มราคาทองคำปี 2019


Goldman Sachs วาณิชธนกิจที่ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ(สถาบันทางการเงินซึ่งทำหน้าที่ระดมเงินทุน, ซื้อขายหลักทรัพย์, บริหารการควบรวมและซื้อกิจการ รวมถึงให้คำปรึกษาในธุรกรรมข้างต้นและธุรกรรมทางการเงิน) คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำปี 2019 ว่าน่าจะไม่มีปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจมากนัก โดยมองว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,225 เหรียญ, 1,200 เหรียญ และ 1,225 เหรียญในช่วง 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปีตามลำดับ และจะปรับตัวขึ้นแตะ 1,375 เหรียญในช่วงสิ้นปี 2020สำหรับทัศนะของสถาบันการเงินต่างๆของสหรัฐฯที่มีต่อราคาทองคำตลอดปี 2019 มีดังนี้Bank of America Merrill Lynch : คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยที่ $ 1,296 ต่อออนซ์ แต่อาจสูงขึ้นถึงระดับสูงถึง $ 1,400 โดยได้แรงหนุนจากการขาดดุลการค้าและการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนHSBC : คาดการณ์ว่าราคาทองคำมี upside ในปี 2019 แต่ลดลงโดยเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้ที่ $ 1,292 ต่อออนซ์JPMorgan : คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง $ 1,400 ต่อออนซ์โลหะฐานที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกและลดลงในช่วงที่สองLombard Odier : สงครามการค้าและความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทำให้ราคาทองคำหรือน้ำมันพุ่งขึ้น โดยเฉพาะราคาทองคำMorgan Stanley : คาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าหมายความว่าเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อทองคำPimco : ยังคงมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มี Upside ระยะยาวSociete Generale : ราคาทองคำอาจลดลงจากนโยบายการเงินของสหรัฐฯในปี 2019State Street : การถือทองคำในพอร์ทการลงทุนอาจช่วยบรรเทาผลกระทบของความผันผวนของตลาดและ ทองคำยังสามารถเพิ่มพอร์ตการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนระยะยาวUBS :เราแนะนำให้พิจารณาซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง เราคิดว่าการลดลงต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์จะเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองแนวโน้มราคาทองคำในปี 2019 อยู่ในทิศทางที่ดีมาก เนื่องจากเป็นปีที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง อาทิ เบร็กซิต รวมถึงความเสี่ยงการกู้ยืมที่สูงในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำแพงขึ้น อย่างน้อยก็ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

ทองประกายแสด


ทองประกายแสด หรือ ช่อทองคำ หรือพวงทองคำ เป็นไม้พุ่มทรงสูง มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณทวีปอเมริกาใต้ปลูกกันทั่วไปในบราซิล เม็กซิโก ทรินิแด บาร์บาโดส เปรู คาดว่าเข้าสู่ประเทศไทยทางฟิลิปินส์ เพราะทองประกายแสดถูกนำเข้ามาฟิลิปปินส์กว่า100 ปีมาแล้วทองประกายแสด เป็นไม้ดอกไม้ประดับภายในสวนขึ้นได้แม้ดินจะไม่อุดมสมบูรณ์ หรือดินที่มีแต่หินปนทรายแต่ต้องระบายน้ำได้ดี เป็นไม้ทนแล้ง ชอบแดดเต็มวัน การขยายพันธุ์ใช้วิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่งและปักชำกิ่ง กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล หลังใบเป็นมัน ท้องใบมีขนเล็กเล็กๆ เหมือนกำมะหยี่ ยามที่ใบของต้องแสงแดดจะส่องประกายสีทองสวยงาม ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองส้มมีกลิ่นหอมอ่อนๆออกดอกทั้งปี ผลสุกมีสีเหลืองส้มสามารถรับประทานได้ ทั้งรับประทานสดๆหรือนำไปประกอบอาหารเป็นของคาวหรือของหวานก็ได้ เป็นผลไม้ที่มีไขมันสูงมาก หรือทำเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต้นทองประกายแสดเป็นไม้มงคล ที่เหมาะกับชาวราศีมังกร ปลูกไว้หน้าบ้านจะเป็นการเพิ่มโชคเพิ่มเสน่ห์เสริมดวง เพราะชาวราศีมังกรเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมีเสน่ห์ในตนเองและมีความกระตือรือร้น ทองประกายแสด ยังเป็นชื่อบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของ สุวรรณี สุคนธา เป็นเรื่องราวของ "ทองดี" หรือ ทองประกาย ที่มีความใฝ่ฝันถึงชื่อเสียง เงินตรา เกียรติยศ มีจุดกำเนิดจากเด็กสาวในร้านขายของชำ มุ่งสู่เมืองหลวง ที่เธอคิดว่ามีสิ่งดีๆ รออยู่ จากเสน่ห์และความสวยงามที่มี จึงมีผู้ชายมากมายเข้ามาในชีวิต เธอใช้พวกเขาเหล่านั้นเพื่อเป็นบันไดแห่งชีวิตสู่การเป็นคุณทองประกายที่เลิศหรูและร่ำรวย เปรียบเสมือนดอกทองประกายแสดที่ยามมีดอกชูช่ออวดสีสันสวยงามนวนิยายเรื่อง ทองประกายแสด ได้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ 2 ครั้ง และละครโทรทัศน์ 4 ครั้ง โดยผู้รับบท ทองประกาย ในภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2517 คือ วันทนา บุญบันเทิง และภาพยนตร์ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2531 คือ ชุดาภา จันทเขตต์ ส่วนผู้รับบททองประกายในละครโทรทัศน์ ได้แก่ รัชนี จันทรังษี, วิยะดา อุมารินทร์, ธัญญาเรศ รามณรงค์ และ สาวิกา ไชยเดชเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

ทองพันชั่ง


“ทองพันชั่ง”พืชทั้งพืชสมุนไพรและไม้มงคลที่คนไทยเรานิยมปลูกมานานแล้ว มีสรรพคุณโดดเด่นด้านการรักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน และมีฤทธิ์ต้านเชื้อราบนผิวหนังหรือบนศีรษะ ช่วยหยุดยั้งผมร่วงขณะเดียวกันก็ทำให้ผมดกดำ ทองพันชั่งเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็กบางครั้งเรียกทองคันชั่ง, หญ้ามันไก่,ทองพันคูลาย์, ผกาอ็อมบก และ ต้นดอกข้าวเม่า เป็นต้นไม้ทรงพุ่ม สูง 1-2 เมตร ส่วนโคนของลำต้นเป็นไม้เนื้อแข็งกิ่งอ่อนและลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยวรูปไข่ ยาว 4-6 เซนติเมตร กว้าง 2-3 เซนติเมตร โคนและปลายใบแหลม ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกสีขาวเชื่อมติดกันเป็นหลอด ออกผลเป็นฝัก ยาว มีขน ภายในฝักมี4เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ปลูกง่ายในดินทั่วๆไป ชอบความชุ่มชื้นสูง และแสงแดดจัดทองพันชั่ง เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนของต้นราก:รักษาโรคผิวหนัง แก้ผื่นคันเรื้อรัง แก้กลากเกลื้อน รักษาโรคมะเร็ง ดับพิษไข้ และแก้พิษงูต้น:บำรุงร่างกาย รักษาโรคผมร่วงใบ:ดับพิษไข้ แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน ไขข้ออักเสบ รักษาโรคผิวหนัง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง ถอนพิษ แก้อักเสบ ริดสีดวงทวาร ฆ่าพยาธิ บำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย แก้ปัสสาวะขัด และช่วยระบบกระเพาะอาหารทำงานดีขึ้น ต้น:รักษาโรคผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน แก้ผดผื่นคัน แก้น้ำเหลืองเสีย และแก้อาการปัสสาวะผิดปกติใบสดตำให้ละเอียดผสมน้ำมันก๊าซ ทาบริเวณผิวหนังที่มีอาการของโรคผิวหนังกลาก เกลื้อน วันละ 1 ครั้ง หรือตำราก 6-7 ราก ผสมกับหัวไม้ขีดไฟ 1/2 กล่อง ให้ละเอียดเติมน้ำมันใส่ผมหรือวาสลินเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ยาแห้งทาบริเวณผิวหนังบ่อยๆก็รักษาได้ใบทองพันชั่งตากแห้งใช้รักษาโรคเบาหวาน โดยบดเป็นผงละเอียดรวมกับสมุนไพรอื่นๆ ได้แก่ ใบชุมเห็ดไทย เมล็ดพริก ไทยร่อน เหงือกปลาหมอ ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน กินหลังอาหารครั้งละ 5 เม็ด ทุกวันเช้าเย็น นาน 1 เดือน ระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆลดลง ใบสดที่มีอายุไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปลดผมร่วง ทำให้ผมดกดำ ขจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่รากผมได้ โดยนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำสะอาด หมักไว้บริเวณศีรษะแล้วล้างออก ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 15–30 วันจะเห็นผลต้มใบหรือรากประมาณ 1 กำมือ ดื่มทุกวัน เช้า-เย็นช่วยดับพิษไข้ โรคผิวหนัง ริดสีดวงทวาร ไขข้ออักเสบ ไอเป็นเลือด ฆ่าพยาธิและบำรุงร่างกาย นำใบสดหรือใบที่ผ่านการคั่วจนแห้งชงน้ำดื่มช่วยขับปัสสาวะได้ ถึงจะมีประโยชน์มาก การรับประทานทองพันชั่งก็มีข้อควรระวังคือ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคหืด โรคโลหิตจาง โรคมะเร็งในเลือด โรคความดันโลหิตต่ำไม่ควรรับประทานเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

ทองหลาง


ต้นทองหลาง มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน อินเดีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และ ออสเตรเลีย ชาวสวนมักปลูกไว้ริมคันสวนยกเป็นร่องเพื่อยึดดินและใช้เป็นปุ๋ย มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่วอุดมด้วยธาตุอาหารต่างๆที่เป็นประโยชน์แก่ดิน นอกจากนี้ รากของต้นทองหลางยังมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถดูดเก็บเอาน้ำในดินเลี้ยงลำต้นได้มากกว่าไม้ทุกชนิด ดังนั้นการปลูกต้นทองหลางไว้หลายๆต้นจะทำให้พื้นดินชุ่มชื้น ต้นไม้ใกล้เคียงอื่นๆพลอยเจริญงอกงามไปด้วย และสามารถตรึงธาตุไนโตรเจนจากอากาศมาเป็นปุ๋ยและเป็นเครื่องมือฟื้นฟูระบบนิเวศน์ที่ดีอย่างหนึ่งต้นทองหลางจึงเหมาะที่จะปลูกเป็นพืชบำรุงดินเป็นอย่างยิ่ง ทองหลางเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูงประมาณ 10-20 เมตร เปลือกเป็นลายคล้ายเปลือกแตกตื้นๆสีเทาอ่อน และเหลืองอ่อนๆ ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมคม หรือบางชนิดมีหนามเล็กๆ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมโปร่ง ลักษณะใบเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ ออกดอกเป็นช่อติดกันเป็นกลุ่ม ตามบริเวณข้อต้น หรือโคนก้านใบ ลักษณะดอกคล้ายกับดอกถั่วมีสีแดง หรือชมพู ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด การปักชำ และ การตอนนอกจากปลูกเพื่อบำรุงดินแล้ว ทองหลางยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างได้แก่ ปลูกเป็นไม้ประดับ เป็นไม้มงคลประจำบ้าน เป็นพืชสมุนไพร และมีคุณค่าอาหารมาก ใบทองหลางอุดมด้วยโปรตีนเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ส่วนใบอ่อนเป็นผักยอดนิยมใช้รับประทานร่วมกับเมี่ยงคำ ส้มตำมะละกอ เป็นผักจิ้มน้ำพริก เป็นผักสดเคียงเมี่ยง ปลาทู ปลาแหนม เป็นต้นจากการวิเคราะห์ของกองโภชนา กรมอนามัยพบว่าใบทองหลางให้โปรตีนถึงร้อยละ 4.6 เป็นผักที่มีกากใย อาหารมาก อุดมด้วยวิตามินเอและสารอาหารอีกหลายชนิดที่ช่วยบำรุงร่างกาย ดีต่อตัวและหัวใจใช้เป็นยาสมุนไพรไดจากทุกส่วนของใบ แก้ริดสีดวง แก้ลม ดอกช่วยขับโลหิต ระดู ผลบำรุงน้ำดี เปลือกแก้เสมหะ แก้ลมและนิ่ว กระพี้แก้พิษฝี แก่นแก้ฝีในท้อง รากแก้พิษทั้งปวง แพทย์ชนบท แพทย์แผนโบราณใช้เปลือกต้มเป็นยาตัดบมทั้งปวง ใบคั่วให้เกรียมเป็นยาตัดพิษ ใบแก่สดๆใช้รมควันให้ตายนึ่งแล้วชุบน้ำสุราปิดแผลหรือเนื้อร้ายที่ลามบวมใกล้แตก ใบทองหลางที่ปิดจะดูดหนองให้ไหลออกจนยุบแห้งดี น้ำคั้นจากใบทองหลางยังใช้หยอดตา แก้ตาแดง ตาแฉะและดับพิษได้ด้วย นอกจากนี้ ต้นทองหลางด่าง ซึ่งเป็นต้นไม้สมัยพุทธกาล ก็จัดอยู่ในจำพวกไม้มงคล เชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นทองหลางด่างไว้ประจำบ้าน จะทำให้เจ้าของมีความร่ำรวย มีเงินทองมากมาย หากนำใบทองหลางไปใช้ในพิธีกรรมจะทำให้เกิดสิริมงคล การปลูกทองหลางด่างควรปลูกในวันเสาร์ทางทิศเหนือ หากผู้ปลูก เกิดในปีมะแม ก็จะดียิ่งขึ้นเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

ทองอุไร


ทองอุไรเป็นไม้ต้นที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของประเทศสหรัฐอเมริกาและหมู่เกาะเวสต์อินดิส จากนั้นได้แพร่กระจายพันธุ์ไปปลูกในเขตร้อนไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ที่มีผู้นำทองอุไรเข้ามาปลูกประดับตั้งแต่โบราณต้นทองอุไร มีชื่อเรียกว่า YELLOW ELDER, YELLOW BELL, TRUMPET VINE เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ต้นสูงเต็มที่ระหว่าง 2-5 เมตรเท่านั้น แตกกิ่งก้านสาขาหนาแน่นรูปทรงกลม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกตรงกันข้าม มีใบย่อย 5-13 ใบ ใบเป็นรูปใบหอก รูปไข่ และรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนมน ขอบจัก เป็นสีเขียวสด ทองอุไรจะออกดอกเป็นช่อกระจุกหลายช่อตามซอกใบและปลายยอดกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก ลักษณะดอกมีกลีบเลี้ยงสีเขียวเป็นรูปกระดิ่ง ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบเป็นรูประฆังสีเหลืองสด มีเกสรตัวผู้ 4 อัน ปลูกได้ในดินทั่วไป ที่ความชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดีไม่ชอบน้ำขัง และแสงแดดจัดเต็มวันทองอุไรนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบริเวณบ้าน สำนักงาน สวนสาธารณะ และปลูกประดับตามริมถนน 2 ข้างทางเป็นแถวยาว เวลามีดอกบานสะพรั่งทั้งต้นจะดูงดงามมาก โดยดอกจะออกตลอดทั้งปี สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยเมล็ดและการตอนกิ่ง มีชื่อเรียกในประเทศไทยอีกหลายชื่อเช่น ดอกละคร และ พวงอุไร เป็นต้น ทองอุไร จัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง เชื่อว่าจะช่วยเสริมโชคชะตาของผู้ปลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง มีเงินทองร่ำรวยมั่งคั่ง เสริมวาสนาบารมี ช่วยให้ผู้มีเกียรติมีลาภยศสูงส่ง และต้นทองอุไรยังสามารถใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน และโรคเกี่ยวกับปัญหาทางเดินอาหารได้อีกด้วย นอกจากทองอุไรดอกสีเหลืองแล้วก็ยังมี ทองอุไรสีส้ม สีสันสวยแปลกตามีกลิ่นหอม มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ถูกนำเข้ามาปลูกในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้เป็นไม้พุ่มสูง 1-3 เมตร เวลามีออกดอกจะบานสะพรั่งพร้อมกันทั้งต้น อีกต้นหนึ่งคือ ทองอุไรแคระ มีดอกสีเหลืองสดเหมือนทองอุไรแต่ทรงพุ่ม เล็กกว่า และทองอุไรสีแดงมีดอกสีแดงสด เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็กถึงกลางออกดอกทั้งปียิ่งอาการเย็นดอกยิ่งสีแดงสด เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

23/01/2562

กุมารทอง


คนไทยในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าการเลี้ยง “กุมารทอง” ก็จะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ช่วยป้องกันคุ้มครองเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายที่เข้ามา คอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มาทำร้ายได้ไปจนถึงการเตือนภัยล่วงหน้าที่อาจมาถึงตัวคนเลี้ยงได้อีกด้วยการเลี้ยงกุมารทองคือการนำวิญญาณมาเลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน โดยกุมารทองจะใช้เป็นวิญญาณของเด็กผู้ชายที่ตายในท้องของแม่หรือเรียกอีกอย่างว่าตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมส่วนใหญ่จะเอาวิญญาณเด็กมาเลี้ยงไว้ให้เป็นลูก มีหลักฐานที่พบจากเอกสารที่มีมาแต่โบราณถูกระบุเกี่ยวกับการทำกุมารทองไว้ว่า ต้องมีการหาศพผู้หญิงตายทั้งกลมแล้วนำมาประกอบพิธีกรรมโดยการผ่าท้องนำศพเด็กออกมาจากท้องของผู้หญิงที่เสียชีวิต แล้วหลังจากนั้นก็ก่อไฟทำพิธีเอาเด็กมาย่างไฟให้มีความแห้งสนิท โดยพิธีดังกล่าวต้องทำตอนกลางคืนเท่านั้น แล้วจึงนำทองคำเปลวมาลงรักปิดทองลงไปให้ทั่วตัว ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการเรียกว่า กุมารทอง ในสมุดข่อยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงการสร้างกุมารทองไว้อย่างละเอียดโดยระบุว่ามีการจำแนกกุมารทองไว้หลายประเภท ทุกประเภทจะสร้างขึ้นจากดิน 7 ป่าช้า ผสมขี้ไต้ หรือขี้ผึ้งปิดตาศพผีตายโหง กำกับด้วยคาถาดังนั้นกุมารทองเมื่อ 400 กว่าปีก่อน จึงมีเฉพาะผู้ที่มีวิชาอาคมเท่านั้นที่เลี้ยงกุมารทองได้ นอกจากนี้เรื่องกุมาณทองยังมีปรากฏอยู่ในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน และยังพบร่องรอยดินปั้นตามโบราณสถานต่างๆ ที่สามารถยืนยันได้ว่าความเชื่อเรื่องกุมารทองของคนไทยมีมานานกว่า 400 ปีมาแล้ว ต่อมาสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปมีวัฒนธรรม มีกฎหมายคุมครองจึงทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพเด็กจริงๆได้ จึงได้มีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้างกุมารทองใหม่ขึ้นโดยกุมารทองในปัจจุบันนิยมในสร้างให้เป็นเด็กไว้ผมจุก นุ่งโจงกระเบนอย่างโบราณแล้วทำการปลุกเสกให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา กุมารทองจึงกลายเป็นเครื่องรางของขลังอีกอย่างหนึ่งในสังคมไทยด้วยเชื่อว่ากุมารทองมีวิญญาณเด็กสิงอยู่ ผู้บูชาจึงต้องเลี้ยงดูกุมารทองให้เหมือนเลี้ยงลูกของตนเองต้องมีการเรียกให้กินข้าวกินน้ำ ส่วนใหญ่นิยมไหว้ด้วยน้ำแดง มีการกล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลกุมารทองเป็นอย่างดีก็จะให้คุณดังที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันมีเครื่องรางที่มีลักษณะคล้ายกุมารทองเรียกว่า ลูกเทพ ทำมาจากตุ๊กตาไวนิล อัดนุ่นและใส่เมล็ดธัญพืชข้างในเพื่อเป็นเคล็ดที่สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ซึ่งนิยมเลี้ยงบูชาลูกเทพจนเป็นกระแสกันอยู่ช่วงหนึ่งเชื่อว่าจะทำให้เจริญรุ่งเรื่องค้าขายดีเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

เครื่องราชบรรณาการ สยาม-ฝรั่งเศส


ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับฝรั่งเศสมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงสยามและพระเจ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งฝรั่งเศส มีการส่งเอกอัคราชทูตและเครื่องบรรณาการไปเจริญสัมพันธไมตรีต่อกัน ดังปรากฏเป็นหลังฐานมาจนถึงทุกวันนี้เมื่อปี พ.ศ. 2228 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงจัดส่งคณะทูตนำโดยออกพระวิสูตรสุนทรหรือพระยาโกษาปาน ออกหลวงกัลยาราชไมตรีเป็นอุปทูต และออกขุนศรีวิสารวาจาเป็นตรีทูต เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ออกเดินทางจากกรุงศรีอยุธยา ในเดือน ธันวาคม พ.ศ.2228 ถึงเมืองเบรสต์ในฝรั่งเศส วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2229จดหมายเหตุของเชอวาเลียเดอโชมอง ได้บรรยายถึงเครื่องราชบรรณาการ ที่พระเจ้ากรุงสยามส่งมาถวายพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ไว้ว่า มีคนโทน้ำทำด้วยทองคำ ขวดทองคำ ถ้วยทองคำ หีบทองคำ ตู้เล็กๆ ทำด้วยกระ หีบและโต๊ะญี่ปุ่น พรมจากเมืองฮินดูซตัน และพรมเมืองจีน กับเรือทำด้วยทองคำ 1 ลำ และปืนใหญ่ปลอกเงิน 2 กระบอก เครื่องลายครามอย่างงามที่สุด 1,500 ชิ้นอีกทั้งยังมีของที่คอนสแตนติน ฟอลคอน ส่งมาถวายมีทั้ง สายสร้อยทองคำ ถ้วยแก้ว กล่องใส่ยานัตถุ์ เครื่องลายคราม ลับแล แจกัน ผ้าต่างๆ ลูกปัด นอแรด เขากระบือ และของต่างๆ อีกหลายอย่าง และยังมีของที่พระเจ้ากรุงสยาม และพระราชินีสยามส่งมาพระราชทานมกุฎราชกุมารี ซึ่งมีหีบเขียนหนังสือ และหัวใจทำด้วยเงิน 1 อัน และของพระราชทานอื่นๆอีกกว่า 3,000 สิ่งของบางอย่างทำด้วยฝีมืออย่างประณีตงดงาม ส่วนพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ก็ได้ส่งเครื่องราชบรรณาการ มาถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชด้วยเช่นกัน ทุกอย่างล้วยเป็นของที่มีราคาแพงและงดงาม แสดงให้เห็นวาสพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ทรงเห็นแก่ ความเป็นมิตรไมตรีที่มีระหว่างสองราชอาณาจักร อันได้แก่ ทองคำมีช่อดอกไม้ฝังเพชร ทับทิม มรกตและไข่มุก รูปขนนกทำด้วยทองคำประดับพลอยต่างๆ เข็มขัดหลายอัน อานม้า กระจกเงาอย่างดี กรอบทำด้วยทองคำฝังพลอย นาฬิกาพกตลับทองคำหลายเรือน เสื้อเกราะ ปืนเล็ก ผ้าไหมและผ้าประเภทต่างๆ โต๊ะหินอ่อนหลายโต๊ะ นาฬิกาลูกโลกกลม และทำเป็นชั้นฟ้าแสดงเดือนดาว ซึ่งถ่ายแบบมาจากของจริง ดวงดาวทำด้วยทองคำและอยู่ตรงเส้นละติจูด ลองติจูดตามจริง เมื่อทุกๆ ครึ่งชั่วโมงจะมีระฆังตีบอก นาฬิกานี้ทำให้โลกหมุนพร้อมกับดวงดาวที่หมุนตามไปด้วยขณะที่มกุฎราชกุมารีก็ได้ส่งของพระราชทานถวายสมเด็จพระราชินีแห่งสยามด้วย ได้แก่ ดอกกุหลาบเพชร กระจกเงา และหีบสลักลายเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

เครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร


พระราชพิธีราชาภิเษกพระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักรเป็นพระราชพิธีซึ่งพระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักร จะทรงประกอบขึ้นเพื่อแสดงถึงพระราชอำนาจสูงสุด โดยมากมักจะจัดขึ้นหลังจากพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อนเสด็จสวรรคตไปแล้วพอสมควร เพื่อที่จะได้มีเวลาพอสำหรับพระราชพิธีพระบรมศพสำหรับกษัตริย์พระองค์ก่อน และมีการเตรียมความพร้อมสำหรับกษัตริย์พระองค์ใหม่ด้วย ดังเช่น สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ครองราชย์เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2495 แต่ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2496 เป็นต้น พระราชพิธีนี้มีอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี เป็นประธาน ในฐานะศาสนาจารย์อาวุโสสูงสุดของคริสจักรแห่งอังกฤษและของทุกประเทศจะเข้าร่วมในพระราชพิธีนี้ รวมทั้งอาจมีแขกของรัฐบาลอีกเป็นจำนวนมากพระราชพิธีราชาภิเษกจะมีเครื่องราชกกุธภัณฑ์เช่นเดียวกับพระราชพิธีของไทย ซื่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เแห่งสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย มงกุฎ, คทาที่มีกางเขนหรือนกพิราบ, ลูกโลกประดับกางเขน , ดาบ, แหวน, เดือย, ฉลองพระองค์โคโลเบียมซินโดนิสทูนิค (Colobium sindonis), ฉลองพระองค์ดาลเมติคทูนิค (dalmatic), กำไลอาร์มิลล์ (armill) และเสื้อคลุม เครื่องราชกกุธภัณฑ์หลายชิ้นมาจากสมัยก่อนการปฏิรูปศาสนา และมีความหมายทั้งทางศาสนาและทางการราชาภิเษก เช่นฉลองพระองค์ต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับเสื้ออาล์บ (alb) ของนักบวชหรือเสื้อดาลเมติค ที่สวมโดยบาทหลวง เครื่องราชกกุธภัณฑ์ชุดที่เก่าที่สุดที่มีมาตั้งแต่สมัยแองโกล-แซ็กซอนบางส่วนสูญหายไป ในปี ค.ศ. 1216 ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษ แต่ไม่ทั้งหมด บางส่วนทำขึ้นมาใหม่ รวมทั้งจุลมงกุฎของลูเอลเล็น (Llywelyn) เจ้าชายแห่งเวลส์เมื่อปี ค.ศ. 1284 เครื่องราชกกุธภัณฑ์ชุดใหม่นี้ก็ถูกโจรกรรมไปจากแอบบีเวสต์มินสเตอร์ในปี ค.ศ. 1303 แต่ก็ได้คืนมาเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นหลังจากนั้นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งหมดจึงถูกนำไปเก็บไว้ในหอคอยแห่งลอนดอนเมื่อมาถึงสมัยการฟื้นฟูราชวงศ์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ และสกอตแลนด์ในปี ค.ศ. 1660 เครื่องราชกกุธภัณฑ์เกือบทั้งหมดก็ต้องสร้างใหม่สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ หลังจากการหน้านั้นมีการนำกกุธภัณฑ์ไปหลอมเกือบหมด นอกไปจากทองคำบางส่วนที่ถูกหลอมและพลอยบางชิ้นที่พบแล้วสิ่งที่เหลืออยู่ก่อนสมัยสงครามกลางเมืองก็มีแต่เพียงดาบสามเล่มและช้อนคันหนึ่งเท่านั้น เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

มงกุฎแห่งอินเดีย


เมื่อครั้งที่อินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษได้มีพระราชพิธีหรือพิธีเดลี ดูร์บาบรมราชภิเษกพระเจ้าจอร์จที่ 5 เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งอินเดีย ในปีค.ศ. 1911 ในคราวนั้นได้มีการสร้างมงกุฎแห่งอินเดียหรืออิมพิเรียลคราวน์แห่งอินเดียขึ้นเพื่อ เป็นมงกุฎประจำสำหรับประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษมงกุฎแห่งอินเดีย ใช้เงินในการสร้างราว60,000 ปอนด์ มีน้ำหนักกว่า 34.05 ออนซ์ (0.97 กิโลกรัม) ประกอบด้วยอัญมณีมีค่าต่างๆ ได้แก่ มรกต, ทับทิม, แซฟไฟร์, เพชร 6,100 เม็ด และทับทิบขนาดใหญ่ 1 เม็ด ซึ่งพระเจ้าจอร์จที่ 5 เห็นว่ามงกุฎองค์นี้มีน้ำหนักมาก ภายหลังจากทรงในพระราชพิธีแล้ว มงกุฎองค์ก็ไม่เคยใช้มงกุฎนี้ในพระราชพิธีอีกเลยนี้ มงกุฎแห่งอินเดียหรืออิมพิเรียลคราวน์แห่งอินเดีย ออกแบบคล้ายกับมงกุฎแห่งสหราชอาณาจักรองค์อื่นๆ ประกอบด้วยโครงทรงกลมทำจากเงินชุบทองคำ ประดับสี่ด้านด้วยกางเขนแพตตี้ สลับกับดอกเฟลอร์เดอลิส (ดอกลิลลี่) ยกเว้นแต่บริเวณโค้งด้านบน ซึ่งปกติจะรวมกันบริเวณฐานของลูกโลกทรงกลม และปิดยอดด้วยกางเขนหลัก แต่องค์นี้มีลักษณะโค้งปลายยอดมารวมกันอย่างอ่อนช้อยตามศิลปะแบบเอเซีย นอกจากนี้มงกุฎองค์นี้ เป็นเพียงองค์เดียวที่มีโค้งจำนวน 8 โค้ง (หรือ 4 ครึ่งวงกลมตัดกัน) ในแบบของยุโรปภาคพื้นทวีป ซึ่งปกติแล้วธรรมเนียมของอังกฤษจะมีเพียงแค่ 4 โค้ง โดยความแตกต่างนี้ยังถือเป็นเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย เนื่องจากมงกุฎองค์นี้แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างมงกุฎประจำพระอิสริยยศพระจักรพรรดิกับพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์ว่ากันว่าไม่มีการสวมมงกุฎนี้ในระหว่างพระราชพิธี เนื่องจากอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีในขณะนั้นเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะทำพิธีอย่างชาวคริสเตียนในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูและมุสลิม ปัจจุบันมงกุฎแห่งอินเดีย ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงที่หอคอยแห่งลอนดอน เคียงข้างกับเครื่องราชกกุธภัณฑ์องค์อื่นๆแต่ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักรแต่อย่างใดเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

มงกุฎองค์สำคัญแห่งราชวงศ์อังกฤษ


มงกุฎ เป็นเครื่องประดับศีรษะ ที่สวมโดยพระมหากษัตริย์ หรือผู้นำทางศาสนา เป็นเครื่องหมายของความมีอำนาจทางการเมือง, ความมีสิทธิ, ความเป็นอมตะ, ความชอบธรรมในการเป็นกษัตริย์, ชัยชนะ, การฟื้นฟู, เกียรติยศ และความรุ่งโรจน์ของผู้สวม สร้างจากโลหะหรืออัญมณีมีค่า เช่นเพชร ทองคำ แพลตตินั่ม เป็นต้น หรืออาจจะทำจากดอกไม้,ใบไม้, หรือหนาม ก็ได้มงกุฎเป็นหนึ่งในเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของราชวงศ์ต่างๆทั่วโลก ซึ่งสหราชอาณาจักรที่ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์มานับพันปีก็มีมงกุฎที่สำคัญและทรงคุณค่าหลายองค์ ที่สำคัญได้แก่มงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด (St.Edward Crown) เป็นมงกุฎที่ใช้อย่างเป็นทางการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ของสหราชอาณาจักร ทรงสวมโดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเมื่อวันคริสต์มาส ค.ศ. 1065 ตัวมงกุฎบนบริเวณฐานทำดัวยทองคำและเงิน ประกอบด้วยกางเขนที่มีลักษณะบานออกเหมือนสี่เหลี่ยมจัตุรัส จำนวนสี่อันที่บริเวณฐานสลับกับสัญลักษณ์ดอกลิลลี สี่ดอก ที่หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เหนือจากฐานขึ้นไปเป็นโค้งสองโค้ง​(สองโค้งตัดกัน จะมี 4 แฉกหรือก้าน) บรรจบกันที่ด้านบนซึ่งมีลูกโลก และปิดยอดด้วยกางเขนประดับอัญมณี ตรงด้านในมงกุฎเป็นหมวกทำจากผ้ากำมะหยี่สีม่วงที่มีขอบด้านล่างเป็นขนสีขาว มงกุฎทำด้วยทองแท้ฝังด้วยอัญมณี 444 ชิ้น มงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ดยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งเครือจักรภพราชอาณาจักร มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 ดังปรากฏในตราประจำตระกูล, ตรา และสัญลักษณ์อื่นๆมงกุฎอิมพีเรียลสเตท (Imperial State Crown) เป็นมงกุฎที่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ทรงเลือกสวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หนักถึง 2155 กรัม ในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์ ทรงให้วางมงกุฎองค์นี้ไว้ข้างๆพระองค์แทนการสวม ตัวมงกุฎมีฐานประกอบด้วยกางเขนแพตตี (cross pattée) จำนวนสี่กางเขน สลับกับดอกลิลลี่จำนวนสี่ดอก ส่วนเหนือจากฐานขึ้นไปเป็นโค้งจำนวนสองโค้งตัดกัน (สี่ก้าน) ที่มียอดเป็นด้านบนเป็นลูกโลกเหนือจุดตัดเป็นกางเขนอีกหนึ่ง ภายในตรงกลางมงกุฎเป็นหมวกกำมะหยี่สีม่วงเข้มที่มีขอบเป็นขนเออร์มิน มงกุฎฝังด้วยอัญมณีหลายชนิดที่ได้แก่ เพชร 2,868 เม็ด, ไข่มุก 273 เม็ด, แซฟไฟร์ 17 เม็ด, มรกต 11 เม็ด, และทับทิม 5 เม็ดพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 ทรงมงกุฎอิมพีเรียลสเตตเป็นประจำทุกปีในการรัฐพิธีการเปิดประชุมรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

ธารพระกร ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก


พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของประเทศไทย อันเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศองค์พระประมุข ว่าได้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเครื่องประกอบพระราชพิธีที่สำคัญที่สุดคือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ กกุธภัณฑ์มาจากคำที่มีความหมายหลายคำมาประกอบกัน ก หมายถึง ฟ้ากุ หมายถึง ดินธ หมายถึง ทรงไว้ภัณฑ์ หมายถึง สิ่งของเมื่อรวมความแล้วจึงหมายถึง สิ่งใดก็ตามที่เป็นเครื่องใช้ประกอบพระราชอิสริยยศแห่งพระมหากษัตริย์ นั่นเอง ประเพณีการถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของไทยนั้น มีปรากฎมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย พระราชครูพราหมณ์จะถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์แด่พระมหากษัตริย์เพื่อความสมบูรณ์ของพระราชพิธี โดยจะถวายจากลำดับสูงลงต่ำ เริ่มจาก พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกร พัดวาลวีชนี และแส้หางจามรี และสุดท้ายจะสอดฉลองพระบาทเชิงงอนถวายเมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้วเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์จะเก็บรักษาไว้ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในหมู่พระมหามนเทียร ภายในพระบรมมหาราชวัง เดิมเจ้าพนักงานที่รักษาเครื่องราชูปโภคได้จัดพิธีสมโภชเครื่องราชูปโภคและเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นประจำทุกปี โดยเลือกทำในเดือน ๖ เพราะมีพระราชพิธีน้อย จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า วันพระบรมราชาภิเษกเป็นวันมงคล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๓๙๔ พระราชทานชื่อว่า พระราชพิธีฉัตรมงคลต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ไปด้วย และเปลี่ยนเรียกชื่อพระราชพิธีว่า พระราชกุศลทักษิณานุประทาน และพระราชพิธีฉัตรมงคลสืบมาจนถึงรัชกาลที่ 9ธารพระกรหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ของเดิมสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทำด้วยไม้ชัยพฤษ์ปิดทอง หัวและสันเป็นเหล็ก คร่ำลายทอง ที่สุดสันเป็นซ่อม ลักษณะเหมือนกับไม้เท้าพระภิกษุที่ใช้ในการชักมหาบังสุกุล เรียกธารพระกรของเดิมนั้นว่า ธารพระกรชัยพฤกษ์ ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ทรงสร้างธารพระกรขึ้นใหม่องค์หนึ่งด้วยทองคำ ภายในมีพระแสงเสน่า ยอดมีรูปเทวดา จึงเรียกว่า ธารพระกรเทวรูป ซึ่งมีลักษณะเป็นพระแสงดาบมากกว่าเป็นธารพระกร แต่ได้ทรงสร้างขึ้นแล้วก็ทรงใช้แทนธารพระกรชัยพฤกษ์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดของเก่ามากกว่าจึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำธารพระกรชัยพฤกษ์ออกมาใช้อีกครั้ง และยกเลิกธารพระกรเทวรูปไป ซึ่งธารพระกรชัยพฤกษ์นี้ใช้ต่อมาจนถึงรัชกาลที่ 9 เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

พระมหาพิชัยมงกุฎ ทองคำลงยาประดับเพชร


พระมหาพิชัยมงกุฎเป็นหนึ่งในห้าของเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ หรือสิ่งของอันเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นพระมหากษัตริย์ ๕ อย่างได้แก่ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกรชัยพฤกษ์ ฉลองพระบาทเชิงงอน พัดวาลวิชนีและพระแส้จามรี และพระมหาพิชัยมงกุฎ พระมหาพิชัยมงกุฎหรือเครื่องประดับพระเศียรองค์ปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.2325 ทำด้วยทองคำลงยาบริสุทธิ์ ประดับเพชร เฉพาะองค์พระมหามงกุฎ ไม่รวมพระกรรเจียกจอน สูง 51 เซนติเมตร ถ้ารวมพระกรรเจียกจอนจะสูงถึง 66 ซ.ม. มีน้ำหนักถึง 7.3 กิโลกรัม (1,300 กรัม) ที่ยอดพระมหาพิชัยมุงกุฎแต่เดิมเมื่อแรกสร้างนั้นเป็นปลายแหลม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้มีรับสั่งให้พระราชสมบัติ(การเวก รัตนกุล) เดินทางไปเลือกซื้อเพชรเม็ดงามที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย เพื่อนำมาประดับที่ยอดของพระมหาพิชัยมงกุฎ โดยเพชรเม็ดดังกล่าวมีขนาด 40 กะรัต และได้พระพระราชทานนามเพชรเม็ดนั้นว่า “พระมหาวิเชียรมณี” ว่ากันว่าการที่การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับสั่งให้ประดับเพชรบนยอดพระมหาพิชัยมงกุฎ ไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มความงดงามและทรงคุณค่าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สยามรอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคมอีกด้วย เนื่องจากชาวตะวันตกมักอ้างเหตุผลว่าสยามและประเทศในภูมิภาคนี้เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน การถูกยึดครองโดยชาติตะวันตกจะช่วยทำให้ประเทศเหล่านี้หลุดพ้นจากความด้อยพัฒนา ดังนั้นการสร้างพระมหาพิชัยมงกุฎที่ทรงคุณค่าจึงเป็นการประกาศศักดาอย่างกนึ่งให้ชาติตะวันตกรับรู้ว่าสยามนั้นเป็นประเทศที่เจริญแล้วมีอารยะ และมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง นับเป็นพระปรีชาสามารถ และพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้พระมหาพิชัยมงกุฎมีความหมายแสดงถึงยอดพระวิมานของพระอินทร์หรือเทพ ซึ่งการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์แด่พระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามแบบโบราณราชประเพณีที่สืบทอดกันมานับตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ด้วยเป็นเครื่องหมายที่แสดงความเป็นพระมหากษัตริย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความมีอำนาจ ฐานันดรศักดิ์ ความชอบธรรมในการเป็นพระมหากษัตริย์ และพระราชภาระที่ต้องทรงแบกรับทุกข์สุขของพสกนิกรทั้งประเทศ อันเป็นหน้าที่ที่มิอาจวางลงได้ โดยพระมหากษัตริย์จะทรงเครื่องราชกกุธภัณฑ์เพียงครั้งเดียวในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเท่านั้น และจะไม่ทรงอีกเลยตลอดรัชสมัย หากแต่เจ้าพนักงานจะเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทอดถวายไว้ข้างพระราชบัลลังก์ เมื่อคราวมีพระราชพิธีสำคัญๆเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

15/01/2562

7 เทคนิค “ซื้อทอง” ยังไงให้ขายออกได้กำไร


“ทอง” เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการเป็นเจ้าของ ซึ่งการจะลงทุนซื้อทองให้ได้กำไรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากรู้เทคนิคดี ๆ ในการซื้อ-ขายทองก็สามารถร่ำรวยได้เหมือนกัน1. สิ่งแรกที่เราต้องรู้และสำคัญมากคือ ทองที่ต้องการซื้อนั้นคือ ทองอะไร เปอร์เซนต์เท่าไร ซึ่งสามารถสังเกตได้จากตอกตราสัญลักษณ์ยี่ห้อหรือผู้ผลิต ซึ่งจะระบุไว้บนตัวเรือน เช่น ตะขอ หรือด้านในของวงแหวน เพราะหากมีข้อความที่ระบุไว้ชัดเจน จะทำให้ได้ราคาดีกว่าเมื่อขายคืน2. โดยปกติแล้ว ร้านค้าจะต้องชั่งน้ำหนักทองให้ดู หากไม่ทำการชั่งให้ดูสามารถเรียกร้องขอดูได้ก่อนทำการซื้อ โดยทองคำแท่ง 1 บาท (96.5%) จะมีน้ำหนัก 15.244 กรัม และทองรูปพรรณ 1 บาท (96.5%) จะมีน้ำหนัก 15.16 กรัม 3. ทองส่วนใหญ่จะมีโค๊ด หรือตราแสตมป์บนตัวเรือน ยกตัวอย่าง 24k หรือตัวเลข 999 ซึ่งสามารถบอกได้ว่าคือทองอะไร เปอร์เซ็นต์เท่าไร และในไทยเราจะมีทอง 90% และ 96.5% ด้วย8K (8ct) หรือ 333 จะมีทองอยู่ 33.3%9K (9ct) หรือ 375 จะมีทองอยู่ 37.5%10K (10ct) หรือ 416 จะมีทองอยู่ 41.6%12K (12ct) หรือ 500 จะมีทองอยู่ 50%14K (14ct) หรือ 585 จะมีทองอยู่ 58.5%15K (15ct) หรือ 625 จะมีทองอยู่ 62.5 %18K (18ct) หรือ 750 จะมีทองอยู่ 75%22K (22ct) หรือ 916 จะมีทองอยู่ 91.6%24K (24ct) หรือ 1000 จะมีทองอยู่ 99.9% หรือ ทองคำบริสุทธิ์4. กรณีซื้อทองแท่งขนาดเล็กกว่า 5 บาท ให้เลือกแบบที่มีซีลพลาสติก เพื่อช่วยลดรอยตำหนิ รอยบุบ ที่ทำให้น้ำหนักทองหายไป และไม่ควรแกะซีลออกโดยไม่จำเป็น ควรแยกทองที่ใช้งานประจำออกจากทองที่ซื้อมาเก็บไว้เพื่อขายด้วย เพราะมีผลต่อราคาเมื่อนำทองไปขายคืน5. อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ เมื่อต้องการซื้อทองมาเก็บไว้เพื่อขาย ควรต้องเลือกการลงทุนให้เหมาะสมกับเงินทุนที่มีอยู่ แม้ว่าทองจะมีมูลค่าสูง แต่มีความเสี่ยงสูงจากราคาที่ผันผวนด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในการลงทุนและกำหนดสัดส่วนเงินทุนให้ไม่เกิน 5-10% เพื่อลดความเสี่ยงด้านการลงทุนลง6. ติดตามข่าวสารข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการผันผวนของราคาทองอยู่ตลอด พร้อมสอบถามราคาทองจากร้านค้า เพียงให้ข้อมูลเกี่ยวกับทองที่เรามีอยู่ให้กับแหล่ง เพื่อทำการขอราคาและเปรียบเทียบราคาซื้อ-ขายจากร้านค้าต่าง ๆ เมื่อใดก็ตามที่ต้องการซื้อหรือขายทอง จะทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น และยังช่วยทำกำไรให้เราได้อย่างมากมายทีเดียว7. หากทองที่ซื้อมาจากร้านค้ามีใบ Certificate หรือใบรับรอง ควรนำไปด้วยทุกครั้งเมื่อตัดสินใจขายเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

คทาจอมพล ตอนที่ 2


นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อแรกไม่มีการสร้างคทาองค์ใหม่แต่อย่างใด พระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่สาม ซึ่งนายกรัฐมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมเครื่องยศจอมพลแด่พระองค์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2493 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องในวโรกาส ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัตสู่ประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ข้าราชการกระทรวงกลาโหมเห็นว่า พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติมากมาย จึงร่วมใจกันสร้างคทาจอมพลองค์ใหม่ขึ้นเพื่อทูลเกล้าถวาย เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุ ๔๐ พรรษา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีและได้ขอพระบรมราชานุญาติ ขนานนามพระคทาองค์ใหม่ว่า"พระคทาจอมทัพ ภูมิพลพระคทาองค์ที่สี่นี้ มีลักษณะทั่วไปเหมือนพระคทาองค์ที่สาม องค์พระคทาทำด้วยทองคำหนัก 430 กรัม แกนกลางป่อง เรียวไปทางยอดและปลาย ประกอบด้วยเครื่องหมายมงคลแปด ด้านยอดพระครุฑพ่าห์ลงยา และลูกแก้วรองฐานบัวหงาย ลงยาราชาวดี ด้านปลายมีลูกแก้วและยอดบัวกลุ่มสี่ชั้น ลงยาราชาวดี เช่นเดียวกันกับพระคทาองค์ที่สาม ส่วนที่ต่างกันคือ เหนือพระยาครุฑมีพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร" ฝังเพชรอยู่ในกรอบรูปไข่ และมีรูปพระมหาพิชัยมงกุฎทองฝังเพชร อยู่เบื้องบนตอนปลายพระคทา ต่อจากเครื่องหมายมงคลแปด มีเครื่องหมายกระทรวงกลาโหมนอกจากคทาจอมพลเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์แล้ว ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างคทาจอมพล พระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ที่ดำรงพระยศจอมพลขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2453 เพื่อพระราชทายแก่พระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ดำรงพระยศจอมพล4 พระองค์ได้แก่องค์ที่1 จอมพล สมเด็จพระราชบิตุลาบรมวงศาภิมุข เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดชองค์ที่ 2 จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดชองค์ที่ 3 จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถองค์ที่ 4 จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯกรมหลวงนครสวรรค์วรพินิตลักษณะคทาทั้ง 4องค์ สร้างด้วยทองคำหนัก 40 บาท แกนกลางเป็นทรงกระบอกกลวง ทำด้วยทองคำขัดเกลี้ยง แต่ที่ตัวพระครุฑพ่าห์กับลายดอกที่ฐานของพระครุฑพาห์และที่หัวเม็ดตอนท้ายลงยาสีต่างๆงดงาม แกนกลางของกระบอกซึ่งข้างในกลวงยาว22.4 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เซนติเมตร ตอนยอดที่เป็นตัวครุฑพาห์ทองคำลงยาสูง 8.5 เซนติเมตร ตอนท้ายทำเป็นหัวเม็ดทองคำลงยาสูง 4 เซนติเมตร และมีจารึกพระนามจอมพลที่ได้รับพระราชทานเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

คทาจอมพล ตอนที่ 1


คทาจอมพล เป็นพระคทาเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์ชนิดหนึ่ง เริ่มใช้ครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังที่ทรงปรับปรุงกิจการทหารให้เป็นแบบสากล แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือคทาเครื่องต้นของมหากษัตริย์คทาสำหรับพระบรมวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งดำรงพระยศเป็นจอมพลคทาสำหรับผู้ที่ดำรงยศเป็นจอมพล โดยทั่วไปของทั้งสามเหล่าทัพ คือ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ สำหรับคทาจอมพลซึ่งเป็นเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์นั้นมี 4 องค์ คือ พระคทาองค์แรก ข้าราชการกรมทหารบกได้สร้างขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะองค์จอมทัพไทย เนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษกสมโภช เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2446 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ยาว 35 เซนติเมตร ยอดคทาเป็นรูปหัวช้างสามเศียรลงยาสีขาว เหนือหัวช้างเป็นรูปพระเกี้ยว ตอนท้ายคทาเป็นรูปทรงกระบอกตัด องค์พระคทาทำด้วยทองคำ หนัก 40 บาท ใต้หัวช้างลงมาเป็นลายนูน รูปหม้อกลศ ซึ่งหมายถึง การทูลเกล้า ฯ ถวายเนื่องในพระราชพิธีทวีธาภิเษก พระคทาองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นประจำตลอดรัชกาลพระคทาองค์ที่สอง ข้าราชการกรมยุทธนาธิการ จัดสร้างทูลเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะองค์จอมทัพไทย เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2453 พระคทาองค์นี้ มีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับพระคทาองค์แรกมาก ต่างกันที่ตรงยอดพระคทา ซึ่งเป็นมงกุฎและมีลายเฟื่อง อยู่ที่แถบกลางใต้ฐานของยอดมงกุฎโดยรอบเท่านั้นพระคทาองค์ที่สาม สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้พระราชทานแบบคทาจอมพลขึ้นใหม่ ทำด้วยทองคำเกลี้ยง มีลักษณะป่องตรงกลางและคอดเรียวไปทางด้านยอดและด้านปลาย ยอดพระคทาทำเป็นรูป พระครุฑพ่าห์ ลงยาตามแบบพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ใต้พระยาครุฑทำเป็นลูกแก้วรองฐานบัวหงาย ลงยาราชาวดี ส่วนด้านปลายมีลูกแก้ว และยอดบัวกลุ่มสี่ชั้น ลงยาราชาวดีเช่นกัน พระคทาจอมพลองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้มาตลอดรัชกาล ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์นี้สืบมาพระคทาองค์ที่สี่ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองศิริราชสมบัติ พระองค์ทรงใช้พระคทาจอมพลองค์ที่สามมาโดยตลอดจนเมือปีพ.ศ. 2509 ข้าราชการกระทรวงกลาโหมเห็นว่า พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ สำหรับประเทศชาติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างมากมาย จึงได้สร้างพระคทาจอมพลขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 40 พรรษา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีของข้าราชการทหารทุกนาย และได้ขอพระบรมราชานุญาต ขนานนามพระคทาองค์ใหม่นี้เป็นพิเศษว่า พระคทาจอมทัพภูมิพลเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง


ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง หรือบุหงามาศเป็นเครื่องราชบรรณาการที่ประเทศราชของสยามต้องส่งมาถวายพระเจ้าแผ่นดินทุกๆ สามปี เพื่อแสดงความสวามิภักดิ์ นอกจากนี้ยังใช้เป็นสิ่งของคารวะของเจ้านายหรือขุนนางถวายต่อพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานพระอิสริยยศหรือบรรดาศักดิ์ให้สูงขึ้น เรียกว่า "พุ่มไม้เงินพุ่มไม้ทอง" ประเพณีการถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทอง ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดหรือเพราะอะไร แต่จากหนังสือสยามประเภทของ ก.ศ.ร. กุหลาบ ความว่า "ราว พ.ศ. ๒๐๔๕ ในแผ่นดินพระเจ้าบรมราชามหาพุทธางกูร สยามเป็นไมตรีกับโปรตุเกส เมื่อโปรตุเกสขอกองกำลังกองทัพเรือไทยไปช่วยตีเมืองมะละกา เพราะชาวมะละกาไปทำร้ายพ่อค้าชาวโปรตุเกสที่เข้าไปค้าขาย กองทัพเรืออยุธยาตีเมืองมะละกาได้ พระเจ้าแผ่นดินสยามในขณะนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าราชบุตรแขกเมืองมะละกาเป็นเจ้าเมืองสืบแทนพระบิดา ให้มีพระนามว่าจ้าวมะหะหมัดรัตนะรายามหาราช และให้เป็นเมืองประเทศราชถวายดอกไม้เงินทองสิ่งของเครื่องราชบรรณาการแก่กรุงศรีอยุธยาตามประเพณีที่มีมาแต่โบราณ"ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้ปกครองหัวเมืองประเทศราช อันได้แก่ หัวเมืองมลายู ล้านช้าง ล้านนา เมืองเขมร และหัวเมืองกะเหรี่ยง ประเทศราชเหล่านี้จะต้องส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองและเครื่องบรรณาการมาสยามทุก ๆ สามปี มูลค่าของดอกไม้เงินดอกไม้ทองในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 อาจจะสูงถึงราว ๆ หนึ่งพันดอลลาร์สเปนเลยทีเดียว ทั้งนี้การส่งบรรณาการดังกล่าวไม่มีกฎเกณฑ์ว่ามากน้อยเพียงใดเพราะขึ้นอยู่กับผลิตผลในท้องถิ่น หรือเป็นสิ่งของที่ทางสยามแจ้งความประสงค์ไปใน พ.ศ. 2435 ได้มีการปฏิรูปการปกครองยกเลิกหัวเมืองประเทศราชในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ธรรมเนียมการส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองเป็นบรรณาการจึงสิ้นสุดลงตามไปด้วย มีบันทึกไว้ว่ามีการเข้าเฝ้าถวายเครื่องราชบรรณาการครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2447 โดยเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ เจ้าราชภาคินัย เจ้าน้อยเลาแก้ว เจ้าน้อยสมพมิตร เจ้าน้อยเมืองชื่น และเจ้าน้อยวุฒิ วงษ์ ทั้งนี้เหตุผลในการส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทอง ก็เพื่อแสดงการสวามิภักดิ์ และความจงรักภักดีแก่ประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่า และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์สมานฉันท์สามัคคีรักใคร่แนบแน่นต่อกัน ลักษณะของต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่ใช้เพื่อเป็นบรรณาการในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ ต้องจัดเป็นคู่ ทำด้วยเงินทองแท้และเงินแท้ทั้งต้น และต้องมีน้ำหนักเท่ากัน มี กิ่งก้าน กาบดอก และใบ ครบสมบูรณ์หากมีกระถางหรือแจกันรองรับ จะต้องเหมือนกันเป็นคู่กัน ความสวยงาม ประณีตขึ้นอยู่กับฝีมือเชิงช่างของเมืองนั้น ๆเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

ศูนย์วิจัยทองคำ


ศูนย์วิจัยทองคำ (Gold Research Center)เกิดจากความร่วมมือของ 4 องค์กรหลักคือสมาคมค้าทองคำ ร่วมกับสมาคมเพชรพลอยเงินทอง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด ศูนย์วิจัยทองคำ ตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นองค์กรจัดหาข้อมูล ศึกษา วิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับทองคำ รวมถึงการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ(ดัชนีที่จัดทำขึ้นตามหลักทางสถิติโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง)และจัดบทสรุปความเห็นผู้ค้าทองคำเพื่อประโยชน์แก่นักลงทุนหรือผู้ค้าทองคำในประเทศ การทำงานของ ศูนย์วิจัยทองคำ อยู่ภายใต้การดูแลของ ทั้ง 4 องค์กรโดยการแต่งตั้งบุคคลตัวแทนให้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อให้ร่วมกันรับผิดชอบดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของศูนย์วิจัยทองคำ และตามขอบเขตความร่วมมือของสมาคมค้าทองคำ สมาคมเพชรพลอยเงินทอง มหาวิทยาลัยและบริษัท โดยคณะทำงานจะร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นว่าผลการวิจัยใดอยู่ในระดับความเชื่อมั่นที่นำออกเผยแพร่ได้ ทั้ง 4 องค์กรมีขอบเขตความร่วมมือกัน 4 ด้านคือ รวบรวม จัดเก็บ จัดทำ ประมวลผลและนำเสนอการวิจัยปรับปรุงและพัฒนากระบวนการวิจัยให้สอดคล้องกับเหตุการณ์จัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในกิจการของศูนย์วิจัยราคาทองคำบริหารจัดการด้านข้อมูลและผลการวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์วิจัยทองคำ จะจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเป็นประจำทุกเดือน ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในแต่ละเดือน รายงานสถานการณ์ราคาทองทำ ทองคำแท่ง มุมมองราคาทองคำของผู้ค้าทองคำรายใหญ่ แนวโน้มความต้องการทองคำของผู้ลงทุนทองคำรายย่อย และกลยุทธการลงทุนทองคำในแต่ละเดือน และแนวโน้มราคาทองคำ เพื่อเป็นแนวทางให้นักลงทุนและผู้ค้าทองคำศูนย์วิจัยทองคำ จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2556 เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมทองคำ ที่กำลังเติบโตอย่างมากในประเทศ ที่จำเป็นต้องพึงพาข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และรวดเร็ว อีกทั้งต้องเป็นข้อมูลเชิงลึกซึ่งมีการวิเคราะห์และวิจัยจากองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งศูนย์วิจัยทองคำนี้จะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในฐานะองค์กรกลางในการรวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งวิเคราะห์วิจัยเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และนักลงทุน รวมถึงผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า สามารถนำข้อมูลที่ได้จากศูนย์ฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จนทำให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

คาดการณ์กำลังการผลิตทองคำในปี 2019


กรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey) หรือUSGS รายงานการขุดเจาะทองคำจากทั่วโลก พบว่า ในปี 2016 และ 2017 ทั่วโลกมีกำลังการผลิตทองคำจากเหมืองแร่ทองคำในปริมาณที่ใกล้เคียงกันคือประมาณ 3,100 ตัน โดยประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการผลิตทองคำมากที่สุด 455 ตัน รองลงมา คือประเทศ ออสเตรเลีย รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ ในขณะที่ข้อมูลของ World Gold Council หรือสภาทองคำโลกรายงานตัวเลขต่างกันเล็กน้อยที่ 3,236 ตันแต่ถ้าพูดถึงปริมาณทองคำสำรองหรือทองที่ยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาใช้ ออสเตรเลียคือประเทศที่มีปริมาณสำรองแร่ทองคำมากที่สุด รองลงมาคือรัสเซีย และแอฟริกาใต้ ตามลำดับ โดยทั้งโลกมีปริมาณทองคำสำรอง 57,000 ตัน สำหรับในปี 2019 นี้ยังไม่มีตัวเลขคาดการปริมาณการผลิตทองคำออกมาจากทั้งสองหน่วยงานแต่เว็ปไซด์อ้างอิงราคาทองคำ Kitco.comระบุว่า องค์กรส่วนใหญ่มองว่าอัตราขุดเจาะทองคำในปี 2019 จะอยู่ในระดับเสถียรคือปริมาณการผลิตยังเท่าเดิม แต่ก็มีบางองค์กรที่มองว่าอัตราขุดเจาะทองคำจะชะลอตัวลง 0.5%และที่มองว่าอัตราขุดเจาะจะขยายตัวได้เพียงเล็กน้อยทั้งนี้ หน่วยงานการบริหารงานการเงินการคลังภาครัฐ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์(Government Fiscal Management Information System)หรือGFMSสังกัดRefinitiv(Thomson Reuters Financial & Risk ) คาดการณ์ว่า อัตราขุดเจาะทองคำในปี 2019 จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 3,265.5 ตัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3,281.7 ตัน ในปี 2018ขณะที่Metals Focusบริษัทที่ปรึกษาและทำการวิจัยด้านโลหะมีค่ะ ประเมินว่า อัตราขุดเจาะทองคำจะขยายตัวได้ 0.2%ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.076 ร้อยล้านออนซ์ ภายในปี 2019 นี้ นอกจากนี้ ทางMetal Focusได้คาดการณ์อัตราการขุดเจาะเพิ่มเติมจากบริษัทเหมืองทองคำบางแห่งว่ามีแนวโน้มการผลิตทองคำเพิ่มขึ้นเช่น Minoc Resources เพิ่มขึ้น 1 ตันต่อปี บริษัทเหมืองแร่ทองคำ Orminex Ltd.จากออสเตรเลียมีอัตราการขุดเจาะที่น่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ออรซ์ บริษัท Pan Africon Resources บริษัทผู้ผลิตทองคำระดับกลางในโจฮันเนสเบิร์ก อแฟริกาใต้ผลิตได้เพิ่มขึ้น 1.7 ตัน/ปี บริษัทเหมืองแร่ทองคำNordgold ของรัสเซีย 6.2 ตัน/ปี บริษัทเหมืองแร่ทองคำของแคนาดา Harte Gold Corp.ผลิตได้เพิ่มขึ้น 3.3 ตัน/ปี และ อีกหนึ่งบริษัทเหมืองแร่ทองคำของรัสเซีย Nornickelอัตราการขุดเจาะทองคำเพิ่มขึ้น 7.6 ตันต่อปี คงต้องรอดูรายงานอย่างเป็นทางการของWorld Gold Council หรือสภาทองคำโลกอีกครั้งว่า ในปี2019 นี้ปริมาณการผลิตทองคำทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งทั้งหมดจะสัมพันธ์กับราคาทองคำในตลาดโลกด้วยเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

10 ประเทศสะสมทองคำมากที่สุดอย่างเป็นทางการ


สภาทองคำโลกจัด 10 อันดับประเทศ ที่สะสมทองคำมากที่สุดอย่างเป็นทางการ โดยนับจากการถือครองผ่านธนาคารกลางของแต่ละประเทศ จนถึงเดือนสิงหาคม 2018 พบว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ยังคงครองแชมป์สะสมทองคำมากที่สุดจำนวน 8,133.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 71.9% ของทุนสำรองของประเทศทั้งหมด ธนาคารกลางเยอรมนี ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 3,384.2 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 68.4% ของทุนสำรองที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางเยอรมนี ค่อยๆลดการถือครองทองคำลง 6-7 ตันในแต่ละปี ขณะที่ธนาคารกลางอิตาลี มาเป็นอันดับ 3 ถือครองทองคำที่ 2,451.8 ตัน คิดเป็น 67% ของทุนสำรองทั้งหมดฝรั่งเศสถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 4 โดยธนาคารกลางฝรั่งเศสนั้นถือครองทองคำอย่างเป็นทางการที่ 2,435.4 ตัน คิดเป็น 65.1%ของทุนสำรองต่างประเทศที่มีอยู่ ส่วนรัสเซียขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 โดยมีปริมาณทองคำสะสมที่ 1,094.7 ตัน หรือคิดเป็น 9.7%ของทุนสำรองทั้งหมดของประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 ถึงเดือนสิงหาคม 2018 รัสเซียซื้อทองคำเพิ่มขึ้นและการลดถือครองดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโรลง หลังจากกลุ่มประเทศตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจากการที่รัสเซียใช้กำลังทหารแทรกแซงการเมืองในยูเครน จึงเป็นเหตุผลให้ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว รัสเซียมีปริมาณทองคำมากกว่า 1,000 ตันเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโรนั่นเอง จีนอยู่อันดับ 6มีปริมาณทองคำสะสมอย่างเป็นทางการแค่ 1,054.1 ตัน คิดเป็น 1.1% ของทุนสำรองทั้งหมดของจีนที่มีอยู่ 3.7ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสัดส่วนนี้ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับสัดส่วนเฉลี่ยระดับสากลที่ 10% สวิตเซอร์แลนด์ รั้งอันดับ 7 ,uปริมาณทองคำในครอบครอง 1,040 ตัน คิดเป็น 8% ของทุนสำรองทั้งหมดของประเทศ ส่วนญี่ปุ่นครองอันดับ 8 จากปริมาณการถือครองทองคำอย่างเป็นทางการ 765.2 ตันสภาทองคำโลกจัดให้เนเธอร์แลนด์ อยู่ในอันดับ 9 มีปริมาณทองคำ 612.5 ตัน คิดเป็น 54.3% ของทุนสำรองทั้งหมดของประเทศ และอันดับ10 ของประเทศสะสมทองคำ มากที่สุดอย่างเป็นทางการคือ อินเดีย มีทองคำ 557.7 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 7.3% ของทุนสำรองประเทศ ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับประเทศที่มีการสะสมทองคมอย่างเป็นทางการมากที่สุดจากการจัดอันดับของสภาทองคำโลก ในรายการไม่ได้บอกว่าไทยอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ แต่ปี 2018 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีทองคำสำรอง 154 ล้านตันเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

07/01/2562

วัยทอง


วัยทอง คือช่วงเวลาที่จะเปลี่ยนผ่านจากวัยผู้ใหญ่สู่วัยผู้สูงอายุถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญช่วงหนึ่งในชีวิต มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สรีระร่างกาย จิตใจและอารมณ์ อันมีผลมาจากรังไข่หยุดการทำงานหรือเรียกว่าเกิดภาวะหมดประจำเดือน(menopause) ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ1.ภาวะหมดระดูตามธรรมชาติ นับเมื่อขาดประจำเดือนไปแล้ว 1 ปี จากวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายถือเป็นอายุที่เข้าสู่วัยทองอย่างแท้จริง ผู้หญิงที่จะเข้าสู่วัยทองมีอายุเฉลี่ยประมาณ 50-51ปี2.ภาวะหมดระดูที่เกิดจากโรคและผลพวงของการรักษาโรค แบบนี้มักจะเกิดก่อนวัยอันควร คืออายุประมาณ 40-45 ปี เช่นการรับเคมีรักษามะเร็งชนิดต่างๆ การฉายรังสีรักษา การผ่าตัดที่ทำให้เกิดการสูญเสียเนื้อเยื่อรังไข่หรือมีการรบกวนต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรังไข่หรือโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง เป็นและการผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้งสองข้างก็จะทำให้เข้าสู่วัยทองทันทีเมื่อเข้าสู่วัยทองจะทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ ตามด้วยเหงื่อออกและหนาวสั่น แสบของช่องคลอดเนื่องจากผิวหนังแห้งและบางลง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรืออาจจะปัสสาวะเล็ดเวลาไอหรือจาม ความรู้สึกทางเพศลดลง นอนไม่หลับหรือหลับยาก ตื่นเร็ว และบางครั้งตื่นกลางคืนบ่อยๆนอกจากนี้อารมณ์ยังแปรปรวน เครียด หงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ โกรธง่าย ใจน้อย ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการหลงลืมง่าย ซึมเศร้าและเวียนศีรษะ มีไขมันเพิ่ม กล้ามเนื้อลดลง การเผาผลาญพลังงานลดลง ผิวหนังจะบางและแห้ง ซึ่งทำให้เกิดแผลได้ง่าย มีอาการคันตามผิวหนัง เกิดผื่นแพ้ได้ง่าย เส้นผมจะหยาบ แห้งบาง และ หลุดร่วงได้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือปวดตามข้อ กระดูกจะบางและเปราะ หักง่ายขึ้น ดังนั้นผู้หญิงวัยทองจึงต้องดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยเน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้แข็งงาดำ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว เป็นต้น งดรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงและเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญควรตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำทุกปี บางท่านอาจมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ร่วมด้วยส่วนอาการวัยทองของผู้ชายจะแบ่งออกได้ 2 อย่างหลักๆ คือ ทางกายภาพ และ ทางจิตใจอารมณ์ ทางกายภาพจะวัดที่ปริมาณของไขมันและกล้ามเนื้อในร่างกาย สังเกตได้จากขนาดของรอบเอวที่ใหญ่ขึ้น การสร้างฮอร์โมนเพศชายน้อยลง การแข็งตัวของอวัยวะเพศในตอนเช้าน้อยกว่า 10 ครั้งต่อเดือน หรือความต้องการทางเพศลด ส่วนอาการทางจิตใจอารมณ์นั้น จะรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจในการทำอะไร เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไป เศร้า เหงา หงุดหงิดง่าย ขี้บ่น ไม่อยากไปไหน อยากอยู่คนเดียว นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท นอกจากนี้ยังมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เล่นกีฬาได้ไม่ดีเท่าเดิม เป็นต้นอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตัวคนไข้และคนรอบ การดูแลรักษาสุขภาพและรู้เท่าทันโรควัยทองเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะตามมาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

ทำเลทอง 2019


ถ้าพูดถึงศูนย์กลางเศรษฐกิจ การคมนาคม แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนเมือง รายล้อมด้วยร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และสถานบันเทิงของกรุงเทพมหานคร ก็ต้องนึกถึง ถนนสุขุมวิท ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ของผู้อยู่อาศัย ความหลากหลายของการพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 55 หรือที่เรียกกันติดปากว่า ทองหล่อที่ได้ชื่อว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพชั้นในโดยเฉพาะที่พักอาศัยประเภทคอนโด ผลสำรวจของบริษัทวิจัยหลายแห่งยืนยันตรงกันว่า ทองหล่อเป็นย่านที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายจำนวนมากและได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าสูงมาก แม้ราคาต่อตารางวาจะสูงเกือบล้านบาทก็ตาม คอนโดในย่านทองหล่อส่วนใหญ่เป็นตึกสูงและอยู่ติดถนนเส้นหลัก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่นิยมอาศัยรวมกันเป็นครอบครัว ซึ่งแถบทองหล่อนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทั้งออฟฟิศ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงเรียนทั้งหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ รวมทั้งใกล้แหล่งธุรกิจการค้าต่างๆ จึงทำให้ทองหล่อเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าชั้นดี และมีปริมาณความต้องการสูง จากข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคอนโดมือสองในย่านทองหล่อ ราคาสูงขึ้นกว่าตอนเปิดตัว 28-88% เลยทีเดียว แต่หลังการประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่คาดว่าจะบังคับใช้ในปลายปี 2562 จะทำให้หลายพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการเป็นทำเลทองขึ้นมาทันที โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดตัดของสถานีรถไฟฟ้า ย่านเกษตร-นวมินทร์ ลาดพร้าว และตลิ่งชัน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนสีผังให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาด้านอสังหาฯ ในหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาที่ดินก็จะปรับขึ้น เช่นกัน คาดการว่าราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15% ต่อปีส่งผลให้ราคาบ้านปรับขึ้นตามเฉลี่ยไม่เกิน 10% นอกจากนี้ผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่จะทำให้มีสถานีที่เป็นจุดตัดรถไฟฟ้าประมาณ 50 สถานี มีพื้นที่รองรับการพัฒนาได้มากขึ้น มีการใช้ประโยชน์ของที่ดินตามถนนสายรองหรือตามซอยต่างๆมากขึ้นเพราะราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ดินบนถนนสายหลักที่ปัจจุบันราคาสูงมาก เช่น สายสุขุมวิทที่ราคาเกิน 2 ล้านบาทต่อตารางวา ส่วนถนนสายรองหรือตามซอยราคาแค่ 2-5 แสนบาทต่อตารางวาเท่านั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถแข่งขันได้มากขึ้น ทำให้ตลาดไม่เกิดการผูกขาดแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่ และอาจจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกสำหรับราคาที่พักอาศัยที่ถูกลง สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และคาดว่าราคาบ้านและราคาที่ดินภายใน 1-4ปีนี้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละมากกว่า 10% อย่างแน่นอน ผังเมืองรวมใหม่ของกทม.นี้เป็นการโอกาสให้นักลงทุน หรือผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มองหาทำเลใหม่ๆตามเมืองชั้นกลางและชั้นนอก แทนการกระจุกตัวอยู่ในเมืองชั้นในที่แม้จะสะดวกสบายแต่ก็มีราคาสูงมากเช่นกันเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

มาตรฐาน Hallmark


เมื่อปี 2560 สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ (GIT) ออกระเบียบกำหนดมาตรฐานระดับโลหะมีค่า (Hallmark) เพื่อวางมาตรฐานการตรวจสอบรับรองคุณภาพโลหะมีค่าให้กับผู้ประกอบการเครื่องประดับและอัญมณีของไทย ว่ามีเปอร์เซ็นต์ทองคำหรือเงินกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ เทียมเท่ามาตรฐานสากลในช่วงแรกการออกมาตรฐาน Hallmark ให้เป็นไปโดยความสมัครใจก่อน โดยลักษณะของตรา Hallmark ที่จะประทับบนผลิตภัณฑ์มี 3 รูปแบบคือ ตราของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ตราที่ระบุว่าเป็นทองกี่เปอร์เซ็นต์ และตราของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับปัจจุบันผู้บริโภคนิยมซื้อทองและเครื่องประดับทองเพื่อการลงทุนมากขึ้น แม้ตามร้านทองทั่วไปจะมีการระบุเปอร์เซ็นต์ทอง 96.5% ไว้แล้วแต่ในทางปฏิบัติบางครั้งเปอร์เซ็นต์ทองอาจไม่ถึงตามที่ป้ายกำหนดไว้ แต่หากผู้ประกอบการนำทองเข้ามาตรวจสอบกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ และมีการออกใบรับรองให้ไป ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อมากขึ้น การดำเนินการในช่วงแรกผู้ประกอบการขายทองคำ หรือร้านทองตู้แดง อาจมีความกังวลใจถึงภาระค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบบ้าง แต่ในอนาคตหากไทยสามารถทำให้เครื่องหมายมาตรฐานHallmark ได้รับการยอมรับในระดับสากลเช่นเดียวกับประเทศผู้ซื้อสหรัฐ สหภาพยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ก็จะช่วยให้สามารถส่งออกทองคำและเครื่องประดับ ได้มากขึ้น ใบรับรอง Hallmark จึงถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องประดับของไทยให้เทียบเท่าประเทศผู้ค้าทองสำคัญๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ มาตรฐานนี้จะไม่ส่งผลกระทบด้านต้นทุน เพราะเป็นการสมัครใจ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ผลิตที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าปัจจุบัน สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับทองเป็น 1 ใน 5 สินค้าที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลก็มีนโยบายผลักดันไทยให้เป็นฐานการค้าอัญมณีของโลก เหมือนสิงคโปร์ที่เป็นฐานการค้าที่สำคัญ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับจึงจะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศผู้นำเข้าสินค้ากลุ่มทองและเครื่องเงินในต่างประเทศ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ให้การยอมรับมาตรฐาน Hallmark ของไทย เช่นเดียวกับมาตรฐานของประเทศผู้นำเข้าเหล่านั้น และอาจจะพิจารณายกร่างเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไปเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

เปิดรายได้ธุรกิจร้านทอง


ร้านขายทอง หรือที่เรียกว่าร้านทองตู้แดงนั้น เป็นร้านขายทองรูปพรรณที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน แต่เดิมมีรายได้หลักจากการขายทองรูปพรรณและทองคำแท่ง แต่ปัจจุบันรูปแบบการหารายได้ของร้านทองเหล่านี้หลากหลายขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพราะมองว่ารายได้จากการค้าปลีกทองรูปพรรณ และทองคำแท่งจากค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ ซึ่งจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับลวดลายและน้ำหนักของทอง ส่วนทองแท่งจะได้เป็นค่าบล็อคทองที่หล่อมาเป็นทองคำแท่ง ซึ่งมีกำไรที่ไม่สูงมากนักทุกวันนี้ร้านทองส่วนใหญ่จึงมีธุรกิจอื่นๆ เข้ามาเสริมการค้าทองคำอย่างครบวงจร นอกเหนือจากการค้าปลีกทอง เช่นธุรกิจลงทุนทอง การซื้อขายทองล่วงหน้า มีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ขยายช่องทางธุรกิจ เช่นการซื้อขายของผ่านออนไลน์ หรือการร่วมกับแอปไลน์ เปิดบริการ ออมทองผ่าน Line Finance ให้นักลงทุนที่สนใจลงเงินออมเพื่อซื้อทองคำของเป็นต้น โดยร้านทองจะตั้งบริษัทขึ้นมาทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำโดยเฉพาะ เช่นบริษัทด้านการลงทุนทองคำแท่ง โครงการออมทอง การนำเข้า-ส่งออก ทองคำแท่ง และเงิน รวมถึงการรับซื้อเศษทอง เพื่อนำมาหลอมใหม่ให้ได้ทองคำความบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานสากลเปิดบริษัทนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย sub-broker ซื้อขายกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นตัวแทนขายกองทุนรวมต่างๆ ของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ชั้นนำ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นต้นเหล่านี้เป็นช่องทางสร้างรายได้และขยายธุรกิจการค้าทองคำให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามการค้าปลีกทองรูปพรรณหรือทองคำแท่งก็ยังมีความจำเป็นต่อความอยู่รอดของร้านทองตู้แดง ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจรูปแบบใดความน่าเชื่อถือ และความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าก็ยังมีความสำคัญที่สุด อีกทั้งการกล้าที่จะรับซื้อทองในช่วงเวลาที่ทองคำมีราคาสูงมาก หรือกล้าขายทองคำในราคาที่ทองคำมีราคาลงต่ำมากๆก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วยปัจจุบันเราจึงเห็นร้านทองใหญ่ๆเปิดบริการธุรกิจค้าทองคำแบบครบวงจรแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นห้างทองโต๊ะกัง ฮั่วเซ่งเฮง จินฮั้วเฮง ทองใบห้างทองเอเอเยาวราช เป็นต้น เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

ปิดทองหลังพระ


ปิดทองหลังพระ เป็นสำนวนในภาษาไทยหมายความว่า การประกอบคุณงามความดี โดยไม่ได้มุ่งหวังจะให้ใครรู้หรือไม่ได้ป่าวประกาศให้ผู้อื่นรับรู้หรือต้องการชื่อเสียงและคำสรรเสริญจากผู้อื่น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยพระราชทานพระบรมราโชวาทในเรื่อง การปิดทองหลังพระไว้ว่า“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้” (พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 25 กรกฎาคม 2506)นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"ยังทรงใช้เวลาว่างวันละเล็กวันละน้อย พระราชนิพนธ์เรื่องนายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ ขึ้นโดยแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเรื่อง"A Man Called Intrepid"ของ William Stevenson โดยใช้เวลาในการพระราชนิพนธ์นาน สามปี จึงจบบริบูรณ์ เนื้อหาในหนังสือนายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ เขียนจากชีวิตจริงของ นายอินทร์หรือ Intrepid ซึ่งเป็นรหัสของ เซอร์วิลเลียม สตีเวนสัน หัวหน้าหน่วยราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านแผนร้ายของอดอร์ฟ ฮิตเลอร์ซึ่งหวังแผ่อำนาจเข้าครอบครองโลก โดยจัดตั้งหน่วยงานลับขึ้น เพื่อหาความลับทางทหารของเยอรมันรายงานต่อ เซอร์วินสตัน เชอร์ซิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวล ของสหรัฐ ซึ่งได้ร่วมมือกันวางแผนต่อต้านฮิตเลอร์จนฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ ว่ากันว่า หากนายอินทร์ และผู้ร่วมงาน ทำงานล้มเหลว ฮิตเลอร์อาจจะชนะสงคราม และโฉมหน้าของโลกคงไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ สำหรับการปฏิบัติงานของนายอินทร์ และพวก มีผู้รู้เบื้องหลังเพียงไม่กี่คน จนกระทั่งเมื่อมีหนังสือ...A Man Called Intrepid...ตีพิมพ์ จึงทำให้"ความลับ"ที่ปิดมานานถูกเปิดเผย นายอินทร์ และผู้ร่วมงาน ที่ร่วมกันทำงานด้วยความกล้าหาญ เสียสละ เป็นผู้ยอมอุทิศแม้ชีวิตเพื่อความถูกต้อง ความยุติธรรม เสรีภาพและสันติภาพของโลก พวกเขาทั้งหมดทำงานโดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคำสรรเสริญเยินยอใด ๆ พวกเขาคือ"ผู้ปิดทองหลังพระ"อย่างแท้จริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ใช้เวลานานในการแปล หนังสือเล่มนี้ยาวนานเพราะนอกจากมีพระราชกรณียกิจมากมายแล้ว หนังสือ"A Man Called Intrepid"py’มีเนื้อหาที่สลับซับซ้อนและอิงประวัติศาสตร์ จึงยากต่อการแปล แต่พระองค์ทรงเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติจึงทรงใช้เวลาและพระราชวิริยะอุตสาหะแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ มาเป็นภาษาไทย เพื่อให้คนไทยได้อ่าน "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ"และเข้าใจคำว่าปิดทองหลังพระอีกด้วยเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

ลงรักปิดทอง


การลงรักปิดทอง จัดอยู่ในงานช่างสิบหมู่ของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งช่วงพุทธศตวรรษที่ 22 - 23 เป็นช่วงที่งานศิลปะลงรักปิดทองเจริญรุ่งเรืองที่สุด และในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 3 – 4) เป็นช่วงที่ลงรักปิดทองมีการแพร่หลายและเฟื่องฟูที่สุดรักคือ ยางจากต้นรัก มีคุณลักษณะเหนียวเป็นยาง สามารถเกาะจับ ทา หรือ เคลือบผิวได้ดี เมื่อรักแห้งสนิทแล้วมีคุณภาพคงทนต่อ ความร้อน ความชื้น กรด หรือ ด่างอ่อนๆ และ ยังเป็นวัสดุที่ใช้เชื่อมสีเข้าด้วยกัน เชื่อมระหว่างผิวพื้นกับวัสดุ สำหรับตกแต่ง และยังใช้ผสมสีเข้าด้วยกัน คนไทยรู้จักใช้ยางรักมาแต่โบราณกาล การลงรักปิดทองก็คือทายางรัก แล้วปิดด้วยทองคำเปลวทับลงไปบนผิววัสดุต่างๆ เป็น กระบวนการตกแต่งผิวภายนอก ของศิลปวัตถุ หรือองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรมแบบไทย ทำให้ผิวของศิลปวัตถุนั้น เป็นสีทองคำเหลืองอร่าม และ เป็นมันวาวเหมือนทำด้วยทองคำ งานช่างลงรักปิดทองแบ่ง ๔ ลักษณะงาน คืองานลงรักปิดทองทึบ หมายถึง การปิดทองคำเปลวลงบนงานศิลปวัตถุต่างๆ ซึ่งสร้างขึ้นด้วย ดินเผา ปูนปั้น ไม้แกะสลัก หรือ โลหะหล่อ เพื่อให้ผิวภายนอกของศิลปวัตถุนั้นๆ เป็นผิวทองคำ และเรียบเกลี้ยง เช่น การลงรักปิดทองพระพุทธรูป หรือรูปเคารพต่างๆงานลงรักปิดทองล่องชาด คำว่า ล่อง หมายถึง รอยลึกต่ำลงไประหว่างพื้นผิวปรกติ ล่องที่ได้รับการขุดหรือควักลงไปให้ต่ำเป็นลวดลาย ชาด หมายถึง วัตถุสีแดงชนิดหนึ่ง การปิดทองล่องชาดจึงหมายถึงใช้สีแดงปิดลงไปในร่องระกว่างลวดลายบนงานศิลปวัตถุประเภทต่างๆ แล้วปิดทองคำเปลวทับลงไป งานลงรักปิดทองล่องกระจกหมายถึง การลงรักลงบนงานศิลปวัตถุต่างๆที่ทำด้วย ปูนปั้น ไม้แกะสลัก ดินเผา แล้วปิดทองคำเปลวทับ ลักษณะคล้ายกันกับงานลงรักปิดทองทึบ แต่จะมีลักษณะเฉพาะ ที่มีร่องกระจกเพิ่มขึ้นมาการลงรักปิดทองลายฉลุหมายถึง งานตกแต่งลักษณะหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาการทำลวดลายตกแต่งในที่สูง โดยการทำลายบนกระดาษหรือหนังแพะก่อนแล้วฉลุลายตามแบบ นำน้ำยาไปทาที่พื้นตรงที่จะทำให้เป็นลวดลาย แล้วเอาแบบฉลุลายปะติดเข้าไปตรงที่ต้องการ แล้วปิดทับดัวยทองคำเปลวปิดลงบนตัวลายให้ทั่ว พอทองจับติดพื้นดี แล้วจึงแกะแบบออก เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

การทำทองคำเปลว จากทองคำแท้


คนไทยรู้จักการใช้ทองคำเปลวมาช้านาน แต่เดิมนั้นทองคำเปลวถูกนำมาใช้ปิดองค์พระพุทธรูปเพื่อแสดงความเคารพสักการะ หรือนำไปใช้ลงรักปิดทองในงานช่างไทย แต่ปัจจุบันมีการนำทองคำเปลวมาใช้เพื่อประโยชน์ที่หลากขึ้นทั้งใช้มาร์คหน้า หรือผสมในเครื่องสำอางเพื่อความงาม หรือแม้กระทั่งนำไปตกแต่งอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าและบ้างก็เชื่อว่าช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ทองคำเปลว คือการตีแผ่นทองคำแท้นับร้อยนับพันครั้ง ให้แผ่ออกเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งผู้ผลิตจะซื้อทองมาแล้วแบ่งเป็นชุดๆ เรียกว่าแบ่งทองช่าง เช่นแบ่งเป็นชุด ละ 2 บาท ซึ่งจะมีน้ำหนักประมาณ 30 กรัม เมื่อถูกตีและถูกตัดออกมาแล้วจะได้แผ่นทองนับพันชิ้น ทองแผ่นเล็กๆนี้จะถูกเขี่ยลงบนกลางกระดาษที่มีแป้งรองอยู่เพื่อไม่ให้ทองติดกระดาษ โดยขั้นตอนการเขี่ยทองลงไปบนแผ่นกระดาษนี้เรียกว่า การเขี่ยกุบ จากนั้นนำกระดาษมาซ้อนทับกันแล้วตี กุบจำนวน 1 ขอน(กุบ 750 ชิ้นเรียกว่า 1 ขอน)จะถูกนำมาใส่ปอกที่ทำด้วยหนังวัว ซึ่งมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงตีได้ดี นำกุบไปตีบนลานหิน ด้วยค้อนที่ตีทำมาจากทองเหลืองหนัก 5 กิโลกรัม ช่างที่ตีกุบต้องมีความชำนาญและประสบการณ์ เพราะต้องรู้ทั้งน้ำหนักและจังหวะในการตี เพื่อไม่ให้ทองที่อยู่ในกระดาษขาดและแผ่ออกเป็นแผ่นบางๆเสมอกัน ขณะตีช่างจะนั่งบนคานไม้ไผ่เพื่อช่วยผ่อนแรงในการตี แผ่นทองข้างในจะขยายขนาดเป็นแผ่นใหญ่ขึ้นถึง 10 เท่า ซึ่งต้องใช้เวลาในการตีนาน 2 ชั่วโมง จากนั้นแกะแผ่นทองที่ผ่านการตีนี้ ไปใส่แผ่นกระดาษที่ใหญ่ขึ้น เรียกว่าการใส่ฝัก แล้วตีอีกครั้งซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก ต้องใช้เวลาในการตีนานประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทองจะขยายขนาดใหญ่ขึ้น ช่างตีทองต้องมีความระมัดระวังในการตีเพราะแผ่นทองจะบางมากถ้าแผ่นทองขาดก็จะขายไม่ได้ เมื่อตีจนแผ่นทองบางได้ที่จะถูกแกะออกใส่ในกระดาษสา แล้วตัดด้วยไม้ไผ่ที่ถูกเจียนขอบจนคม เรียกขั้นตอนนี้ว่า การตัดทอง แบ่งเป็น 2 ขนาดคือทองเต็ม เป็นทองคำเปลวขนาดใหญ่เต็มแผ่นกระดาษ และทองจิ้ม เป็นแผ่นทองคำเปลวที่มีขนาดเล็กไม่เต็มแผ่นกระดาษ บนกระดาษห่อทองคำเปลวทุกแผ่นจะมีการประทับตราร้านผู้ผลิตทองคำเปลวทุกแผ่น การจำหน่ายทองทำเปลว จะขายเป็นชุดๆละ 500 ใบ มัดรวมกัน ราคาขายก็จะขึ้นอยู่กับราคาทองคำแท่งในตลาดโลก ส่วนเศษทองที่เหลือจากการผลิตจะถูกรวบรวมส่งไปทำการหลอมใหม่อีกครั้ง ปัจจุบันมีการทำทองคำเปลวสังเคราะห์มากขึ้นคือไม่ได้ทำจากทองคำแท้ และขายในราคาที่ถูกกว่า เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

02/01/2562

การทำทองคำแท่ง-ทองคำรูปพรรณ ต่างกันอย่างไร


คนไทยมักให้ทองคำเป็นของขวัญของกำนัลในวาระสำคัญต่างๆเช่น รับขวัญเด็กเกิดใหม่ ใช้เป็นสินสอดทองหมั้น หรือมอบให้กับคนรักในโอกาสพิเศษ ที่นิยมให้กันในรูปแบบของทองรูปพรรณ แต่ปัจจุบันหันมาให้เป็นทองคำแท่งมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จเหมือนทองรูปพรรณ และการให้ทองเป็นไปเพื่อการลงทุนมากกว่าใช้เป็นเครื่องประดับ ในการผลิตทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณในบ้านเรานั้นมีการนำเข้าทอง Four nine หรือ ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% จากต่างประเทศ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตซึ่งขั้นตอนการผลิตจะแตกต่างกันคือ การทำทองคำแท่งจะนำทองคำ Four nine ไปหลอมละลาย ทองคำก็จะเปลี่ยนสถานะจากของแข็งกลายเป็นของเหลว แล้วก็นำไปเทใส่เบ้าพิมพ์ เมื่อเย็นตัวลงแล้วจึงแกะออกจากเบ้าพิมพ์จากนั้นนำมารีดเพื่อให้ได้ขนาดและน้ำหนักตรงตามความต้องการของร้านทองแต่ละร้านที่สั่งผลิต แล้วนำไปตัดและปั๊มให้ได้ขนาดตามแม่พิมพ์ ทองส่วนที่เกินจะถูกขูดออกไปเพื่อให้ได้น้ำหนักพอดี โดยต้องทำการชั่งน้ำหนักเป็นระยะๆ เนื่องจากหากน้ำหนักเกินผู้ผลิตก็จะขาดทุน แต่ถ้านำหนักขาดก็จะไม่ได้ตามมาตรฐานตามที่ร้านทองกำหนด ขั้นตอนที่ยากที่สุดของการทองคำแท่ง 96.5% คือการขัดเงา คนที่จะทำการขัดได้จะต้องมีประสบการณ์และมีความชำนาญส่วนการทำทองรูปพรรณเริ่มจากการนำทองคำแท่งมารีดเป็นเส้นเล็กๆ ตามลวดลายและขนาดที่ลูกค้าสั่ง แล้วนำไปขึ้นรูป ซึ่งการขึ้นรูป สลักลาย ต้องชั่งน้ำหนักตลอดเวลา การทำทองรูปพรรณแต่ละลายช่างทองต้องมีทั้งทักษะ ความชำนาญและประสบการณ์ จากนั้นก็นำชิ้นงานชิ้นเล็กๆ เหล่านั้นมาร้อยเชื่อมประสานให้เป็นทองเส้นเดียวกัน โดยใช้น้ำยาประสาน น้ำหนักของน้ำยาประสานก็ต้องมีปริมาณไม่เกินกว่าที่ สคบ. กำหนด คือต้องไม่เกิน 3% ของน้ำหนักทอง ซึ่งน้ำยาประสานก็คือทองคำที่มีความเข้มข้นกว่านั่นเองขั้นตอนสุดท้ายของการทำทองรูปพรรณคือ การวัดขนาดและการต้มสี เพื่อให้ทองคำมีความแวววาว สวยงาม คล้ายกับขั้นตอนการขัดเงาในทองคำแท่ง โดยนำไปต้มกับดินประสิว ล้างด้วยน้ำกรด และขัดเงา การทำทองคำรูปพรรณ ต้องอาศัยชั่งฝีมือและใช้เวลาในการทำนานจึงเป็นที่มาของการคิดค่ากำเหน็จตามความยากง่ายของทองรูปพรรณแต่ละลาย และระยะเวลาในการผลิตนั่นเองเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

ระบบมาตรฐานทองคำ


ระบบมาตรฐานทองคำ (gold standard) เป็นระบบมาตรฐานการเงินระหว่างประเทศระบบแรกผู้นำมาใช้ประเทศแรกคือ สหราชอาณาจักร โดยการผูกค่าเงินสกุลปอนด์สเตอร์ลิงไว้กับทองคำ ซึ่งพัฒนามาจากการใช้เหรียญทองคำทำหน้าที่แทนเงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า การวัดค่าของสินค้าและบริการ และเป็นเครื่องเก็บรักษามูลค่า ก่อนที่ประเทศต่างๆ จะใช้ตามกันมาเพื่อทำการค้าระหว่างกันในช่วง ปี ค.ศ.1870 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เงินปอนด์สเตอร์ลิงได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม การค้าระหว่างประเทศ การทหาระการเมืองและเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีการค้นพบทองคำปริมาณมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ ทำให้ปริมาณทองคำในโลกเพิ่มขึ้น ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น จึงได้นำระบบมาตรฐานทองคำมาใช้ในระบบการเงินระหว่างประเทศของตนมากขึ้นในช่วงที่มีการใช้ระบบมาตรฐานทองคำ ระบบการเงินระหว่างประเทศถือว่ามีเสถียรภาพมาก เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีสงคราม ปัญหาความขัดแย้งของประเทศต่างๆมีน้อย มีการขยายตัวของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมากโดยมีเงินปอนด์สเตอร์ลิง เป็นเงินสกุลหลักที่มีความสำคัญ ระบบมาตรฐานทองคำดำเนินมาจนถึงปี ค.ศ.1914 ที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมสงครามได้ประกาศยกเลิกการแลกเปลี่ยนเงินตรากับทองคำ รวมถึงห้ามส่งออกทองคำเพื่อรักษาทุนสำรองของประเทศ หลังจากนั้นประเทศอื่นๆ ก็ได้ทยอยยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำเช่นกัน จึงทำให้ระบบมาตรฐานทองคำล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1932 อาจสรุปได้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบมาตรฐานทองคำขาดเสถียรภาพและถูกยกเลิกไป คือ การขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินปอนด์ เนื่องจากสหราชอาณาจักรประสบปัญหาเศรษฐกิจชะงักงัน จนสูญเสียบทบาทผู้นำการค้าและศูนย์กลางทางการเงินของโลก และมีศูนย์กลางการเงินเพิ่มขึ้นเช่น สหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส ยิ่งทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศมีความซับซ้อนและ ทำได้ยากยิ่งขึ้นปริมาณทองคำที่มีอยู่จำกัดและการถือครองทองคำโดยประเทศต่างๆ มีความไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ระบบมาตรฐานทองคำขาดเสถียรภาพ ราคาทองก่อนและหลังเกิดสงครามมีราคาเท่าเดิมในขณะที่ราคาสินค้า เพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งหลายประเทศขาดแคลนทองคำ จึงเปลี่ยนมาใช้เงินตราสกุลหลักเช่น เงินปอนด์ ดอลลาร์สหรัฐ และฟรังก์ เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศแทนการใช้ทองคำ จึงเป็นการทำให้ระบบมาตรฐานทองคำขาดเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และการเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในหลายประเทศโดยเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 ทำให้ประเทศต่างๆ ไม่สามารถปฏิบัติตามกติกาของระบบมาตรฐานทองคำ ทำให้ระบบมาตรฐานทองคำถูกยกเลิกไปในที่สุดเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

ปาล์มทองคำ


ปาล์มทองคำ เป็นรางวัลสำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับโลก นอกเหนือจากรางวัลออสการ์ และรางวัลลูกโลกทองคำที่แจกกันในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรางวัลปาล์มทองคำนี้ แจกกันเป็นประจำทุกปีในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศสเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1946 เป็นเวทีที่ผู้กำกับภาพยนตร์จากทั่วโลกจะได้มีโอกาสนำเสนอผลงานของตัวเอง เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่มีการแข่งขันสูงมากและผู้ได้รับรางวัลก็เป็นที่ยอมรับว่าผลงานมีคุณภาพจริง เพราะตัดสินโดยโดยมีศิลปินจากนานาชาติซึ่งล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและได้รับการยอมรับในวงการศิลปะภาพยนตร์ทั้งสิ้นเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เริ่มใช้ชื่อ รางวัลปาล์มทองคำ(Palme d’Orครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 โดยมอบให้กับเดลเบิร์ต มานน์ ในผลงานภาพยนตร์เรื่อง Marty ก่อนหน้านั้น รางวัลที่มอบให้กับภาพยนตร์ที่ดีที่สุดคือรางวัล "Grand Prix of the International Film Festival" โดยรูปแบบของตัวรางวัลไม่ใช่เป็นปาล์มอย่างที่เห็นทุกวันนี้ แต่จะออกแบบใหม่ทุกปีโดยศิลปินร่วมสมัยในแต่ละปี จนกระทั่ง ปี 1954 คณะกรรมการจัดงานเล็งเห็นว่าควรมีการปรับรูปแบบของรางวัลให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น จึงได้นำปาล์มซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่นเมืองคานส์มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยให้ช่างอัญมณีชื่อลูเซียน ลาซอน เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานถ้วยรางวัลปาล์มทองคำใบแรก และศิลปินชื่อ เซบาสเตียงเป็นผู้ออกแบบแท่นประติมากรรม เพื่อให้รางวัลนี้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1964 ได้มีการนำรางวัล Grand Prix of the International Film Festival กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เกี่ยวกับปาล์ม จนกระทั่งถึงปี1975 รางวัลปาล์มทองคำถูกนำกลับมามอบให้กับผู้ชนะอีกครั้งและถือเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ดีรางวัลปาล์มทองคำมีการออกแบบใหม่หลายครั้ง โดยปี 1984 เชอร์รี่ เดอ บูคเน้ (Thierry de Bourqueney)ได้ออกแบบใหม่โดยให้ใบปาล์มมีฐานเป็นรูปปิรามิดสีน้ำตาล และมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในปีค.ศ.1992 ให้ฐานปิรามิดทำจากคริสตัล ปีค.ศ. 1998 ปาล์มทองคำถูกออกแบบใหม่อักครั้งโดยคาโรลีน กรูโอซี-ชอยเฟเล ผู้บริหารและศิลปินจากโชพาร์ด ให้มีใบปาล์ม 19 ใบทำด้วยทองคำ 24 กะรัตประดับบนฐานสี่เหลี่ยมที่ทำจากคริสตัล บรรจุในกล่องหนังโมร็อกโคสีน้ำเงิน ปี ค.ศ. 2014 โชพารด์ในฐานะผู้ผลิตรางวัลนี้ได้เพิ่มลูกเล่นใหม่เข้าไปในรางวัลเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย โดยใช้ทองคำที่เรียกว่า FAIRMINED พร้อมสลักชื่อนี้ไว้ที่หลังใบปาล์ม เพื่อแสดงว่าทองคำที่นำมาทำรางวัลนี้เป็นทองคำที่ผ่านกระบวนการสกัดจากเหมืองแร่ทองที่ตรวจสอบได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นความตั้งใจของผู้ผลิตและผู้จัดงานที่ต้องการให้รางวัลแก่ผู้สร้างหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยทองคำที่ดีเยี่ยมที่สุดเช่นเดียว ผู้กำกับจากประเทศไทยที่เคยได้รับรางวัลปาล์มทองคำ คือคุณ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล จากภาพยนตร์เรื่อง ลุงบุญมีระลึกชาติ (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) ในปี ค.ศ. 2010 เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

Sovereign Hill เหมืองทองในตำนาน


เมืองบาราลาด รัฐวิคตอเรีย เป็นที่ตั้งของเหมืองทอง โซเวอร์เรนจ์ ฮิลล์ (Sovereign Hill) จุดเริ่มต้นของยุคตื่นทอง ของออสเตรเลีย เมื่อมีการขุดพบทองคำครั้งแรกในปี ค.ศ. 1851 จากนั้นก็มีผู้คนอพยพกันมาจับจองพื้นที่เพื่อขุดทองกันอีกหลายหมื่นคน โซเวอร์เรนจ์ ฮิลล์ อยู่ห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก เป็นแหล่งที่มีการขุดพบทองจำนวนมากถือเป็นแหล่งขุดทองหมายเลขหนึ่งของออสเตรเลียที่ดึงดูดนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลกมารวมกัน ประชากรที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทำให้วิคตอเรียกลายเป็นรัฐที่มีความมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และทำให้บัลลารัตเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุด ในยุคตื่นทองระหว่างปี1851-1869 ทองคำที่ โซเวอร์เรนจ์ ฮิลล์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดย James Dunlop และ James Reagan เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1851 ทองคำที่พบมีลักษณะเป็นกรวดทราย ซึ่งฝังตัวรวมอยู่กับก้อนหินและเนินเขา การคัดแยกต้องใช้วิธีร่อนทองเพื่อกรองทรายออกเมื่อกรวดทรายทองคำบนผิวดินเริ่มร่อยหรอลง จึงเริ่มมีการขุดลงไปใต้ดิน ทำเป็นเหมืองทอง และมีการค้นพบทองคำบริสุทธิ์ 99 % น้ำหนัก 69 กิโลกรัม ชื่อ Welcome Nugget ในปี 1858 ในขณะนั้นมีราคา 10,000 ปอนด์ เป็นทองคำก้อนใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ถูกค้นพบเมื่อทองคำถูกขุดออกไปจนหมด ยุคตื่นทองจบสิ้นลง หลายเมืองมีขนาดเล็กลง บางเมืองกลาย เป็นเมืองร้างมีเพียงเมืองบัลลารัต และเบนดิโก เท่านั้น ที่ยังคงความเจริญเติบโตและปัจจุบัน โซเวอร์เรนจ์ ฮิลล์ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโซเวอร์เรนจ์ ฮิลล์ (Sovereign Hill)เป็นสถานที่จำลองยุคตื่นทองบนพื้นที่ขนาด 60 เอเคอร์ หรือประมาณ 150 ไร่ เล่าเรื่องราวความเป็นมาของยุคตื่นทองและวิธีชีวิตของผู้คนในยุคนั้น มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมายเพื่อย้อนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ทั้งการหลอมทอง การชมเหมืองทองใต้ดินและการทดลองร่อนหาทองด้วยตัวเองแม้จะหมดยุคตื่นทองไปแล้วแต่ปัจจุบัน ออสเตรเลียก็ยังเป็นผู้ผลิตทองคำมากเป็นอันดับสองของโลกที่ประมาณ 270 ตัน รองจาก จีนที่ผลิตทองคำมากที่สุดที่ 455 ตัน และยังเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองแร่ทองคามากที่สุดด้วยเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

นายทองคำแห่งกรุงศรีอยุธยา


นายทองคำ เป็นชื่อสามัญชนของสมเด็จพระเพทราชา พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 28 แห่งกรุงศรีอยุธยาเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา และทรงเป็นพระสหายที่ถูกเลี้ยงดูควบคู่มากับขุนหลวงนารายณ์หรือสมเด็จพระนารายณ์ มาตั้งแต่วัยเยาว์ นายทองดำมีพระมารดาเป็นพระนมในสมเด็จพระนารายณ์ เบื้องแรกรับราชการเป็นจางวางกรมช้าง ต่อมามีความดีความชอบในการทำสงคราม จึงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระนารายณ์ให้รับใช้ใกล้ชิด มีบรรดาศักดิ์เป็นพระเพทราชา ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระคชบาล ซึ่งมีอำนาจค่อนข้างมากในเวลานั้น ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2231 เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประชวรหนักด้วยโรคไอหืดใกล้สวรรคต พระเพทราชาได้ชิงกระทำยึดอำนาจในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2231 โดยมีหลวงสรศักดิ์เป็นกำลังสำคัญ ซึ่งการกระทำของพระเพทราชานั้นมีชาวกรุงศรีอยุธยาสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวบ้าน ขุนนาง และพระสงฆ์ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์ ที่ให้อำนาจคอนสแตนติน ฟอลคอลมากเกินไป จนเกรงว่าจะถูกฝรั่งเศส ยึดครองบ้านเมือง ในการยึดอำนาจครั้งนั้น ได้มีการสังหารพระปีย์ พระราชโอรสบุญธรรมด้วยการผลักตกจากระเบียงพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ และกุมตัวคอนสแตนติน ฟอลคอน หรือเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ไปประหารชีวิต เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2231 เมื่อบ้านเมืองสงบแล้วนายทองคำ จึงทำพระราชพิธีปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระเพทราชา ณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์แล้ว ได้ขับไล่ทหารฝรั่งเศสออกไปจากกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทรงอนุญาตให้บาทหลวง และพ่อค้าชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาต่อไปได้ สำหรับข้าราชการและราษฎรไทยที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส ก็ถูกส่งกลับกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน นับเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างกรุงศรีอยุธยากับฝรั่งเศส ตั้งแต่นั้นมา สมเด็จพระเพทราชา ทรงครองราชย์ได้ 15 ปี ก็เสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2246 สิริ รวมพระชนมมายุได้ 71 พรรษา เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

ทองคำแห่งหิมาลัย


หิมาลัย มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง ที่อยู่ของหิมะ เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย เป็นที่ตั้งของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก และยังมียอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 7,200 เมตร อีกมากกว่าร้อยยอด กินพื้นหลายประเทศ ตั้งแต่อินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน จีน ภูฏาน เนปาล และหลังคาโลกอย่างทิเบตที่เทือกเขาหิมาลัยมีสมุนไพรชนิดหนึ่งชื่อ ถั่งเช่า หรือตังถั่งเช่า หรือตังถั่งแห่เช่า หรือที่ชาวทิเบตเรียกว่ายาร์ซากุมบา ซึ่งมีความหมายว่า ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า เกิดจากหนอนผีเสื้อแถบที่ราบสูงธิเบตที่จำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาวได้ถูกสปอร์ของเห็ดรา Ophiocordyceps มาอาศัยเป็นปรสิตและเติบโตสร้างเส้นใยออกมาทางส่วนหัวของตัวหนอนในฤดูร้อน พบได้มากที่บางมณฑลในทิเบต เทือกเขาหิมาลัย เนปาล และภูฏาน ถั่งเช่า มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงครอบจักรวาล บรรเทาอาการหย่อนและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ด้วย ถั่งเช่ามีความต้องการในท้องตลาดสูงทำให้มีราคาแพงยิ่งกว่าทองคำจนได้ชื่อว่าทองคำแห่งหิมาลัย ว่ากันว่า ซุปถั่งเช่าบำรุงกำลังและสมรรถนะทางเพศ ที่ปรุงจำหน่ายในลาสเวกัส มีราคาถึงชามละ 688 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือ ราว 23,000 บาท แม้จะใช้ถั่งเช่าเป็นวัตถุดิบเพียงแค่ 7 กรัมเท่านั้น ปัจจุบันมีผู้มีอาชีพเก็บถั่งเช่าในแถบเทือกเขาหิมาลัยหลายแสนคน และมีคนต่างถิ่นหลั่งไหลเข้ามาขุดทองที่หิมาลัยกันมากขึ้น มูลค่าการค้าถั่งเช่าในตลาดโลกมีมากถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯผลจากความต้องการบริโภคถั่งเช่าที่พุ่งสูงขึ้นนี้เอง ทำให้มีการอพยพเข้ามาหาถั่งเช่าของคนจำนวนมากส่งผลต่อระบบนิเวศในแถบเทือกเขาหิมาลัยที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว คุณภาพดินเสื่อมลง ต้นไม้และพุ่มไม้ถูกตัดมาทำฟืนเป็นจำนวนมาก และมีการทิ้งขยะในบริเวณแคมป์ที่พักของผู้เก็บถั่งเช่าจำนวนมากทำให้ปริมาณถั่งเช่าเริ่มลดลง นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมาบางแห่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียสทำให้เชื้อราถั่งเช่าเจริญเติบโตในพื้นที่เดิมได้ยาก และเชื้อราไม่สามารถขึ้นไปอยู่ในที่สูงซึ่งอากาศเย็นกว่าได้ เพราะเชื้อราต้องอาศัยซากหนอนผีเสื้อเป็นอาหาร แต่หนอนผีเสื้อสามารถไม่อพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูงได้ จึงมีแนวโน้มว่าถั่งเช่าอาจสูญพันธุ์ถึง 1 ใน 3 ของถั่งเช่าที่มีทั้งหมด ภายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

Brexit กับราคาทองคำ


วันที่ 23 มิถุนายน 2559 พลเมืองกว่า 17 ล้านคนของสหราชอาณาจักร(UK)ลงประชามติสนับสนุนให้ UK ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกเรียกกันในโลกการเงินว่า “Brexit” (มาจากคำว่า British รวมกับ Exit) ซึ่งส่งผลค่อรูปแบบเศรษฐกิจ การเงินการลงทุนของUK และของตลาดโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้รวมถึงราคาทองคำและการลงทุนในทองคำในช่วงที่ผล Brexit ประกาศออกมา ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างแรงทำจุดสูงสุดที่ระดับ1,324 เหรียญดอลลาร์ต่อออนซ์ จากที่ก่อนจะทราบผล Brexit ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 1,260 เหรียญดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมาแรง เป็นโอกาสดีของนักลงทุนในการขายทำกำไร เหตุการณ์ Brexit นี้ทำให้นักลงทุนเรียนรู้ที่จะกระจายการกระจายการลงทุน ไปยังตราสารหนี้ หุ้น และทองคำ ทำให้ได้รับผลกระทบทางลบน้อยกว่าคนที่ลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว ผ่านมาถึงตอนนี้ ทองคำยังได้รับประโยชน์จากการเป็น สินทรัพย์ที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน(Safe-Heaven )ที่ผ่านมาราคาทองคำ อ่อนตัวลงเพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ เป็นปัจจัยให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจึงกดให้ราคาทองคำอ่อนตัวอย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลกรณีการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีการส่งร่าง Brexit ต่อคณะกรรมาธิการสหภาสพยุโรป หรือยูโรโซนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็เป็นสถานการณ์ที่กลับมากดดันสินทรัพย์เสี่ยงและผลักดันให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งอย่างไรก็ตามในปี 2019 ประเด็นของการขอถอนตัวออกจากสภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) จะกลับมาเป็นปัจจัยต่อราคาทองคำอีกครั้งหนึ่ง เพราะแม้ว่านางเทเรซ่า เมย์นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจมาได้ แต่การ จะขอเสียงสนับสนุนในเรื่องร่างที่เสนอต่อคณะกรรมาธิการสหภาสพยุโรป หรือยูโรโซน ยังไม่อาจตั้งความหวังได้ว่าจะผ่านมติในที่ประชุมสภา ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินปอนด์ และกดดันในส่วนของราคาทองคำได้เช่นกัน เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

25/12/2561

ทองคำกับสำนวนไทย


ทองคำมีความผูกพันกับคนไทยมาช้านาน คนไทยถือว่า ทองคำเป็นของมงคลและมีค่า จึงมักนำมาใช้ตั้งชื่อคน ชื่อสถานที่สำคัญ เช่นสนามบินสุวรรณภูมิ ชื่อจังหวัดเช่น อ่างทอง สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชื่อวัด เช่น วัดภูเขาทอง วัดธาตุทอง วัดสุวรรณาราม วัดสุวรรณคูหา เป็นต้น หลายคำในภาษาไทยก็มีความหมายว่า ทองคำ เช่น สุพรรณ สุวรรณ กนก และกาญจนาเป็นต้น นอกจากนี้ทองคำยังถูกนำมาใช้ในสำนวนไทยเพื่อเปรียบเปรยสิ่งต่างๆ ซึ่งมีหลายสำนวนได้แก่ทองไม่รู้ร้อนหมายถึง เฉยเมย ไม่กระตือรือร้น ไม่สะดุ้งสะเทือนทองแผ่นเดียวกันหมายถึง เกี่ยวดองกันโดยการแต่งงานผ้าขี้ริ้วห่อทองหมายถึงผู้ที่มีฐานะร่ำรวย แต่ทำตัวสมถะหรือแต่งตัวซ่อมซ่อ เหมือนคนยากจนเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหนหมายถึง การแต่งกันของคนมีฐานะดีทั้งฝ่ายหญิงและชาย เมื่อแต่งงานแล้วทรัพย์สินเงินทองก็จะอยู่ในเครือญาติของทั้งคู่กิ่งทองใบหยกหมายถึง เหมาะสมกันกิ้งก่าได้ทองหมายถึง คนที่ไม่มีความสำคัญ ไม่เคยมีสมบัติและไม่มีความคิด เมื่อได้รับลาภยศแม้เพียงเล็กน้อย ก็คิดว่าตนมีความสำคัญเหนือผู้อื่น เกิดความเห่อเหิมลืมตัวแสดงความเย่อหยิ่งจองหองวางท่าใหญ่โต คนเช่นนี้ ย่อมเป็นที่รังเกียจของคนทั่วไปปิดทองหลังพระหมายถึงการที่บุคคลกระทำการใดๆที่เป็นประโยชน์อย่างมากกับกิจกรรมนั้นๆ แต่ผู้อื่นจะไม่ทราบว่าประโยชน์ที่เกิดขึ้นมานั้น ใครเป็นผู้ทำให้มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหวหมายถึง มีสมบัติเพียงเล็กน้อยแต่กังวลจนนอนไม่หลับปัจจุบันคนนิยมใช้ทองคำเป็นเครื่องประดับหรือเก็บสะสมเป็นทรัพย์สมบัติ หรือซื้อทองเพื่อการลงทุน เห็นได้จากมีร้านขายทองคำอยู่ทั่วไปทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทำให้ในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนที่มาจากการซื้อ-ขายทองคำเป็นจำนวนมากเช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

19/12/2561

ลูกโลกทองคำ Golden Globe Award


ในปี1944 สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำฮอลลีวูด (Hollywood Foreign Press Association) หรือ HFPA จัดให้มีการมอบรางวัลรางวัลลูกโลกทองคำ(Golden Globe Award)ให้กับภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่สตูดิโอของฟ็อกซ์ หลังจากนั้นการมอบรางวัลก็ทำกันมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ในสถานที่ต่างๆกันเช่นที่ Beverly Hills Hotel, Hollywood Knickerbocker Club และ Hollywodd Roosevelt Hotel การมอบรางวัลลูกโลกทองคำ จะจัดกันในช่วงต้นปีก่อนการมอบรางวัลออสการ์ โดยยึดผลจากการโหวดของนักข่าวและสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกา ผู้มีสิทธิเข้าชิงจะคัดเลือกกันในช่วงหลังวันที่1 ตุลาคมซึ่งแตกต่างจากรางวัลออสการ์ที่ใช้เกณฑ์วันที่1 มกราคม ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1950 HFPA ได้ตัดสินใจเพิ่มรางวัลพิเศษเพื่อมอบให้กับผู้ที่มีผลงานโดดเด่นในวงการบันเทิงเป็นบุคคลความสำคัญและเป็นบุคคลทรงคุณค่าในวงการบันเทิงโดยมอบรางวัลให้กับ เซซิล บี. เดอมิลล์ (Cecil B. DeMille) ในปีค.ศ. 1952 หลังจากนั้นได้ใช้ชื่อของเขาเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรางวัลบุคคลทรงคุณค่า ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัล เซซิล บี. เดอมิลล์ เป็นคนแรกคือ วอลท์ ดิสนีย์ ในปีถัดมา รางวัลลูกโลกทองคำต่างจากรางวัลออสการ์ตรงที่นอกจากจะมอบรางวัลให้กับภาพยนตร์แล้วยังมีการมอบรางวัลให้กับผลงานในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ด้วย จึงทำให้เวทีลูกโลกทองคำเป็นเวทีเดียวที่คนในวงการหนังได้มากระทบไหล่กับคนวงการทีวี อีกทั้งขั้นตอนวิธีการตัดสินรางวัลก็ต่างกัน คือลูกโลกทองคำจะมีสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำฮอลลีวูด (HFPA) ซึ่งเป็นสื่อมวลชนจากประเทศต่าง ๆ กว่า 50 ประเทศทั่วโลกเป็นคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งในปัจจุบันมีกรรมการตัดสินกว่า 90 คน แตกต่างกับรางวัลออสการ์ที่ใช้กรรมการลงคะแนนเสียงกว่าพันคน เพราะรางวัลจากสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์นี้มีสมาชิกที่สามารถลงคะแนนให้กับหนังที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมกว่า 6,000 คนรวมทั้งนักแสดงชื่อดัง โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ คนเขียนบทและผู้คนในแวดวงภาพยนตร์จำนวนมากด้วยวิธีการตัดสินที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนี้เองผู้ที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำบางครั้งก็ไม่ใช่ผู้ชนะรางวัลออสการ์เสมอไป แต่จากสถิติในหลายปีที่ผ่านมาพบว่าผู้ชนะของทั้งสองเวทีจะใกล้เคียงกันรางวัลลูกโลกทองคำถูกเป็นรางวัลที่ผู้คนให้ความเชื่อถือศรัทธาที่สุด และเป็นธรรมเนียมทุกปีที่รางวัลลูกโลกทองคำจะประกาศผลก่อน รางวัลออสการ์ และเป็นรายการแจกรางวัลที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับ 3 สำหรับ รองจากรางวัลออสการ์ และรางวัลแกรมมี่รางวัลลูกโลกทองคำ มาจากทองคำ 24 กะรัต มีความสูง 10.75 นิ้ว กว้าง 3.5 นิ้ว หนักราว ๆ 2.5 กิโลกรัม มีมูลค่าประมาณ 25,000 บาท บาบรา สตรัยแซนด์เป็นเจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำมากที่สุด 9 ตัว เมอรีล สตรีพ 8 ตัว , แจ๊ค นิโคลสัน มี 6 ตัว และ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า , โอลิเวอร์ สโตน , เชอร์ลีย์ แม็คเลน , โรซาลินด์ รัสได้คนละ 5 ตัว เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/

Read More

Loading...
More